|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
แบงก์ทหารไทยแนะเอสเอ็มอีระมัดระวังในการทำธุรกิจ หลังเศรษฐกิจส่อทรุดยาว 2 ปี เตรียมรุกสินเชื่อซัพพลายเชนเสริมสภาพคล่องคู่ค้าเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษ ตั้งเป้าสินเชื่อเอสเอ็มอีโต 5,000 ล้านบาท ด้านธุรกิจรายย่อยฟุ้งเตรียมเห็นความเปลี่ยนแปลงของสาขาในไตรมาส2 นี้ พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ยังไม่เคยมีในไทย
นายสยาม ประสิทธิศิริกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอยู่ในขณะนี้ทางผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) จำเป็นที่จะต้องมีความระมัดระวังในการทำธุรกิจหรือการค้าขายมากขึ้น เนื่องจากในภาวะเช่นนี้อาจทำให้เกิดในเรื่องของหนี้การค้า ซึ่งมีปัญหามาจากการที่คู้ค้าชำระหนี้ได้ล่าช้า และจะส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของผู้ประกอบการได้ โดยภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวนี้ส่วนตัวมองว่าจะลากยาวเป็นเวลาประมาณ 2 ปี
สำหรับผลกระทบของการที่ลูกหนี้ทางการค้าชำระหนี้ล่าช้าและส่งผลต่อผู้ประกอบการอาจจะมีปัญหาในเรื่องสภาพคล่องนั้น เป็นส่วนทำให้ทางผู้ประกอบการมีความต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้น โดยธนาคารมีแนวคิดที่จะนำเสนอสินเชื่อสำหรับเครือข่ายธุรกิจ (ซัพพลายเชน) ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยเข้ามาเสริมสภาพคล่องให้กับคู่ค้าที่อาจประสบปัญหาอยู่ ซึ่งธนาคารสามารถเห็นประวัติทางการเงินจากลูกค้ารายใหญ่ซึ่งเป็นลูกค้าของธนาคารอยู่แล้ว โดยคู่ค้าส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจเอสเอ็มอี โดยธนาคารพร้อมที่จะให้การสนับสนุนสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ
“ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีตอนนี้จะต้องมีการปรับตัวมาก เพราะเศรษฐกิจชะลอตัว อีกทั้งยังมีเรื่องของการปรับลดต้นทุนการผลิต การควบคุมเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย รวมไปถึงเรื่องของการลดค่าใช้จ่ายด้านพนักงาน ควรให้มีการทำงานเป็นกะ พร้อมทั้งหาช่องทางการตลาดใหม่ โดยเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบมากในช่วงนี้ คือ ธุรกิจเอสเอ็มอีที่ทำด้านการท่องเที่ยวและโรงแรม ธุรกิจชิ้นส่วนและยานยนต์ และธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ โดยเอสเอ็มอีทั้ง 3 กลุ่มต้องประคองตัวและปรับตัวอย่างมาก”
นายสยาม กล่าวอีกว่า ในปีนี้ธนาคารตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ให้กับธุรกิจเอสเอ็มอี 45,000 ล้านบาท เมื่อหักกับสินเชื่อชำระคืนจะทำให้มียอดสินเชื่อเอสเอ็มอีเพิ่มขึ้นสุทธิ 5,000 ล้านบาท จากสิ้นปีที่ผ่านมามียอดสินเชื่อเอสเอ็มอี 117,000 ล้านบาท เพิ่มเป็น 122,000 ล้านบาท
“ยอดสินเชื่อเอสเอ็มของธนาคารมีค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่ ขณะที่ฐานลูกค้ามีขนาดใหญ่ ทำให้ธนาคารมีความนสามารถในการขยายสินเชื่อเอสเอ็มอีได้อีกมาก”
สำหรับสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของธุรกิจเอสเอ็มอี ในปัจจุบันมีอยู่กว่า 10 % ของสินเชื่อเอสเอ็มอี ขณะที่เอ็นพีแอลที่เกิดขึ้นใหม่มีอัตราน้อยกว่า 1 % เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาธนาคารมีการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เอ็นพีแอลที่ค้างอยู่จะเป็นเอ็นพีแอลรายเดิม
ด้านนางกาญจนา โรจวทัญญู ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานส่งเสริมการตลาดลูกค้ารายย่อย ธนาคารทหารไทย กล่าวว่า แผนงานในส่วนของธุรกิจรายย่อยเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเพิ่มสัดส่วนรายได้ของธุรกิจรายย่อยเป็น 40 % นั้น จะเริ่มจากการดูแลในเรื่องของสาขา ซึ่งในขณะนี้ค่อนข้างมั่นใจว่าในช่วงไตรมาส 2 นี้จะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนของสาขาธนาคาร ซึ่งจะเป็นสิ่งดึงดูดให้ผู้ทื่ยังไม่เคยเป็นลูกค้าหรือเป็นลูกค้าของธนาคารอยู่แล้วให้ความสนใจกับธนาคารมากขึ้น ทั้งนี้ธนาคารจะมีการนำผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ซึ่งยังไม่เคยมีในเมืองไทยและยังไม่เคยมีให้บริการในสาขามาก่อน
สำหรับการแข่งขันของธุรกิจรายย่อยในตลาดนั้น ยังคงมีค่อนข้างสูง โดยหลายธนาคารจะมีการทำตลาดที่ครบเครื่องมากขึ้น และมีรูปแบบที่หลากหลายขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่ผู้จะได้ประโยชน์มากที่สุดจากการแข่งขันคือผู้บริโภคนั่นเอง ในส่วนของธนาคารทหารไทยขณะนี้ก็มีความพร้อมที่จะแข่งขันอยู่แล้ว
|
|
|
|
|