Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน30 มีนาคม 2552
บล.กรุงศรีฯตั้งเป้ามาร์เกตแชร์ปีนี้แตะ4%เน้นรุกตลาดอนุพันธ์หลังค่านายหน้าซบ             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรีอยุธยา

   
search resources

Funds
กรุงศรีอยุธยา, บล.




บล.กรุงศรีอยุธยา ตั้งเป้าปี 52 มาร์เกตแชร์อยู่ที่ 4% จากปี 51 ที่มีมาร์เกตแชร์อยู่ที่ 3.8% เน้นรุกธุรกรรมตลาดอนุพันธ์เพิ่มรายได้ทดแทนค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ หลังพบหดตัวตามตลาดหุ้นที่ซบเซา ยันไม่คิดปลดพนักงานแต่ลดค่าใช้จ่ายด้านอื่นแทน ส่วนแนวคิดขยายสาขา ในแบงก์กรุงศรีฯ ยังไม่ได้ข้อสรุป

นายมงคล กิตติภูมิวงส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (AYS) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าปี 52 จะมีส่วนแบ่งทางการตลาด (มาร์เกตแชร์) แตะระดับ 4% จากปี 51 ที่มีมาร์เกตแชร์ 3.8% หลังหันมาขยายการทำธุรกรรมในตลาดอนุพันธ์ (tfex) มากขึ้นด้วยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า (gold future) ฯลฯ เนื่องจากการลงทุนในส่วนดังกล่าวสามารถลงทุนได้ทั้งในภาวะตลาดขาขึ้นและขาลง

'จากมูลค่าการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยที่เบาบางและมีความผันผวนค่อนข้างมาก ส่งผลให้มีธุรกิจหลักทรัพย์หลายแห่งพยายามหารายได้จากส่วนอื่นเพิ่มเติมจากค่าคอมมิชชั่นที่เป็นรายได้หลักของธุรกิจส่วนใหญ่ จึงมองว่า tfex น่าจะเป็นเป้าหมายสำคัญที่ธุรกิจหลักทรัพย์ต่างให้ความสนใจ และเชื่อว่า ปีนี้น่าจะเห็นการแข่งขันที่สูงขึ้น' นายมงคลกล่าว

ส่วนแนวความคิดของบริษัทฯ ที่จะเปิดสาขาของบริษัทในธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY นั้น เพราะต้องการดูผลของการขยายฐานและเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าในการทำธุรกรรม ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดและเจรจากับผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องของค่าใช้จ่าย ทำเล และขนาดของ พื้นที่ ฯลฯ

สำหรับภาพรวมของ บล.กรุงศรีฯ ในปีนี้เชื่อว่าน่าจะปรับตัวดีขึ้นจากปี 51 เพราะหนี้เสียในด้านลูกค้าบุคคลมีทิศทางปรับลดลงค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่มีอัตราส่วนหนี้เสียปริมาณมาก ซึ่งเป็นผลจากภาวะตลาดหุ้นที่ค่อนข้างผันผวนตามปัจจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นายมงคลกล่าวต่อว่า สภาพภาวะเศรษฐกิจอยู่ในช่วงชะลอตัว ส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ เฉลี่ยต่อวันต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อค่าคอมมิชชัน อันเป็นรายได้หลักของธุรกิจ แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความคิดที่จะปลดพนักงาน (lay out) จากจำนวนพนักงานที่มีไม่ถึง 300 คน เนื่องจากมองว่ายังสามารถปรับลดค่าใช้จ่ายจากส่วนอื่นได้ เช่น ค่าฝึกอบรมพนักงาน ค่าอุปกรณ์ต่างๆ และค่าโฆษณา โดยส่วนตัวมองว่าการปรับลดค่าใช้จ่ายในส่วนดังกล่าวเชื่อว่าจะเพิ่มกระแสเงินสดเพื่อที่จะรองรับปัญหาที่เกิดขึ้นในอนาคตได้

ทั้งนี้ จากความวุ่นวายของการเมืองในประเทศและปัญหาวิกฤตการเงินของสหรัฐอเมริกาในช่วงปี 51 ได้มีผลทำให้ภาพรวมของตลาดหลักทรัพย์ไม่ดีและรายได้ค่าคอมมิชชันลดลง จนทำให้มีพนักงานการตลาด (มาร์เกตติ้ง) ขอลาออกไปเพื่อประกอบธุรกิจส่วนตัวเป็นจำนวนมาก จึงทำให้ปีนี้บริษัทฯ จำเป็นต้องรับพนักงานในส่วนนี้เพิ่มเติมเพื่อทดแทนตำแหน่งที่ลาออกไปและรองรับการขยายสาขาในอนาคต ส่วนพนักงานในฝ่ายอื่นยังไม่มีแผนที่จะรับเพิ่มเติมเนื่องจากมองว่ายังไม่มีความจำเป็น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us