“ออมสิน”ควานหาคู่ดูใจกันอยู่นานกว่าจะมาลงตัวที่ “เคทีซี” ในบทสรุป บัตรเครดิต “เคทีซี-ออมสิน วีซ่า แพลทินัม” และ “เคทีซี-ออมสิน ไทเทเนียม มาสเตอร์การ์ด” งานนี้ 2 ค่ายมีแต่ได้ เพราะด้านออมสินได้ขยายพื้นที่บัตรเครดิต เป็นการสร้างบริการใหม่ แถมเป็นครั้งแรกขององค์กรแห่งนี้อีกด้วย ขณะที่ เคทีซี ก็หอมหวานกับฐานลูกค้ากลุ่มข้าราชการ-รัฐวิสาหกิจที่มีความเสี่ยงต่ำ แม้เป้าหมายในการเพิ่มบัตรเครดิตจากแบงก์แห่งนี้จะไม่สูงมากก็ตาม

หาบทสรุปได้สักทีสำหรับ “แบงก์ออมสิน” ที่วางแผนจะออกบัตรเครดิต งานนี้เรียกว่าควานหาพันธมิตรที่เชียวชาญอยู่นานโข เพราะเดิมทีคิดว่าจะทำด้วยตัวเองแต่เพราะไม่ใช่งานที่ถนัด แถมสมรภูมิการแข่งขันในตลาดนี้ก็รุนแรง ทำให้ออมสินตัดสินใจหาผู้เชี่ยวชาญมาช่วยสนับสนุนแทน ว่ากันว่าถึงขั้นคุยกับแบงก์จีนมาแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถจับคู่กันได้ จนกระทั้งพบเจอและได้พูดคุยวางแผนร่วมกับ “เคทีซี” จึงทำให้งานนี้ออมสินตกลงปลงใจร่วมมือในทันที

เลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการ ออมสิน ยอมรับว่า บัตรเครดิตเป็นบริการที่แบงก์ไม่เชี่ยวชาญจึงจำเป็นต้องหาพันธมิตรเข้ามาสนับสนุนให้งานนี้ประสบความสำเร็จ เนื่องจากบัตรเครดิตถือเป็นอีกหนึ่งบริการที่แบงก์ควรมีให้แก่ลูกค้าในพอร์ตตนเอง เพราะที่ผ่านมาลูกค้าออมสินที่มีกำลังทำบัตรเครดิต ต่างก็ถือบัตรของค่ายอื่นเนื่องจากออมสินยังไม่มีบริการประเภทนี้ ซึ่งในวันนี้เมื่อมีบริการดังกล่าวเกิดขึ้นจึงเสมือนว่าออมสินได้ก้าวไปสู้บริการที่ครบวงจรยิ่งขึ้น

“เคทีซีถือเป็นผู้นำทางธุรกิจบัตรเครดิต เพราะลูกเล่นทางการตลาดที่แปลกใหม่ ทันสมัย และเครือข่ายพันธมิตรที่มีจำนวนมาก จึงเชื่อว่าน่าจะสร้างมูลค่าเพิ่มในบริการให้กับลูกค้าของเราที่มีอยู่กว่าหลายล้านบัญชีได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะลุกค้าที่ต้องการใช้บัตรเครดิตในการจับจ่ายสินค้าและบริการต่างๆ แทนการใช้เงินสด จะได้รับความสะดวกสบายยิ่งขึ้น”

แม้ออมสินเป็นแบงก์รัฐ แต่ก็พยายามจะเพิ่มบริการให้ครบวงจร ไม่น้อยหน้าไปกว่าแบงก์พาณิชย์ แลยังเป็นการตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าของแบงก์ออมสินอีกด้วย ซึ่งเชื่อว่าลูกค้าในพอร์ตออมสินที่เคยถือบัตรเครดิตค่ายอื่น ก็จะหันมาถือบัตรเครดิตของแบงก์ออมสิน

การเพิ่มบริการที่ครบวงจรมากขึ้นนอกจากสามารถขยายฐานลูกค้าของออมสินได้แล้ว ยังถือเป็นการรักษาฐานลูกค้าเก่าให้ยังคงใช้บริการกับออมสินต่อไป โดย เลอศักดิ์ บอกว่า ไม่ได้ตั้งเป้าหมายจำนวนลูกค้ามากมาย โดยเบื้องต้นหวังดึงฐานลูกค้าในพอร์ตเดิมมาใช้บริการดังกล่าวก่อน ซึ่งคาดว่าถึงสิ้นปีนี้จะมีลูกค้าทำบัตรเครดิต ออมสิน-เคทีซี ทั้งสิ้น 5 หมื่นใบ

เลอศักดิ์ บอกอีกว่าปัจจุบันออมสินมีลูกค้าถึง 26 ล้านบัญชี ซึ่งในจำนวนนี้มีลูกค้าจำนวนไม่น้อยที่สามารถถือบัตรเครดิตได้ หากแต่การอนุมัติบัตรเครดิตนั้นทางเคทีซีจะเป็นฝ่ายพิจารณา

