Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์6 เมษายน 2552
สร้างองค์กรแห่งความสุข ยุควิกฤตฟิตเข้มกับ 4 Happy             
 


   
www resources

โฮมเพจ อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย)

   
search resources

อายิโนะโมะโต๊ะเซลส์ (ประเทศไทย), บจก.
ไทยซัมมิท ฮาร์เนส
Knowledge and Theory




* หนทางนำพาองค์กรฝ่าพายุแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ไม่หยุด
* ตอบโจทย์“ที่ทำงานน่าอยู่-คนทำงานมีสุข-ชุมชนสมานฉันท์”
* เรียนรู้หลักคิด-ประยุกต์สร้างHappy Work Placeทันสถานการณ์
* พร้อมแนวปฎิบัติองค์กรตัวอย่าง “ปลอดหนี้-ครอบครัวดี-มีน้ำใจงาม”

เมื่อ“องค์กร” ในปัจจุบันนี้ ต้องเผชิญหน้ากับกระแสวิกฤติและความเปลี่ยนแปลงของปัญหาเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมทั้งในระดับประเทศและระดับโลก ซึ่งมีความผันผวนปรวนแปรอย่างรวดเร็ว กระทบและสั่นคลอน

เชื่อมโยงถึงกันเป็นเครือข่ายคล้ายโดมิโน

สภาวะการณ์เช่นนี้ล้วนมีผลกัดกร่อนความมั่นคงของทุกองค์กร จะทำอย่างไรหากองค์กรต้องการภาวะวิกฤต ทำให้เกิดการปรับปรัว และแสวงหาการพัฒนาที่นำไปสู่ “องค์กรแห่งความสุข” เพื่อเป้าหมายการอยู่รอดเติบโตอย่างมั่นคงเช่นทุกวันนี้

... พบคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยผู้อำนวยการแผนงานสุขภาวะองค์กรภาคเอกชน“นายแพทย์ชาญวิทย์ วสันต์ธนารัตน์”ให้ข้อคิดและแนวทางปฎิบัติ

Happy 4 รับวิกฤต

ทั้งนี้ นายแพทย์ชาญวิทย์ ให้ข้อสรุปว่า แนวทางสร้างองค์กรแห่งความสุข ท่ามกลางภาะวิกฤติว่า สำคัญที่สุด คือ องค์กรต้องสร้างหลักคิดก่อน ส่วนรูปแบบก็กำหนดและปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ซึ่งในปัจจุบันอันดับแรก สิ่งที่ต้องให้น้ำหนัก คือ Happy Money หรือ ภาวะปลอดหนี้ เพราะการจัดสรรการเงินของคนในขณะนี้อาจยังน้อยเกินไป จึงกลายเป็นปัญหาใหญ่ขณะนี้ ดังนั้นจึงต้องมีการบริหารจัดการให้รายได้-รายจ่ายเพียงพอ อีกทั้งเป็นเรื่องสำคัญเพราะถ้าคนในองค์กรมีหนี้มากขึ้นเขาย่อมเห็นแก่ตัว รักตัวเองมากขึ้น รักคนอื่นน้อยลง ความซื่อสัตย์ความเสียสละหายไปเกิดความเครียด ขาดสติพึ่งพาเหล้าบุหรี่

ขณะเดียวกันในช่วงวิกฤต อาจทำให้เกิดความเครียดในชีวิตก็จะต้องผ่อนคลายด้วยการสร้างความผ่อนคลาย (Happy Relax), น้ำใจงาม (Happy Heart) และ ครอบครัวดี (Happy family) โดยการคิดถึงครอบครัวมากๆ เพราะเวลามีความทุกข์ วิกฤตในชีวิตคงไม่สามารถอยู่คนเดียวได้ แต่อยู่กับครอบครัวได้ โดยต้องให้คุณค่ากับครอบครัว อ้นเป็นแห่งเดียวที่จะอ้าแขนรับคุณ เพราะบางครั้งในสังคมเมือง พอออกจากบ้านมาแล้วก็จะลืม และในช่วงวิกฤตควรระวังตัวทั้งในเรื่องค่าใช้จ่าย ทัศนคติการมองโลก สังคมในเชิงบวก

