Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา เมษายน 2552
Change             
โดย ปัณฑพ ตั้งศรีวงศ์
 





คงต้องขอยืมคำซึ่งเป็นที่นิยมใช้กันอย่างกว้างขวางนับตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา นำมาใช้เป็นแคมเปญในการหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา เมื่อปลายปีก่อนมาใช้บ้างสักครั้งหนึ่ง

เพราะดูแล้วเป็นคำที่มีความหมายต่อสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทยในเวลานี้เป็นอย่างยิ่ง

เมืองไทย ณ ขณะนี้กำลังต้องการการเปลี่ยน แปลงครั้งใหญ่ โดยเฉพาะกระบวนทัศน์ในการวางยุทธศาสตร์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ

โดยเฉพาะในเรื่องของการท่องเที่ยว

เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า เศรษฐกิจไทยทุกวันนี้ในจำนวนเครื่องยนต์ 4 ตัวที่เป็นแรงขับเคลื่อนให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GDP) ได้นั้น

เครี่องยนต์ทั้ง 4 ตัวกำลังเดินแบบติดๆ ขัดๆ ไม่นอตหลวม แหวนหลวม ก็หัวเทียนบอด

เครื่องบางตัวยังวิกฤติถึงขั้นกระบอกสูบกำลังร้าวใกล้จะแตก

ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนของภาครัฐ การลงทุนภาคเอกชน การบริโภคของประชาชน และที่สำคัญที่สุดคือรายได้จากการส่งออก

การท่องเที่ยวจึงเป็นเพียงช่องทางหาเงินเข้าประเทศ หรือทำให้เกิดเงินสะพัดภายในประเทศเพียงช่องทางเดียวที่สามารถพัฒนาได้เร็วที่สุดและใช้ต้นทุนต่ำที่สุด

เพียงแต่กระบวนทัศน์ในการพัฒนายุทธศาสตร์การท่องเที่ยวของไทยจำเป็นต้องมีการทบทวนใหม่ครั้งใหญ่

เป็นการทบทวนอย่างเป็นระบบและครบวงจร

จากวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้น ทำให้โครงสร้างนักท่องเที่ยวและพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงไป

ฝรั่งที่เคยมาใช้เงินอย่างสุรุ่ยสุร่าย พักโรงแรมหรูๆ นอนอาบแดดตามชายหาด มีจำนวนลดลงเป็นลำดับ

แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีฝรั่งเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยเลย

หรือนักท่องเที่ยวในย่านเอเชียด้วยกันทั้งจีน ญี่ปุ่น เกาหลี แม้กระทั่งมาเลเซีย ก็ยังมีการเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยอยู่

แต่เป้าหมายของการท่องเที่ยวของคนเหล่านี้อาจเปลี่ยนแปลงไปตามกำลังเงินในกระเป๋า

การท่องเที่ยวราคาถูกน่าจะมีการหยิบยกขึ้นมาพิจารณาให้มีบทบาทมากยิ่งขึ้น

ธรรมชาติ วัฒนธรรม เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ เป็นสิ่งที่ประเทศไทยมีอยู่แล้ว ไม่ต้องไปลงทุนสร้างขึ้นมาใหม่

ภูมิศาสตร์ประเทศไทยที่อยู่ใจกลางอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง สามารถใช้เป็นจุดศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงเรื่องราว วัฒนธรรม และธรรมชาติของประเทศต่างๆ เหล่านี้เข้ามาหากันได้ โดยใช้เงินไม่มากนัก

เรื่องเหล่านี้ควรต้องมานั่งคิดกันอย่างละเอียด

ไม่ใช่ว่าพอต้องการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวแต่ละทีก็อาศัยเงินไปทุ่มซื้อสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ โดยยึดกรอบคิดแบบเดิมๆ ว่า นักท่องเที่ยวอยากมาประเทศไทยเพราะต้องการเพียงทะเล หาดทราย หรือแสงแดด

ภาพที่นำมาประกอบเนื้อหาในฉบับนี้ก็ฟ้องให้เห็นในตัวอยู่แล้ว

ภาพนี้เป็นภาพชายหาดริมแม่น้ำโขงที่จังหวัดหนองคาย จันทร์กลาง กันทอง ช่างภาพอาวุโสของนิตยสารผู้จัดการ 360 ํ ถ่ายเอาไว้เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้เอง

หญิงฝรั่ง 2 คนที่นอนอาบแดดอยู่ในภาพไม่จำเป็นต้องไปไกลถึงภูเก็ต สมุย หรือพัทยา แค่มาที่หนองคายก็ได้แดดเหมือนกัน อีกทั้งค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่ากินอยู่ในแต่ละวันถูกกว่าเป็นหลายๆ เท่า

หนำซ้ำหากอยากข้ามฝั่งไปเที่ยวยัง สปป.ลาว ก็ทำได้ง่าย แค่ไปขึ้นรถโดยสารบริเวณหน้าด่านบนสะพานมิตรภาพ

ปรากฏการณ์นี้เป็นเพียงตัวอย่างเดียวของพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่ได้เปลี่ยนแปลงไป

ขึ้นอยู่กับว่าใครจะมองเห็นและนำมาใช้ประโยชน์ได้มากกว่ากัน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us