Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กุมภาพันธ์ 2531








 
นิตยสารผู้จัดการ กุมภาพันธ์ 2531
อภิวัฒน์ นันทาภิวัฒน์ ถึงวันที่ต้องโตเสียที             
 


   
search resources

ธนาคารแหลมทอง
อภิวัฒน์ นันทาภิวัฒน์
Banking




"อยากให้โลกนี้ไม่มีสุระ" คงไม่เพียงสมบูรณ์ นันทาภิวัฒน์ เท่านั้นที่คิดอย่างนี้ พี่น้องนันทาภิวัฒน์ส่วนใหญ่ ก็คงจะคิดในทำนองเดียวกัน จะมีที่แตกต่างก็คงจะเป็นสะใภ้ใหญ่และภิวัฒน์นันทาภิวัฒน์ซี้ปึ้กของสุระผู้วายชนม์ไปเมื่อหลายปีก่อนหน้านี้เท่านั้น

การมีสุระอยู่ในโลกนี้ก็คงไม่สร้างความลำบากใจให้กับสมบูรณ์มาก ถ้าเส้นทางของสุระไม่เข้ามาข้องแวะกับนันทาภิวัฒน์

เผอิญว่าสุระเข้ามายุ่งเกี่ยวกับนันทาภิวัฒน์และเกี่ยวเอามากๆ เสียด้วย และก็เกี่ยวกับธนาคารแหลมทองซึ่งสมบูรณ์คิดว่า เป็นของตระกูลนันทาภิวัฒน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งคิดว่าเป็นของตนที่สืบทอดมากจากไพศาลผู้พี่

และแล้วในที่สุด สุระก็สามารถเทคโอเวอร์แหลมทองมาเป็น "แบงก์แขก" แห่งแรกของเมืองไทยสำเร็จ

สมบูรณ์ที่ตั้งใจว่าจะรีไทร์เมื่อตอนอายุ 65 ก็ได้ลงจากตำแหน่งสมใจนึก เพียงแต่ว่าไม่ได้เดินลงเองเท่านั้น

สุระ จันทร์ศรีชวาลา เป็นผู้กระชากสมบูรณ์ ลงมาอย่างที่สมบูรณ์ไม่ค่อยจะยินยอมพร้อมใจ

และนี่คงเป็นอุทาหรณ์ได้ดีสำหรับนายแบงก์ที่มีลักษณะ "วัน แมน โชว์" ที่ยังหลงเหลืออีกไม่นานแล้ว

สมบูรณ์ไม่ใช่คนเดียวที่ลงจากตำแหน่ง ความพ่ายแพ้ของสมบูรณ์ต่อสุระในครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก มันหมายถึงการล่มสลายของอำนาจตระกูลนันทาภิวัฒน์ในแบงก์แหลมทองโดยสิ้นเชิง

สาแหรกของนันทาภิวัฒน์ทั้งหมดที่อยู่แหลมทองถูกสุระฟัดเต็มที่ สืบกุล นันทาภิวัฒน์และเถาวัลย์ นันทาภิวัฒน์ ถูกย้ายไปอยู่สาขาที่ซอยเสนานิคม "ไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไรทั้งสิ้น อาบังแกจะบีบให้ออกน่ะคุณ สักวันคงจะให้นั่งกับพื้น" นักข่าวที่เกาะติดข่าวแหลมทองบอกสภาพ

คนที่ลาออกคนแรกทันที่หลังจากที่รู้แน่ว่า สุระ จันทร์ศรีชวาลาเป็นผู้กำชัยในสงครามชิงแบงก์ขนาดโรงรับจำนำนี้คือ อภิวัฒน์ นันทาภิวัฒน์ กรรมการรองผู้จัดการธนาคารแหลมทอง

อภิวัฒน์ซึ่งน่าจะเป็นกรรมการผู้จัดการแบงก์แหลมทองต่อจากสมบูรณ์ ต้องไปพักผ่อนช่วงหนึ่ง "ก็ดีเรื่องจะได้จบเสียที เสียดายว่าทำงานมา 10 ปีแต่ยังทำอะไรไม่ได้เต็มที่" เขาบอกกับ "ผู้จัดการ"