“ในช่วงวิกฤตคุณต้องมีความเห็นอกเห็นใจ และคิดถึงเพื่อนร่วมงานในองค์กรให้มากๆไม่ฉวยโอกาสนี้เลย์ออฟพนักงาน ที่จริงสำคัญทุกข้อ ทั้งนี้ในการจัดการสร้างองค์กรแห่งความสุขกับองค์กรแต่ละประเภทโดยเฉพาะองค์กรบริการ จุดเด่นๆ คือ ต้องการคนที่มีน้ำใจ หรือ Happy Heart มากๆ และคนที่พัฒนาอยู่ตลอด Happy Brian) รวมถึงการดูแลสุขภาพตนเอง เพื่อ ให้มีสุขภาพดี (Happy Body) เป็นต้น”

ไทยซัมมิท-อายิโนโมโต๊ะ องค์กรปลอดหนี้

ทั้งนี้เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนจากตัวอย่างแนวปฎิบัติขององค์กรที่ได้ลงมือปฎิบัติ มีกรณีตัวอย่างของการสร้างHappyทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ Money, Relax, Heart และ Family ที่โดดเด่นในด้านปลอดหนี้ ต้องยกให้ 2 องค์กร ได้แก่ บริษัท ไทยซัมมิท ฮาร์เนส จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท อายิโนะโมะ ดำเนินธุรกิจการประกอบชุดสายไฟรถยนต์และรถจักรยานยนต์ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จ.ชลบุรี มีพนักงาน 2,700 คน บริษัทเชิญธนาคารจำนวน 6 แห่ง เข้ามาให้คำแนะนำเกี่ยวกับการบริหารเงินในรูปแบบต่างๆ และเปิดบัญชีเงินฝากภายในโรงงาน โดยหมุนเวียนกันเข้ามาให้บริการวันละ 2-3 ธนาคาร

ตลอดเวลา 6 วันหลังจากได้สรุปข้อมูลจากธนาคารที่ร่วมโครงการแต่ละแห่ง พบว่า พนักงานระดับล่างที่มีรายได้เฉลี่ยประมาณ 8,500 – 12,000 บาท/เดือน ซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่ให้ความสนใจเกี่ยวกับการออมในรูปแบบของการประกันชีวิตที่มีการคุ้มครองอุบัติเหตุด้วยมากกว่าออมในรูปแบบอื่นๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าพนักงานมีความรู้เรื่องการออมมากขึ้น มีทางเลือกที่จะออมมากขึ้น และสามารถที่จะเลือกออมในรูปแบบที่เหมาะสมกับตัวเองได้

ขณะที่ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ ฯจัดให้มีสหกรณ์ออมทรัพย์ ให้พนักงานได้ออมเงินตามความสมัครใจ ใครมีมากออมมาก มีน้อยออมน้อย และเปิดให้กู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ นอกจากนี้บริษัทฯ ได้มอบเงินให้สหกรณ์ออมทรัพย์จำนวน40 ล้านบาท เพื่อนำไปลงทุนในสถาบันการเงินที่มั่นคง และนำดอกผลที่ได้มาจัดเป็นสวัสดิการสงเคราะห์ช่วยเหลือพนักงาน (เสริมจากสวัสดิการที่จัดให้ปกติ) เช่น ค่ารักษาพยาบาล หรือในกรณีที่ประสบภัยพิบัติ หรือเมื่อพนักงานเกษียณอายุ ฯลฯ

Happy Family: ครอบครัวดี

สำหรับองค์กรที่สร้างครอบครัวดี (Happy Family) ที่ชัดเจน ได้แก่ บริษัท แอลซีบีคอนเทนเนอร์ เทอร์มินัล 1 จำกัด เป็นบริษัทผู้ให้บริการขนถ่ายตู้สินค้า ตั้งอยู่ที่ท่าเรือแหลมฉบังอ.ศรีราชา จ.ชลบุรี มีพนักงานประมาณ 400 คน ได้จัดกิจกรรม รูปแบบกิจกรรมคือ ใน “วันแห่งครอบครัว” โดยบริษัทอนุญาตให้พนักงานทุกคนพาครอบครัวเข้าเยี่ยมชมท่าเรือ เพื่อให้เด็กๆ รู้ว่าผู้ปกครองทำงานอะไรลักษณะงานเป็นอย่างไร

นอกจากนั้น ยังพาครอบครัวพนักงานไปเที่ยวด้วยกันที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ให้เด็กๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์หลากหลายประเภทร่วมกับครอบครัว กิจกรรมนี้ถือเป็นกิจกรรมที่สร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคนและยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ภายในครอบครัวทุกครั้งที่ทางฝ่ายบริหารได้เห็นรอยยิ้มของเด็กๆและคนในครอบครัวของพนักงานมีความสุข ก็มีพลังที่จะสร้างสรรค์กิจกรรมดีๆ เช่นนี้ต่อไปอีก