โดยมาก ข้าราชการและรัฐวิสาหกิจจัดเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากมีหนี้สินจากการกู้มากมาย แต่ถ้ามองอีกมุม ข้าราชการและรัฐวิสาหกิจถือเป็นอาชีพที่มีความมั่นคงสูง และใช่ว่าทุกรายที่อยากทำบัตรเครดิต เคทีซีจะอนุมัติ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับเกณฑ์การพิจารณาของทางเคทีซีด้วย ซึ่งถ้ารายใดมีหนี้สินจำนวนมากต่อให้เป็นงานที่มั่นคงก็เป็นไปได้สูงว่าเคทีซีอาจไม่ออกบัตรเครดิตให้

อย่างที่กล่าวงานนี้ไม่ได้มีแต่ออมสินเท่านั้นที่ได้รับผลประโยชน์ ทางด้านเคทีซีเองก็ได้เช่นกัน นิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่ บัตรกรุงไทย หรือ เคทีซี บอกว่า ออมสินเป็นแบงก์รัฐที่ไม่เพียงมีฐานะทางการเงินมั่นคงเท่านั้น แต่ยังมีจำนวนฐานลูกค้ามากมายด้วย ซึ่งในส่วนนี้ทำให้เคทีซีสามารถขยายพอร์ตบัตรเครดิตเพิ่มขึ้นจากฐานลูกค้าออมสิน โดยปัจจุบันสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีมีอยู่จำนวน 1.6 ล้านบัตร และเป็นฐานลูกค้าที่น่าสนใจเพราะด้วยอาชีพที่มีความมั่นคงสูง รายได้แน่นอน จึงทำให้เมื่อพิจารณาดีๆ จัดว่าเป็นลูกค้าพอร์ตนี้มีความเสี่ยงต่ำ โดยตลาดที่เคทีซีหวังเจาะเข้าไปคือ ข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ

“สำหรับบัตรเครดิต เคทีซี-ออมสิน นับเป็นบัตรเครดิตใบแรกของออมสินที่จะนำเสนอให้กับฐานลูกค้าออมสินโดยตรง และยังรวมถึงลูกค้าทั่วไปที่สนใจ เพื่อขยายช่องทางให้ลูกค้าออมสินได้รับความสะดวกสบายจากบริการ แถมยังได้รับการรองรับจากทั่วโลกด้วยมาตรฐานของวีซ่า และมาสเตอร์การ์ด”

นิวัตต์ เล่าถึงสิทธิประโยชน์ของบัตรเครดิต“เคทีซี-ออมสิน ไทเทเนียม มาสเตอร์การ์ด” มีความพิเศาคือทุกๆการใช้จ่ายผ่านบัตร 25 บาท จะได้รับคะแนนสะสม KTC Forever Rewards 1 คะแนน ซึ่งสมาชิกสามารถใช้คะแนนสะสมทุกๆ 1,000 คะแนน แลกสลากออมสินได้ 2 หน่วยๆ ละ 50 บาท รวมมูลค่า 100 บาท เพื่อรับสิทธิ์ลุ้นรางวัลที่1 มูลค่า 10 ล้านบาท 2 รางวัล และรางวัลอื่นๆอีกประมาณ 850,000 รางวัล รวมมูลค่า 270 ล้านบาทต่อเดือน

ลูกค้าที่สมัคร บัตรเครดิต เคทีซี-ออมสิน ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 มิถุนายน 2552 และใช้จ่ายผ่านบัตรที่ใดก็ได้ภายใน 1 กรกฎาคม 2552 รับฟรีสลากออมสิน 5 หน่วย เมื่อใช้จ่ายตั้งแต่ 25,000 บาทขึ้นไป รับสลากออมสิน 15 หน่วย เมื่อใช้จ่าย 50,000 บาทขึ้นไป รับสลากออมสิน 30 หน่วย เมื่อใช้จ่าย 75,000 บาทขึ้นไป และรับสลากออสิน 60 หน่อย เมื่อใช้จ่ายตั้งแต่ 100,000 บาทขึ้นไป

โดยผู้สมัครบัตร ไทเทเนียมจะต้องมีรายได้ 40,000 บาทขึ้นไปต่อเดือน และแพลทินัมจะต้องมีรายได้ 70,000 บาทขึ้นไปต่อเดือน

เหมือนออมสินได้ทางออกในเรื่องบริการครบวงจรเมื่อสามารถมีบัตรเครดิตได้ ด้วยความร่วมมือจากพันธมิตรรายใหญ่ที่เชี่ยวชาญในการให้บริการบัตรเครดิตอย่างเคทีซี ที่สำคัญงานนี้ทั้งสององค์กร มีแต่ยิ้มรับผลประโยชน์ได้กับได้ แม้เศรษฐกิจช่วงนี้จะอยู่ในสถานการณ์ที่เรียกว่าฝ่ามรสุมพายุก็ตามที แต่ด้วยฐานลูกค้าที่เลือกเน้นในระดับบน แถมยังเป็นกลุ่มคนที่มีอาชีพมั่นคงสูง คือข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ ทำให้เกมนี้ ไม่มีเสีย