|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
โอเชียนกลาส เล็งกู้เงิน 100-200 ล้านบาท ซื้อเครื่องจักรเพิ่มกำลังผลิตแก้วคริสตอลปลอดสารตะกั่ว ชี้มาร์จินสูง เจาะตลาดแถบเอเชียและขยายฐานรายได้ เผยกู้เงินเพิ่มทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนเพิ่มจาก 0.8 เท่าเป็น 1 เท่า ยอมรับปีนี้รายได้หด 10% จากปี 51 ที่มีรายได้ 1.83 พันล้านบาท เหตุพิษเศรษฐกิจทำให้ออเดอร์หาย พร้อมทำฟอร์เวิล์ดป้องกันค่าเงินผันผวน
นางศันสนีย์ สุภัทรวณิชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเชียนกลาส จำกัด (มหาชน) หรือ OGC เปิดเผยว่าบริษัทฯ เตรียมทุ่มงบ 100-200 ล้านบาท ซื้อเครื่องจักรเพื่อต่อยอดกำลังการผลิตแก้วคริสตอลปลอดสารตะกั่ว (Crystalline Glass) อีกจำนวน 1 เครื่อง โดยแหล่งเงินทุนส่วนนี้จะมาจากวงเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ทั้งหมด หลังจากในปีที่ผ่านทาง OGC ได้ลงทุนในส่วนของโรงงานและเครื่องจักรไปแล้วจำนวน 990 ล้านบาท
ทั้งนี้ ภายหลังการกู้เงินจากแบงก์พาณิชย์ครั้งนี้ จะทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ของ OGC เพิ่มเป็น 1.00 เท่า จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 0.82 เท่า ซึ่งถ้าหากทุกอย่างเป็นไปตามที่วางแผนไว้ คาดว่าโรงงานแห่งใหม่ของบริษัทจะสามารถผลิตสินค้าประเภท Crystalline Glassได้สูงสุดถึง 12-15 ล้านชิ้นต่อปี
สำหรับปี 52 บริษัทฯ ประเมินว่ารายได้น่าจะหดตัวประมาณ 10% จากปี 51 ที่มีรายได้อยู่ที่ 1.83 พันล้านบาท เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว จนมีผลให้คำสั่งซื้อขาย (ออร์เดอร์) จากลูกค้าลดลง อย่างไรก็ดี บริษัทได้เตรียมปรับลดกำลังการผลิตลง 10-20% เพื่อให้สอดคล้องกับยอดขายที่คาดว่าจะตกลงดังกล่าว และหันมาเพิ่มกำลังการผลิตตัวสินค้าประเภทแก้วคริสตอลที่ให้มาร์จิ้นสูงกว่าแก้วทั่วไป
10-20% อีกทั้งจะทำการตลาดโดยเจาะตลาดแถบเอเชียและขยายฐานรายได้ของบริษัทให้มากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้รายได้ตกต่ำลง และบริษัทได้ทำฟอร์เวิล์ด 50% ของยอดขายสินค้าที่คาดการณ์ไว้ในปีนี้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงของค่าเงินที่ผันผวน
อย่างไรก็ตาม แนวทางการบริหารบริษัทฯ ปีนี้จะอยู่บนพื้นการบริหารงานอย่างรอบคอบ เพื่อรักษาอัตรากำไรโดยมุ่งเน้นปรับปรุงกระบวนการภายใน สร้างภาพพจน์ตราสินค้าและเครื่อข่ายการตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงจะพยายามเน้นขายในตลาดเอเชียเป็นหลัก เพื่อทดแทนตลาดในยุโรปและสหรัฐฯ ที่เริ่มหดตัวตามภาวะเศรษฐกิจ ขณะที่สัดส่วนรายได้ของทางบริษัทในปัจจุบันนั้นจะแบ่งออกเป็น ตลาดในภูมิภาคเอเชีย อาทิ ประเทศจีน อินเดีย ออสเตรเลีย และไทย 80% ส่วนที่เหลือ 20% มาจากตลาดแถบยุโรปและสหรัฐอเมริกา
ส่วนผลการดำเนินปี 51 พบว่ามีกำไรสุทธิอยู่ที่ 95.98 ล้านบาท เทียบกับปี 50 ที่มีอัตรากำไรสุทธิที่ 134.39 ล้านบาท ลดลง 38.41 ล้านบาท หรือ 28.58% โดยรายได้หลักมาจากการขายสินค้าประเภทแก้วของบริษัท ขณะที่สาเหตุที่ผลการดำเนินงานลดลงมาจากค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการขายที่เพิ่มขึ้นและการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนอันเป็นผลมากจากความผัวผวนของค่าเงินบาท
|
|
|
|
|