นอกจากนี้ ยังทำโครงการจับไข่ใส่ตะกร้า เร่หาพนักงาน ของบริษัทฯ ในกลุ่มสมบูรณ์ เป็นโครงการที่ทีมผู้บริหารและ HR ออกไปเยี่ยมครอบครัวของพนักงานถึงที่บ้านและนำตะกร้าใส่ไข่ไปเป็นของฝาก ช่วงเริ่มต้นโครงการนี้ไม่ได้รับการตอบรับจากพนักงานเท่าที่ควร เพราะเข้าใจว่าบริษัทต้องการตามไปจับผิดตนถึงที่บ้าน แต่เมื่อทำไปเรื่อยๆ

พร้อมกับความพยายามในการสื่อสารภายในองค์กรถึงวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของโครงการที่ต้องการใช้โอกาสนี้ในการไปเยี่ยมเยียนดูสภาพความเป็นอยู่ สอบถามสารทุกข์สุขดิบของพนักงาน สอบถามถึงปัญหาอุปสรรค รวมถึงความพึงพอใจในการทำงานเพื่อนำข้อมูลเหล่านี้ไปปรับปรุงพัฒนาองค์กร ท้ายที่สุดแล้วโครงการนี้ก็ได้การตอบรับจากพนักงานและครอบครัวเป็นอย่างดี

บางจาก-ไทยซัมมิท Happy Heart: น้ำใจงาม

ทั้งนี้แนวทางสร้างความสุขที่เกิดจากความมีน้ำ ใจเอื้ออาทรต่อกันและกันในองค์กร ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเพราะคือต้นทุนของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและเป็นประโยชน์ต่อการเพิ่มประสิทธิผลขององค์กรอย่างแท้จริง องค์กรตัวอย่างการปฏิบัติด้านนี้ได้น่าสนใจ คือ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ได้จัดกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ในวันเกิดพนักงานของ โดย HR จะจัดงานวันเกิดให้พนักงานทุก 2 เดือนมีผู้บริหารมาอวยพร ทานอาหารกลางวันร่วมกัน

จากนั้นก็พากันไปเยี่ยมเยียนชุมชนที่อยู่รอบๆบริษัท ไปถามไถ่สารทุกข์สุขดิบของเขา ดูว่ามีอะไรที่บริษัทสามารถช่วยชุมชนได้บ้าง มีของที่ต้องใช้ในครัวเรือน เช่น ยาสามัญประจำบ้าน ร่มฯลฯ ติดมือไปมอบให้บ้าง กิจกรรมนี้ นอกจากจะแสดงให้เห็นถึงความเอื้ออาทรที่บริษัทฯมีต่อพนักงานแล้ว ยังบูรณาการเรื่องของความเอื้ออาทรต่อชุมชนและสังคมเข้ามาอยู่ในกิจกรรมเดียวกันได้อย่างกลมกลืน พนักงานได้เรียนรู้ทั้งการเป็น “ผู้รับ” และ “ผู้ให้” ในเวลาเดียวกัน

ทางด้าน บริษัท ไทยซัมมิท ฮาร์เนส จำกัด (มหาชน) ได้กิจกรรมประกาศพนักงานดีเด่นและวันเกิดของพนักงานประจำเดือน เพื่อสนับสนุนขวัญและกำลังใจให้กับพนักงานที่มีความตั้งใจและทุ่มเทในการปฏิบัติหน้าที่ บริษัทฯ มีการประกาศยกย่องพนักงานดีเด่นในทุกๆ เดือน พร้อมกับมีการจัดงานวันเกิดให้แก่พนักงานที่มีวันคล้ายวันเกิดในเดือนนั้นๆ ด้วย ถือเป็นการนัดพบปะพนักงานเพื่อแจ้งข่าวสารและกระชับความสัมพันธ์ภายในองค์กร เมื่อถึงช่วงเวลานี้ ฝ่ายบริหารจะจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่มมาเลี้ยงพนักงานที่มาเข้าร่วมงานได้รับประทานกันอย่างเต็มที่

