|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ททท.เตรียมพิมพ์หนังสือคู่มือท่องเที่ยวปฎิบัติธรรม ฉบับภาษาอังกฤษ แจกนักท่องเที่ยวชาวพุทธ หวังบูมไทยเป็นเมคิเตชั่น ด้านการปฎิบัติธรรม ลดกระแสคนเครียดจากพิษเศรษฐกิจ นำร่องสำรวจแล้ว 54 แหล่งปฎิบัติธรรม ด้านตลาดต่างประเทศ เผยกลยุทธ์ปี 53 ยันใช้สโลแกน อะเมซิ่งไทยแลนด์ อะเมซิ่งแวลู ย้ำจุดยื่นที่ความคุ้มค่า
นายอักกพล พฤกษะวัน รองผู้ว่าการด้านสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ททท.อยู่ระหว่างเตรียมจัดทำหนังสือคู่มือท่องเที่ยวประเภทแหล่งปฎิบัติธรรม โดยจะพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ เพื่อใช้สำหรับแจกจ่ายแก่นักท่องเที่ยว และบริษัททัวร์ในต่างประเทศ ในปีงบประมาณ 2553
โดยอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนา ประเภทที่เป็นสถานที่ปฎิบัติธรรม วิปัสนา กรรมฐาน
ล่าสุดมีรายงานสถานที่ตามที่กล่าวตอบรับมาแล้ว 23 แห่ง จากทั้งหมด 54 แห่ง ที่ททท.ได้ทำการสำรวจว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะสมแก่การปฎิบัติธรรม ทั้งนี้นักท่องเที่ยวที่เข้าไปปฎิบัติธรรมจะต้องปฎิบัติตามกฎระเบียบของสถานที่แต่ละแห่งอย่างเคร่งครัด ซึ่ง ททท.จะยังคงสำรวจและส่งหนังสือไปอีกเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงเดือนมิถุนายนนี้ คาดว่าจะสรุปจำนวนสถานที่ได้ จากนั้นจึงนำมาจัดพิมพ์เป็นรูปเล่ม
นายอักกพล กล่าวว่า โครงการนี้ ททท.จุดประสงค์ของการส่งเสริม ไม่ใช่เพื่อต้องการลบภาพแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทยในบางแห่งที่นักท่องเที่ยวต่างชาติมองว่าเป็นแหล่งบันเทิง หรือไนท์ไลฟ์ แต่ต้องการชูจุดขายมุมมองใหม่ของประเทศไทยในฐานะที่เป็นเมืองพุทธศาสนาให้มีความโดดเด่นขึ้น
ปัจจุบันนี้ผู้คนกำลังตกอยู่ในภาวะความเครียดจากปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น และกำลังขยายวงกว้างไปทั่วโลก หากนักท่องเที่ยวจะปรับพฤติกรรมการท่องเที่ยว เพื่อผ่อนคลายความเครียดด้วยการปฎิบัติธรรมก็น่าจะเป็นทางออกที่ดี
สำหรับตลาดเป้าหมายของกลุ่มปฎิบัติธรรมนี้ สามารถครอบคลุมได้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยเฉพาะในแถบเอเชีย ซึ่งส่วนใหญ่ก็นับถือศาสนาพุทธเช่นกัน ส่วนตลาด ยุโรป อเมริกา ก็เริ่มให้ความสนใจกับพุทธศาสนามากขึ้น โครงการนี้เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ตลาดต่างประเทศของ ททท. ที่ฉวยวิกฤต เป็นโอกาส
ด้านนายสันติชัย เอื้อจงประสิทธิ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดต่างประเทศ ททท.กล่าวว่า ปีงบประมาณ 2553 ตลาดต่างประเทศยังคงเสนอยุทธศาสตร์การตลาด ภายใต้สโลแกน อะเมซิ่งไทยแลนด์ อะเมซิ่งแวลู เพื่อใช้ต่อเนื่องจากปีนี้ เพราะต้องการตอกย้ำสร้างการจดจำแบรนด์ให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้เห็นถึงความคุ้มค่าเงินเมื่อมาเที่ยวปะเทศไทย สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจโลก เบื้องต้นคาดว่าจะใช้สโลแกนนี้อีกราว 1-2 ปี เพื่อการทำงานที่ต่อเนื่องภาคเอกชนก็สามารถคิดนำเสนอสินค้าทางการท่องเที่ยวให้ไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย
โดยในเดือนเมษายนนี้จะเรียกประชุมผู้อำนวยการสำนักงานททท.ในต่างประเทศทุกแห่งเพื่อระดมความคิดวางกรอบให้ชัดเจนก่อนนำเสนอที่ประชุมใหญ่ในเดือนมิถุยายน
|
|
|
|
|