สำหรับนักบริหารมืออาชีพหลายคน การได้รับการยอมรับในความสามารถ จนได้รับการแต่งตั้งให้เป็น
"ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด" ที่ไม่เคยมีคนไทยคนใดได้รับมาก่อน ของบริษัทน้ำมันข้ามชาติที่ยิ่งใหญ่อย่างเชลล์
คงเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจไม่น้อย
คงเช่นเดียวกับนักการตลาด "มืออาชีพ" อย่าง "อนุจินต์ สุพล"
หลังจากปลายเดือนมกราคมเป็นต้นมา คงเป็นเวลาที่ "ท้าทาย" ความสามารถของเขาไม่น้อยอีกเช่นกัน
"เป็นครั้งแรกที่เชลล์ประเทศไทยทำ และเป็นผลงานชิ้นแรกที่ยิ่งใหญ่ของผม"
อนุจินต์เคยกล่าวไว้เมื่อครั้งแรกแถลงข่าวการเปิดตัว "ฟอร์มูล่า เชลล์"
ที่เชลล์คิดว่าจะเป็นการเขย่าตลาดน้ำมันเบนซินซูเปอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกครั้งหนึ่ง
แต่เชลล์ก็ต้องเก็บน้ำมันสูตรที่ประสบความสำเร็จค่อนข้างมากตัวนี้กลับไป
ในชั่วเวลาไม่เต็ม 6 เดือนดี
อนุจินต์ สุพล จบการศึกษาชั้นประถมที่วชิราวุธวิทยาลัยชั้นมัธยมจากกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย
จากนั้นศึกษาต่อชั้นอุดมศึกษาจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์จนได้รับปริญญาโท วิศวกรรมศาสตร์
สาขาเครื่องกล
เขากลับมาเมืองไทยเข้ารับราชการทหารเป็นเวลา 6 เดือนเริ่มงานที่บริษัทเชลล์แห่งประเทศไทยในตำแหน่งวิศวกรอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการ
ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นวิศวกรใหญ่ ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการรับผิดชอบงานจัดส่งน้ำมันไปยังคลังน้ำมันต่างๆ
ที่ช่องนนทรีและต่างจังหวัดทั้งหมด
จากนั้นอนุจินต์ย้ายตัวเองเข้าไปทำงานในฝ่ายการตลาดโดยเป็นผู้จัดการฝ่ายค้าปลีก
การค้าช่วงน้ำมันต่างๆ ผ่านสถานีบริการน้ำมัน รวมทั้งการขายส่งที่ไม่ผ่านโรงงาน
2 ปีสุดท้ายก่อนเข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด อนุจินต์ไปอังกฤษเพื่อฝึกฝนความชำนาญด้านการตลาดจากรับการอบรมจาก
SHELL INTERNATIONAL PETROLEUM COMPANY และกลับมาก็ทำ SPECIAL STUDY ก่อนขึ้นรับตำแหน่งที่สำคัญนี้ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
กับอนุจินต์แล้วเขาค่อนข้างภูมิใจกับน้ำมันตัวนี้มาก กอปรกับแนวทางการโฆษณาประชาสัมพันธ์ของเชลล์ต่างกับบริษัทบริษัทอื่น
ตรงที่เชลล์ชอบที่จะทุ่มงบก้อนใหญ่เพื่อให้เห็นผลในระยะเวลาที่สั้นกว่า ถึงแม้โครงสร้างน้ำมันเบนซินซุปเปอร์จะมีเพียงประมาณ
10% ของตลาดน้ำมันทั้งหมดแต่งบประมาณที่ใช้ไปก่อนหน้านี้คงจะทำให้เชลล์เจ็บตัวไม่น้อยกับน้ำมันตัวนี้
ก็ต้องให้เครดิตกับอนุจินต์และผู้บริหารระดับสูงของเชลล์กับความรับผิดชอบอย่างสูงที่มีต่อผู้บริโภค
ที่ถึงแม้จะไม่มีรายงานความเสียหายที่เกิดขึ้นในประเทศไทย หรือแม้แต่ข้อเท็จจริงที่เด่นชัดว่าความเสียหายในต่างประเทศเกิดขึ้นเนื่องมาจากสาเหตุใด
ในการเก็บ "ฟอร์มูล่า เชลล์" ออกจากตลาด
มีการบ้านอีกมากมายที่อนุจินต์ต้องทำต่อจากนี้ เขาจะรักษา "ภาพพจน์"
ที่ดีของบริษัทในสายตาผู้บริโภค และความสำเร็จเช่นอดีตที่ผ่านมาของเชลล์ได้อย่างไร
มีหลายคนกล่าวว่าผู้บริโภคไม่ได้เลือกใช้น้ำมันแต่เพียงชื่อผลิตภัณฑ์ แต่ยังดูถึงการบริการที่แตกต่าง
แต่ "น้ำมัน" ที่ต้องเติมลงไปใน "รถยนต์" ที่เป็นสมบัติอีกชิ้นหนึ่งที่มีค่ายิ่งในสายตาของผู้บริโภค
จะทำอย่างไรที่จะเรียก "ความเชื่อถือ" ของผู้บริโภคกลับคืนมาในเวลาสั้นๆ
จะมีผลกระทบหรือไม่และทำอย่างไรจึงจะทำให้ผู้บริโภคยังคงเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆ
ของเชลล์เท่าเดิม ฯลฯ
แน่นอน ยังมีปัญหาอีกมากมายที่ท้าทายและรอคอยอนุจินต์อยู่
เขาควรจะได้พักผ่อนคอยเก็บเกี่ยวผลพวงความสำเร็จของการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่น่าภูมิใจยิ่งนี้อย่างสบายใจ
ก่อนจะเกษียณในอีก 2 ปีข้างหน้า
แทนที่จะต้องมาเหน็ดเหนื่อย และเคร่งเครียด ที่คาดได้ว่าจะต้องหนักหน่วง
และยากลำบากกว่าช่วงเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมามากมายนัก