Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน25 มีนาคม 2552
“กันตนา”โอดโพสท์โปรดักชั่นหด15%             
 


   
www resources

โฮมเพจกันตนา

   
search resources

กันตนากรุ๊ป, บมจ.
Films




กันตนาฯครวญตลาดงนโพสต์โปรดักชั่ลดลง 15% เหตุเศรษบกิจแย่ ดินหาตลาดใหม่เสริม เจาะตลาดเอเวียเพิ่มขึ้น พร้อมลงทุนอีก 100 ล้านบาท เรื่องระบบเทคโนโลยี มั่นในจปีน้รายได้กลุ่มภาพยนตร์ทะลุ 1,400 ล้านบาทส่งผลทั้งบร้าท 2,500 ล้านบาท ส่วนก้านกล้วยภาค 2 หวังทะลุ 300 ล้านบาท

นายสุรเชษฐ์ อัศวเรืองอนันต์ ประธานสายธุรกิจภาพยนตร์ บริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสภาพเศรษฐกิจที่ถดถอยลงทั้งในประเทศไทยและในระดับโลก ส่งผลให้ธุรกิจโพสท์โปรดักชั่นลดลงไปด้วยส่วนหนึ่ง คาดว่าปีนี้ตลาดรวมจะตกลงไปประมาณ 15% อย่างไรก็ตาม บริษัทฯได้ปรับตัวด้วยการแสวงหาตลาดใหม่ๆเข้ามาใช้บริการมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศในเอเซียที่ยังมีอีกหลายแห่งที่ยังไม่ได้เจาะเข้าไปและการสร้างคอนเท้นต์ใหม่ๆขึ้นมาเอง

ส่วนตลาดหลักเดิมของบริษัทฯที่รับทำโพสต์โปรดักชั่นให้นั้นมีอยู่ 3 ตลาดคือ ฮอลลีวู้ด ยุโรป และเอเซีย โดยตลาดฮอลลีวู้ดมีขนาดใหญ่ที่สุดในแง่จำนวนเม็ดเงิน ส่วนตลาดเอเซียเป็นตลาดใหญ่ในแง่ของจำนวนประเทศ ซึ่งทั้งสามตลาดหลักนี้ถือเป็นตลาดส่งออกที่ทำรายได้ให้กับบริษัทฯประมาณ 60% ขณะที่ตลาดในประเทศมีประมาณ 40% จากกลุ่มธุรกิจภาพยนตร์

แนวทางการทำธุรกิจปีนี้บริษัทฯจะเน้นการทำตลาดต่างประเทศมากขึ้นโดยเฉพาะเอเซีย จากเดิมที่มีตลาดในเอเซียประมาณ 30 กว่าประเทศ โดยจะอาศัยจุดแข็งของชื่อเสียงกันตนาและเทคโนโลยีรวมทั้งอุปกรณ์ที่มีอยู่ซึ่งได้ลงทุนไปมากกว่าพันล้านบาทแล้ว และปีนี้ก็จะลงทุนต่อเนื่องอีกกว่า 100 ล้านบาท มาเป็นตัวสร้างตลาดใหม่ๆ

ขณะเดียวกันบริษัทฯจะร่วมมือกับพันธมิตรมากขึ้น เช่น กลุ่มดีลักซ์จากอเมริกา ที่เป็นรายใหญ่ที่สุดในโลกด้านโปรดักชั่นเฮาส์ เพื่อร่วมงานกันมากขึ้น เนื่องจากภาวะปัจจุบันผู้ลงทุนสร้างหนังย่อมต้องการได้ต้นทุนที่ต่ำมีประสิทธิภาพมากที่สุดและคุณภาพต้องเหมือนเดิม

ทั้งนี้ปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าหมายรวมไว้ที่ 2,500 ล้านบาท แบ่งเป็นสายธุรกิจภาพยนตร์ประมาณ 1,400 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วที่ทำได้ 1,300 ล้านบาท และที่เหลือ 1,000 กว่าล้านบาทมาจากรายได้สายธุรกิจทีวี ซึ่งปีนี้ก็มีรายการใหม่ด้วย

โดยธุรกิจภาพยนตร์ปีนี้จะมี 2 เรื่องคือ ก้านกล้วย ภาค2 จะเริ่มฉายวันที่ 26 มีนาคมนี้ มีคอร์ปอเรทเมนสปอนเซอร์แล้วคือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แบงก์กรุงเทพ ไทยประกันชีวิต โซนี่ เอไอเอส โตโยต้า โออิชิ โกดัก และไตเติ้ลสปอนเซอร์คือ ซิปป้า รวมทั้งหมดกว่า 60 ล้านบาท ส่วนเมอร์ชันไดส์นั้นบริษัทฯจะขายเอง คาดรายได้ทั้งหมดของภาพยนตร์ ก้านกล้วยภาค 2 จะมากกว่า 300 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งมีการร่วมมือกับหลายหน่วยงานในการป้องกันเทปผีซีดีเถื่อนด้วย อีกเรื่องจะฉายกลางปีคือ คนไทยทิ้งแผ่นดิน ลงทุนกว่า 100 ล้านบาท

นายเฮสเตอร์ ชิว ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมคไทย จำกัด กล่าวว่า ได้ร่วมมือกับกันตนาจัดทำ บัตรสมาชิกแมคโดนัลด์ก้านกล้วย 2 มี 4 แบบ พร้อมรับส่วนลด 10% เมื่อทานในร้านแมคโดนัลด์ และรับบัตรดูหนังเรื่องนี้ฟรี และสิทธิพิเศษอื่นอีก รวมมูลค่ากว่า 2,000 บาท ซึ่งปีที่แล้วมียอดบัตรสมาชิก 100,000 รายคาดปีนี้จะเพิ่มขึ้นมากดว่าแสนราย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us