เผยขั้นตอนองค์กรสร้างสุข

สำหรับ ขั้นตอนสร้างองค์กรแห่งความสุข ผอ.แผนงานสุขภาวะองค์กรภาคเอกชน แนะนำว่า “ก่อนที่คุณจะทำให้องค์กรมีความสุขจะต้องรู้ก่อนว่าอะไรที่จะทำให้องค์กรมีความสุข ขณะเดียวกันก็ต้องถามว่าองค์กรเป็นใคร ต้องการอะไร มีวิสัยทัศน์หรือเป้าหมายในอนาคตอย่างไรบ้าง และคนที่จะตอบสนองวิสัยทัศน์อีก5-10 ปีต้องเป็นแบบใด ซึ่งก็ต้องมาคิดคนในองค์กรว่าจะต้องเป็นแบบใด หลังจากนั้นก็ต้องมาดูแต่ละด้านของคนว่าจะต้องใส่ความสุขด้านใดเข้าไปบ้าง อาจเป็นความสุขของตัวเอง ที่ทำงาน ครอบครัว หรือสังคม เป็นต้น

ต่อมาก็มาจัดสมดุลว่า องค์กรลักษณะดังกล่าว ต้องการคนมีความสุขแบบใด เช่น องค์กรแบบบริการก็ต้องการคนความสุขด้านจิตใจหรือ Happy Heart มากๆ คิดถึงคนอื่นๆ ส่วนองค์กรที่ทำงาน ก็ต้องการคนที่มีความสุขพัฒนาตนเองและมีความรับผิดชอบเช่น Happy Brian ซึ่งมันเป็นการตอบสนองการสร้างทีมเวิร์คในองค์กรได้อย่างยั่งยืน และยังมีความคิดสร้างสรรค์

ไม่เพียงเท่านี้ ต้องเริ่มต้นจากการเรียนรู้และทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เกี่ยวข้องกับองค์ประกอบที่สำคัญ 4 ประการ คือ “คน องค์กร ทรัพยากรมนุษย์ และวัฒนธรรมองค์กร” ซึ่งมีความสำคัญและความสัมพันธ์ที่ส่งผลเชื่อมโยงต่อกันและกัน จากนั้นจึงออกแบบกระบวนการ “แนวดิ่ง” คือ การผลักดันให้เป็นนโยบายขององค์กรโดยผู้บริหารให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่และ “แนวระนาบ”คือ การทำงานในรูปแบบของเครือข่ายที่ทำให้คนระดับในองค์กรรับรู้ เข้าใจและเปิดใจ

รวมทั้ง การเข้าไปมีส่วนร่วมในการคิดรูปแบบกิจกรรมที่เหมาะสมกับบริบทขององค์กร โดยการออกแบบกระบวนการต้องยึดหละก “การทำงานเป็นทีม ที่นำมาซึ่งความสุขในการทำงานและส่งผลให้เกิดความคิดสร้างสรรค์”เพื่อมุ่งหวังในการเพิ่มคุณภาพชีวิตและขีดความสามารถของคนทำงาน อันจะนำไปสู่การเพิ่มศักยภาพ ความเป็นเลิศ และการเพิ่มผลิตผลขององค์กรได้ในที่สุด

ผู้บริหาร-HR-พนักงาน ปัจจัยสำคัญHappy Workplace

ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญของการสร้าง Happy Workplace ประกอบด้วย หนึ่ง-ผู้บริหารต้องรับรู้เข้าใจและสนับสนุน โดยผู้บริหารต้องรับรู้ว่า องค์กรแห่งความสุข คืออะไร ความสุขคืออะไร และเข้าใจว่า ความสุขสามารถนำไปสู่การสร้างประโยชน์อะไรบ้าง ที่สำคัญ คือ งานHR ต้องทำให้ผู้บริหารสนับสนุนให้ได้

สอง- HR ต้องรับรู้ เข้าใจและปฎิบัติได้จริง โดย HR ต้องรู้ว่าองค์กรคืออะไร ทรัพยากรมนุษย์คืออะไร วัฒนธรรมองค์กรคืออะไร องค์ประกอบทั้งหมดมีความสำคัญและความสัมพันธ์เชื่อมโยง ส่งผลต่อกันอย่างไร และจะทำอย่างไรให้เกิด องค์กรแห่งความสุขได้จริง

สาม- พนักงานต้องรับรู้ เข้าใจและมีส่วนร่วมกิจกรรมที่จะทำ เพื่อนำไปสู่องค์กรแห่งความสุขให้ทุกองค์กรมีส่วนร่วม ต้องให้ทุกคนรู้สึกเป็นส่วนร่วม เพราะการเพิ่มการมีส่วนร่วมของคนในองค์กร คือ หลักการสำคัญของHappy Workplace

ทั้ง 3 ปัจจัยนี้ ต้องประสานและร่วมมือร่วมใจกันเข้าใจในบทบาทและหน้าที่ของตนเอง โดยไม่มองว่า

