เมื่อพูดถึงธุรกิจประกันชีวิตในตอนนี้ หลายๆ คนคงนึกถึงยักษ์ใหญ่จากต่างประเทศอย่างเอไอเอ
บริษัทคนไทยอย่างไทยประกันชีวิต ไทยสมุทรฯ หรือหากพูดถึงระดับที่เล็กลงมาหน่อยก็คงพูดถึงทีเอสไลฟ์
หรืออาคเนย์ฯ มากกว่าที่จะพูดถึงประกันชีวิตศรีอยุธยา
ประกันชีวิตศรีอยุธยาในระยะเริ่มต้น ก่อตั้งโดยเทียน อังสนันท์ เมื่อปี
2494 มีพลเอกอดุลย์ อดุลย์เดชจรัส เป็นประธานกรรมการ จอมพลผิน ชุณหะวัณ และพลเอกประภาส
จารุเสถียรเป็นที่ปรึกษาในช่วงเวลานั้น
ด้วยทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท เนื่องจากกิจการที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจึงเพิ่มทุนจาก
10 ล้านเป็น 20 ล้าน และเป็น 50 ล้านบาทในปัจจุบัน โดยมีชวน รัตนรักษ์ เป็นประธานกรรมการและชาติเชื้อ
กรรณสูต เป็นรองประธาน
ประกันชีวิตศรีอยุธยาในปีนี้ โดยเฉพาะทางด้านประกันชีวิตทั้งสามัญ กลุ่ม
และอุตสาหกรรมขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 143.78% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยมีเบี้ยประกันชีวิตรวม
16.85 ล้านบาท เทียบกับปี 2529 ที่มีเพียง 6.91 ล้านบาท และปี 2528 แค่ 3.64
ล้านบาทตามลำดับ
การเจริญเติบโตก้าวแรกในวันนี้เป็นผลมาจากการยกเลิกระบบเก่า และทำฐานธุรกิจใหม่เพื่อเป็นรากฐานในการแข่งขันในตลาดนี้อย่างสูงในอนาคต
"ตอนนี้ยักษ์ใหญ่ในตลาดก็เริ่มนโยบายฮุบตลาดกันแล้ว เมื่อก่อนจากเป้าที่เป็นจำนวนทุนประกัน
หรือเบี้ยประกัน ก็หันมาตั้งเป้าเป็นจำนวนราย ตั้งจำนวนรายมากๆ ตลาดมันก็ขยายไปมาก
รายเล็กไม่เจ๊งหรอก แค่พออยู่ได้ แต่ถ้าระยะยาวมันแต่หาจากลูกค้าเก่าคงไม่ไหวเหมือนกัน"
คนในวงการผู้หนึ่งบอกกับ "ผู้จัดการ"
ประกันชีวิตศรีอยุธยามีโอกาสศึกษาจากการรุกของทีเอสไลฟ์และมหานครที่พยายามขยายตัวในวิธีที่แตกต่างกัน
แต่ทั้งสองก็ไม่ได้ขยายตัวไปมากมายอย่างที่คาดหวังกันไว้นัก
และวิธีการของประกันชีวิตศรีอยุธยาในการสร้างธุรกิจใหม่ก็คือ การดึงตัวแทนจากบริษัทอื่นเข้ามาสร้างฐานใหม่
"การฝึกฝนตัวแทนให้มีคุณภาพในธุรกิจนี้ยากมากๆ ผมว่าเขาเสียงเงินเทรนคนใหม่หมดกับทุ่มไปทีเดียวแต่ได้ตัวแทนคุณภาพมา
ผมคิดว่าในระยะยาวมันคุ้มค่ากว่ามากเลย" ตัวแทนผู้หนึ่งแสดงความเห็น
นอกจากนี้ผู้บริหารของประกันชีวิตศรีอยุธยาเองคงมองถึงการเจริญเติบโตไปพร้อมกันในทุกๆ
ด้านเพราะหากด้านปฏิบัติการ หรือฝ่ายการตลาดขยายตัว ฝ่ายบริการกรมธรรม์ ฝ่ายสำนักงานก็ต้องขยายด้วย
โดยเปิดรับพนักงานแผนกต่างๆ ในช่วที่มีข่าวการดึงตังแทนจากบริษัทอื่นในเดือนกรกฎาคม
จนกระทั่งถึงสิ้นเดือนสิงหาคม
ประกันชีวิตศรีอยุธยาในวันนี้ ได้เริ่มก้าวเข้าไปสู่การแข่งขันอย่างแท้จริงในตลาดที่จะหนักหนาสาหัสอย่างยิ่งในอนาคตแล้ว
ผลการดำเนินงานในช่วงสั้นๆ คงไม่สามารถสรุปผลการตัดสินใจ การวางแผนเพื่อการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาที่ผ่านมาได้
ประกันชีวิตศรีอยุธยาในวันนี้ ก็เป็นเช่นเดียวกับวันก่อน ที่ไม่มีเสียงสะท้อนใดๆ
ตอบกลับมา ไม่ว่าจะเป็นการประชาสัมพันธ์ตัวเองแก่บุคคลภายนอก การตอบโต้ข่าวคราวที่พาดพิงถึงไม่ว่าจะเป็นในแง่บวกหรือมุมลบ
"อีก 2-3 ปีคุณมาหาผมใหม่ก็แล้วกัน แล้วผมจะให้สัมภาษณ์คุณมากกว่านี้"
เฉลิม ตระกูลทอง กรรมการผู้จัดการคนปัจจุบันบอกกับ "ผู้จัดการ"
เมื่อเราถามเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงในบริษัทของเขา
ก่อนจะจากมา "ผู้จัดการ" เห็นตัวแทนใหม่สองสามคนชี้ไปกรอบรูปสีทองที่ติดอยู่บนผนังในแผนกฝึกอบรมของบริษัท
"สักวันหนึ่งดอกไม้งามบานสะพรั่ง
สักวันหนึ่งคนจริงจังจะหลากหลาย
สักวันหนึ่งคนดีดีทั้งหญิงชาย
จะมากันมากมายใน "ศรีอยุธยา"
ถูกแล้ว "(กรุง) ศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดี" และเมื่อผลพวงแห่งความสำเร็จปรากฏเด่นชัดขึ้นในวันข้างหน้า
"ผู้จัดการ" คงมีโอกาสพูดคุยกับเฉลิม และผู้บริหารอีกหลายๆ คนมากกว่านี้