มรณกรรมของชินเสมือนหนึ่งเปิดประวัติศาสตร์หน้าต่อไปของ "โสภณพนิช"
โดยปริยาย ความรุ่งเรืองที่เคยมีชินเป็นเสาค้ำถูกกดดันด้วยอิทธิพลปัญหาความแตกแยกอย่างยากจะหลีกพ้น
กระทั่งวีระ รมยะรูป คนใกล้ชิดกับชินมายี่สิบกว่าปียังเคยเปรยเป็นนัยๆ ว่า
"กำปั้นของเขา มือของเขา เขาเชื่อว่าเขาสร้างกันขึ้นมาได้ พวกลูกๆ
เป็นเช่นนั้นจริงๆ" !!!
ไม่ว่าชินจะล่วงรู้สภาพในอนาคตดีเพียงไรด้วยการแบ่งสรรมรดกแก่ลูกๆ อย่างเป็นธรรมหรือชาตรีจะออกโรงย้ำยันความเป็นหนึ่งเดียว
(unity) ของโสภณพนิช ที่ว่า หนึ่ง - จะไม่ลงทุนทำธุรกิจแข่งขันกับลูกค้า
สอง - การลงทุนของพี่น้องจะไม่มีการแตกตัว ทุกคนที่จะทำธุรกิจอะไรต้องพ่วงเอาบริษัทในเครือเข้าไปร่วม
ทว่าความหนักแน่นนี้ในทางปฏิบัติจริงๆ นั้นดูประหนึ่งเพียงกลบปิดความจริงลึกๆ
บางอย่างเอาไว้
หากพิเคราะห์เหตุผลโดยรอบด้านแล้วลักษณะการถี่ลอดตาช้าง ถ่างลอดตาเล็น
ในโสภณพนิชยังมีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงว่า "ถึงทุกคนจะไม่แตกร้าวกันอย่างหนัก
ทว่าการหันหน้าเคียงกันประจันศึกก็จะไม่มีเช่นดังแต่ก่อน" ทั้งนี้เพราะ
หนึ่ง - ความต้องการที่จะสร้างอาณาจักรเป็นตัวของตัวเองในลูกๆ แต่ละคน
ซึ่งด้านหนึ่งยังเท่ากับเป็นการสร้างฐานรองรับให้กับโสภณพนิชในรุ่นที่ 3
ไปในตัว ประเด็นนี้มีความเป็นจริงมากเพราะทุกคนก็มี HOLDING COMPANY และบริษัทในมือที่พร้อมจะเอื้ออำนวยต่อการระดมทุนและขยายตัวทางธุรกิจกันอยู่แล้ว
เช่นเชิดชูมีกรุงเทพธนาทร หรือโชติที่มีพัฒนสิน เป็นหัวจักร
สอง - หนทางที่ลูกสายอาไน้จะคืนกลับสู่สนามแบงก์กรุงเทพอย่างเต็มกำลังนั้นนับวันยิ่งรางเลือน
เพราะสนามนี้พิจารณาจากสัดส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่เกินตัวแล้วของชาตรีและพรรคพวก
โอกาสที่ลูกๆ สายอาไน้จะไล่ทุนขึ้นมาคู่เคียงแทบจะไม่มีเอาเสียเลย นอกจากนี้ชาตรีเองก็ปูทางให้กับลูกๆ
ของตนไม่ว่าจะเป็นชาติศิริ ชาลี และสาวิตรี พร้อมที่จะสอดรับภารกิจแทนตัวเองเอาไว้แล้วอย่างพร้อมสรรพ
แบงก์กรุงเทพจึงไม่ใช่สนามประลองความสามารถกันอย่างแน่นอน และก็เชื่อว่าบรรดาลูกๆ
ของอาไน้ไม่ต้องการที่จะเป็น FINANCIER กันมากนัก จริงอยู่ที่ว่าอาณาจักรธุรกิจที่พวกเขาอาจไปสร้างกันขึ้นใหม่นั้น
จะไม่ยิ่งใหญ่เท่าแบงก์กรุงเทพแต่ก็เป็นความภูมิใจมากกว่าที่ทำขึ้นมาด้วยมือของตัวเอง
สาม - เครดิตของ "โสภณพานิช" และเครดิตส่วนตัวของลูกๆ สายอาไน้แต่ละคนที่เคยผ่านงานกับแบงก์กรุงเทพในต่างประเทศมาหนึ่ง
กับค่าที่เป็นนักเรียนนอกอีกหนึ่ง น่าที่จะมีการสร้างภาพพจน์และ CONNECTION
เอาไว้เป็นอย่างดี ขุมกำลังเหล่านี้มีประโยชน์สูงต่อการสร้างอาณาจักรของแต่ละคน
อย่างเช่นกลุ่มทุนเท็กซ์ที่จะร่วมทุนกับโชติ- คงไม่มีใครปฏิเสธว่าจะเป็นไปได้
"คงไม่จำเป็นที่ทุกคนจะต้องพึ่งพาแบงก์กรุงเทพในการสนับสนุนเรื่องการเงิน
เพราะขอบข่ายทางธุรกิจและเครดิตส่วนตัวที่แต่ละคนมีอยู่ก็เพียงพอแล้วสำหรับการสร้างความยิ่งใหญ่ให้ปรากฎ"
แหล่งข่าวท่านหนึ่งกล่าว
"โสภณพนิช" ในอนาคตมองไปแล้วอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด แต่ว่าไปแล้วก็ดีเหมือนกันที่จะได้พิสูจน์ให้เห็นว่าชาตรี-ชาญ-โชติ-ชัย
หรือว่าเชิดชู ที่ปักหลักอยู่ในเมืองไทยนั้น ใครกันแน่ที่เหมาะสมกับความเป็นพยัคฆ์ลำพองเสมอเหมือนชินมากที่สุด!!!