|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ตลาดกล้องปีนี้คาดยังเหนื่อย เหตุเศรษฐกิจยังไม่ดี รากหญ้ายังไม่ไหว ด้านแคนนอนเผยงบตลาดครึ่งปีหลังยังไม่คลอด รอบริษัทแม่พิจารณาเข้ม แต่ครึ่งปีแรกได้แล้ว 200 ล้านบาท ส่วนค่ายนิคอนเพิ่มงบตลาดอีก 2 เท่าตัว ลุยตลาดเต็มที่
นายวรินทร์ ตันติพงศ์พานิช ผู้อำนวยการอาวุโส และผู้จัดการทั่วไป บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกนี้บริษัทฯเตรียมงบ 200 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับปีที่แล้วเพื่อใช้ในการทำตลาดและการประชาสัมพันธ์ ขณะที่งบตลาดช่วงครึ่งปีหลังนั้นบริษัทฯแม่ยังไม่สรุปตัวเลขออกมาว่าจะใช้เท่าใด
“สาเหตุที่ตัวเลขงบครึ่งปีหลังยังไม่ออกมา เพราะว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและวิกฤติการเงินโลกส่งผลต่อบางประเทศที่ยอดขายไม่ค่อยดี จึงต้องระมัดระวังให้มากขึ้นด้วย”
โดยภาพรวมตลาดกล้องในปีนี้คาดว่า ผู้ประกอบการยังคงเหนื่อยเหมือนเดิม เพราะภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย แนวทางการทำตลาดของบริษัทฯจึงต้องปรับไปหันมาทำตลาดกล้องแฟชั่นมากขึ้น เพื่อกระตุ้นการซื้อของผู้บริโภค ทั้งนึ้กล้องแคนนอนรุ่นอิ๊กซัส มีส่วนที่ผลักดันให้ยอดขายรวมของบริษัทฯเติบโตขึ้นในช่วงที่ผ่านมาได้บ้าง และคาดว่าไตรมาสที่สองนี้สถานการณ์จะเริ่มดีขึ้นเพราะมีเทศกาลสงกรานต์เข้ามาเป็นตัวกระตุ้นตลาดได้อีกแรงหนึ่ง
หากพิจารณายอดขายในช่วงนี้แล้วพบว่า ยังทรงตัวอยู่ แต่เมื่อเทียบกันระหว่าง ตลาดต่างจังหวัดกับกรุงเทพฯแล้ว แล้วพบว่าตลาดต่างจังหวัดยังไปได้ดีอยู่
สำหรับความเห็นเรื่องการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงนั้น นายวรินทร์กล่าวว่า ตอนนี้ผู้ประกอบการเริ่มเบื่อหน่ายกันแล้ว เพราะว่าการชุมนุมส่งผลกระทบต่อธุรกิจ ขณะที่ปัญหาการปิดโรงงานก็ส่งผลกระทบต่อธุรกิจแคนนอนช็อปด้วยเช่นกัน
ด้านนายโอมพัฒน์ ฮึงสกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นิคส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกล้องนิคอน กล่าวว่า ปีนี้บริษัทฯได้เพิ่มงบขึ้นเกือบ 2 เท่าตัว เมื่อเทียบกับปีก่อน เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภคว่า บริษัทฯก็มีสินค้าในกลุ่มกล้องขนาดเล็กหรือกล้องคอมแพ็คทำตลาด
ปีนี้เปิดตัวกล้องดิจิตอลกว่า 20 รุ่น ซึ่งไฮไลท์ของสินค้าปีนี้คือ กล้องนิคอน คูลพิก เอส 230 (cool pix s 230) เป็นกล้องที่มีหน้าจอสัมผัส และตกแต่งภาพได้ทันที บริษัทฯคาดว่ากล้องรุ่นนี้ช่วยเพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้ภายในสิ้นปีนี้ จากเดิมที่สัดส่วนรายได้กล้องดิจิตอลขนาดเล็ก 5-7% จากรายได้รวม
สำหรับรายได้ไตรมาสแรก ยังอยู่ในระดับที่เรียกว่าทรงตัว แต่มองว่ายอดขายกล้องดีเอสแอลอาร์ปีนี้มีแนวโน้มโต 20% โดยบริษัทใช้กลยุทธ์ลดราคา 20% จากปีก่อน ซึ่งสามารถกระตุ้นปริมาณการขายได้
ทั้งนี้ภาพรวมกล้องราคาต่ำระดับ 3,900-4,900 บาทคาดว่าจะทำตลาดยากขึ้น เพราะกลุ่มเป้าหมายหลักของตลาดนี้ คือ ผู้มีรายได้น้อย อีกทั้งกล้องก็ไม่ได้เป็นสินค้าที่จำเป็นหรือเร่งด่วนต่อชีวิตที่จะต้องซื้อด้วย
|
|
|
|
|