Happy Workplace เป็นระบบที่ต้องทำและทำตามกระแส แต่ต้องเรียนรู้ว่าองค์กรอื่นๆเขาอยู่กันอย่างไร จึงมีความสุขและเราควรจะมาปรับใช้ให้เข้ากับวัฒนธรรมองค์กรของเราได้อย่างไร เพื่อสร้างให้ความสุขเป็นนโยบายขององค์กร

ผู้นำคิดบวก ตัวแปรองค์กรแห่งสุข

นอกจากปัจจัยดังกล่าว ภาวะผู้นำก็ตัวแปรที่ทำให้การสร้างองค์กรแห่งความสุขประสบความสำเร็จ โดย ผู้อำนวยการแผนงานสุขภาวะองค์กรภาคเอกชน ให้ทัศนะว่า สิ่งสำคัญ คือ ทัศนคติที่ดีต่อคนในองค์กรหรือต้องมองลูกน้องในแง่บวก เพราะสังคมที่ผ่านมามององค์กรแบบกลับทิศ โดยมองคนในองค์กรในทางลบ

“ผู้นำจะต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนในองค์กร โดยต้องมีภาวะผู้นำอย่างแท้จริง และที่สำคัญที่สุด คือ จะต้องทำให้คนในองค์กรเชื่อใจผู้นำให้ได้ หมายถึง ต้องมีทัศนคติระหว่างกันเป็นแบบบวก

ซึ่งเกิดขึ้นจากการมีองค์ความรู้ ภาวะผู้นำ หรือหากคุณจะเรียนจบจากฮาเวิร์ดเก่งขนาดไหน หากมีทัศนคติลบต่อองค์กรทุกอย่างก็ไม่สามารถบริหารองค์กรให้ไปรอด”นายแพทย์ชาญวิทย์ บอกในตอนท้าย

Happy Workplace By Happy 8

“องค์กรแห่งความสุข” หรือHappy Workplace เป็นการเปิดความคิดและให้ความรู้กับองค์กรต่างๆ เพื่อให้หันมาใส่ใจเรื่อง “คุณภาพชี วิ ต” ของคนทำงาน ที่ครอบคลุมทั้งด้านกาย ใจ จิตวิญญาณ และสังคม ได้อย่างสมดุล โดยมี “ความสุข 8ประการ” หรือ Happy 8 เป็นแนวทางสนับสนุนให้องค์กรต่างๆ นำไปปฏิบัติเพื่อสร้างความสุขในการทำงานตามวิถีและบริบทของตนเองได้อย่างแท้จริงและยั่งยืน

นอกจากนี้ ยังหมายถึง กระบวนการพัฒนาคนในองค์กรอย่างมีเป้าหมายและยุทธศาสตร์ ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ขององค์กร เพื่อให้องค์กรมีความสามารถและพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลง นำพาองค์กรไปสู่การเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน

ความสุข 8 ประการ หรือHappy 8 เป็น“เครื่องมือ” สร้างความสุขในองค์กร ที่ต้องการสื่อถึงความสุขที่สมดุลทุกด้านของชีวิตอันจะนำไปสู่ผลลัพธ์ 3 ประการคือ “คนทำงานมีความสุข ที่ทำงานน่าอยู่และชุมชนสมานฉันท์” ภายใต้แนวคิดที่ว่าคนจะมีความสุขได้ต้องประกอบด้วยปัจจัยสำคัญ 8 อย่างที่มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน“เครื่องมือ” เข้าถึงความสุขตาม

Happy 8 ความสุขทั้งแปด ประกอบไปด้วย Happy Body (สุขภาพดี) , Happy Heart (น้ำใจงาม) , Happy Soul (ทางสงบ) , Happy Relax (ผ่อนคลาย) , Happy Brian (หาความรู้) , Happy Money (ปลอดหนี้) , Happy Family (ครอบครัวดี) และ Happy Society (สังคมดี)

ทั้งนี้ เคล็ดลับการพัฒนาสู่ “องค์กรแห่งความสุข” ต้องมี teamwork ซึ่งทำงานเป็น team ที่ work ได้จริงในรูปแบบที่ทุกคนใน team เป็นพวกเดียวกันรักใคร่สามัคคีกัน ทำ งานร่วมกันอย่างมีความสุข (happy) อยู่ด้วยกันแล้วพัฒนาก้าวหน้าขึ้น เพราะมีความคิดสร้างสรรค์(creativity)การอยู่ร่วมกันของคนในองค์กรต้องทำให้ทุกคนรู้สึกว่ามีการสร้างสรรค์ การพัฒนา การเติบโต การให้คุณค่าของคน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us