|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
นายหญิงคนใหม่ตั้งเป้า AUM บลจ.ไทยพานิชย์ปีนี้ โต 20% หวังได้เม็ดเงินใหม่เพิ่ม ลั่นรักษาแชมป์อันดับ 1 กองทุนรวมต่อเนื่องด้วยกลยุทธ์รุก 4 ด้าน แต่เน้นโตแบบอนุรักษ์นิยม เตรียมออกกองตราสารหนี้พันธบัตรรัฐบาลอิตาลีอีก 2 กอง มั่นใจความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากในประเทศ ขณะที่ครึ่งปีหลังเล็งออกกองอสังหาริมทรัพย์ ทั้งโรงแรมและคลังสินค้า
โชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ไทยพาณิชย์ กล่าวในวาระเข้ารับตำแหน่งใหม่ว่า ในปีนี้ตั้งเป้าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ(Asset Under Management: AUM)เติบโตเพิ่มขึ้น 20% หรือมีเงินทุนใหม่เพิ่มขึ้นอีก 7.5 หมื่นล้านบาท จากสิ้นปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 3.58แสนล้านบาท โดยปัจจุบันยอด AUM อยู่ที่ 3.86 แสนล้านบาท
ขณะที่แบ่งเป็นธุรกิจกองทุนรวมที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่อันดับ 1 มีขนาดมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 3.22 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีที่ผ่านมา จำนวน 2.38 หมื่นล้านบาท ส่วนธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มีขนาดมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 5.98 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.8 พันล้านบาท และธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 4.53 พันล้านบาท ลดลงจากปีที่ผ่านมาจำนวน 1.58 พันล้านบาท
สำหรับกลยุทธ์การดำเนินงานปี 2552 จะเน้นนโยบายเชิงรุก ให้ความสำคัญกับการแบ่งกลุ่มลูกค้าให้ชัดเจน ทั้งรายย่อย สถาบันและลูกค้าที่มีเงินลงทุนสูง โดยมีแผนงานรองรับ 4 ด้านคือ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าต่อเนื่อง เน้นกองทุนความเสี่ยงต่ำให้ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารพาณิชย์
"บลจ. ไทยพาณิชย์ยังคงเดินหน้านโยบายการเติบโตอย่างมั่นคงและต่อเนื่องต่อไป โดยเฉพาะการรักษาตำแหน่งอันดับ 1 ของกองทุนรวมให้ได้ แต่ทั้งนี้การเป็นอันดับ 1 ต้องมองในระยะยาวเราต้องวางรากฐานที่ดี จึงจะโตอย่างยั่งยืนไม่ใช้โตอย่างอ่อนไหว ดังนั้นในช่วงแรกต้องสร้างฐานให้แกร่ง คือการพัฒนาคนในองค์กร"
ส่วนการออกกองทุนใหม่ๆ ในปีนี้ยังคงเน้นการลงทุนที่อนุรักษ์นิยม แต่ให้ผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว ต้องสูงกว่าเงินฝากในประเทศไม่ต่ำกว่า 0.5% ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้ออกกองทุนรวมตราสารหนี้ที่ลงทุนในพันธบัตรประเทศอิตาลี อายุ 2 ปี และคาดว่าจะออกกองทุนใหม่อีก 2 กองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้อิตาลี
"มีแผนว่าจะออกอีก 2 กอง เป็นเทอมฟันด์ระยะสั้น 6 เดือน คาดผลตอบแทน 1.3-1.4% ซึ่งเหตุที่เลือกอิตาลีเพราะมั่นใจความแข็งแกร่ง ภาคสถาบันการเงินไม่มีปัญหา และเห็นว่าความเสี่ยงต่ำเมื่อสวอปค่าเงินแล้วยังมีผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในประเทศ ขณะที่อีกหลายประเทศทั้งเยอรมันฝรั่งเศส สเปน เราก็ดูอยู่ แต่ก็ไม่กล้าลงเพราะสวอปแล้วผลตอบแทนที่กลับมาอยู่ในรูปค่าเงินบาทแทบไม่เหลืออะไรเลย"
นอกจากนั้นในครึ่งปีหลังยังมีแผนออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินงานว่าจะออกมาในรูปแบบไหน ซึ่งจะมีทั้งคลังสินค้า โรงแรมระดับ 4 ดาวและออฟฟิศ โดยมีทั้งรูปแบบที่เป็นเจ้าของเองและเช่าซื้อ ขนาดกองทุนละประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท
|
|
|
|
|