แต่เขาคงจะไม่ได้พักผ่อนอย่างจริงๆ จังๆ เท่าใดนักเพราะยังมีบริษัทเอกวิทย์ ซึ่งเป็นบริษัทรับประกันต่อ ซึ่งเขาเป็นประธานกรรมการอยู่

ช่วงที่อภิวัฒน์ไป "หลบเลียแผลใจ" กับเหตุการณ์ที่เป็นผลพวงมาจากความดื้อรั้นและชะล่าใจของพี่ชายนั้นเขาไม่ได้อยู่อย่างเปล่าเปลี่ยวและเหงาหงอยอย่างที่หลายคนคิด มีสถาบันการเงินและธุรกิจประเภทบริการหลายแห่งทาบทามให้เขาไปเป็นผู้บริหารใหญ่

ธนาคารกรุงไทยทาบทามให้เขาไปเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เงินทุนสากล พนัส สิมะเสถียร ก็เคยชวนให้เขาไปช่วยแก้ปัญหาที่บงล.ไอทีเอฟ ที่เคยทำเอาสงบ พรรณรักษา วุ่นวายอยู่พักใหญ่

แต่ที่ทำให้อภิวัฒน์อดใจไว้ไม่ไหวจนต้องตกปากรับคำในที่สุดก็คือ.บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์นวธนกิจ บริษัทในเครือธนาคารทหารไทย ว่ากันว่าก่อนตกปากรับคำนั้น "เขาเทียวไปเทียวมาอยู่นานสองนานทีเดียว" แหล่งข่าวในวงการเงินบอก

เบื้องหลังการตกปากรับคำไปอยู่ที่นวธนกิจนั้น กล่าวกันว่าเป็นเพราะความสนิทสนมระหว่างเขากับสองบิ๊กของทหารไทย คือ ประยูร จินดาประดิษฐ์ ที่เพิ่งจะได้รับการเลี้ยงส่งไปเมื่อเร็วๆ นี้ และอนุตร์ อัศวานนท์ ที่เพิ่งจะก้าวขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งของทหารไทยแทนประยูร

อภิวัฒน์ เข้ามารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์นวธนกิจแทนศิริพงษ์ ลิมปิพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการคนเดิมที่อยู่ในตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ปี 2525 และได้รับการต่อสัญญาอีกครั้งเมื่อปี 2527 และครบสัญญาว่าจ้างเมื่อปีที่แล้ว

วันที่ 1 มกราคม 2531 เป็นวันแรกของการเข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์นวธนกิจ เป็นครั้งแรกในรอบสิบปีที่ว่ากันว่าเขาจะได้มีโอกาสแสดงฝีไม้ลายมือเต็มที่ หลังจากที่อยู่ภายใต้ร่มไม้ชายคาของแหลมทองมานาน

การที่มี สถาบันการเงินหลายๆ แห่งทาบทามเขาให้ไปบริหารงาน นั่นแสดงว่าเขาน่าจะมีกึ๋นจริง อย่างน้อยที่สุดเขาก็ไม่ได้แคร์ว่าสิ้นแหลมทองแล้วเขาจะไม่มีที่ไป

แต่เวลานับสิบปีที่เขาอยู่ภายใต้เงาของของสมบูรณ์ผู้พี่ที่ครอบงำเขามาตลอดจนหลายคนค่อนแคะว่า "เขาเป็นเด็กไม่โตเสียที" และหลายๆ เสียงที่มีน้ำหนักปรามาสเขาว่า "เขาไม่สู้"

นวธนกิจ จะเป็นสนามพิสูจน์ความสามารถว่า เขาโตแล้วและสมบูรณ์คิดผิดที่ไม่ให้เขาเป็นกรรมการผู้จัดการธนาคารแหลมทองเมื่อหลายปีก่อนนั้น

ถ้าสมบูรณ์ปล่อยให้เขาโตตามธรรมชาติ

วันนี้แหลมทองอาจจะยังเป็นของนันทาภิวัฒน์อยู่ก็ได้

นี่แหละผลของการบอนไซน้องชายตาดำๆ ของสมบูรณ์

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us