Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน26 มีนาคม 2552
OGCกู้เงินอีก100-200ล.ซื้อเครื่องจักร ผลิตแก้วคริสตอลมาร์จินสูงอ่อยปีนี้รายได้หด             
 


   
www resources

โฮมเพจ โอเชียนกลาส

   
search resources

โอเชียนกลาส, บมจ.
Glass
ศันสนีย์ สุภัทรวณิชย์




โอเชียนกลาส เล็งกู้เงิน 100-200 ล้านบาท ซื้อเครื่องจักรเพิ่มกำลังผลิตแก้วคริสตอลปลอดสารตะกั่ว ชี้มาร์จินสูง เจาะตลาดแถบเอเชียและขยายฐานรายได้ เผยกู้เงินเพิ่มทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนเพิ่มจาก 0.8 เท่าเป็น 1 เท่า ยอมรับปีนี้รายได้หด 10% จากปี 51 ที่มีรายได้ 1.83 พันล้านบาท เหตุพิษเศรษฐกิจทำให้ออเดอร์หาย พร้อมทำฟอร์เวิล์ดป้องกันค่าเงินผันผวน

นางศันสนีย์ สุภัทรวณิชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเชียนกลาส จำกัด (มหาชน) หรือ OGC เปิดเผยว่าบริษัทฯ เตรียมทุ่มงบ 100-200 ล้านบาท ซื้อเครื่องจักรเพื่อต่อยอดกำลังการผลิตแก้วคริสตอลปลอดสารตะกั่ว (Crystalline Glass) อีกจำนวน 1 เครื่อง โดยแหล่งเงินทุนส่วนนี้จะมาจากวงเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ทั้งหมด หลังจากในปีที่ผ่านทาง OGC ได้ลงทุนในส่วนของโรงงานและเครื่องจักรไปแล้วจำนวน 990 ล้านบาท

ทั้งนี้ ภายหลังการกู้เงินจากแบงก์พาณิชย์ครั้งนี้ จะทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ของ OGC เพิ่มเป็น 1.00 เท่า จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 0.82 เท่า ซึ่งถ้าหากทุกอย่างเป็นไปตามที่วางแผนไว้ คาดว่าโรงงานแห่งใหม่ของบริษัทจะสามารถผลิตสินค้าประเภท Crystalline Glassได้สูงสุดถึง 12-15 ล้านชิ้นต่อปี

สำหรับปี 52 บริษัทฯ ประเมินว่ารายได้น่าจะหดตัวประมาณ 10% จากปี 51 ที่มีรายได้อยู่ที่ 1.83 พันล้านบาท เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว จนมีผลให้คำสั่งซื้อขาย (ออร์เดอร์) จากลูกค้าลดลง อย่างไรก็ดี บริษัทได้เตรียมปรับลดกำลังการผลิตลง 10-20% เพื่อให้สอดคล้องกับยอดขายที่คาดว่าจะตกลงดังกล่าว และหันมาเพิ่มกำลังการผลิตตัวสินค้าประเภทแก้วคริสตอลที่ให้มาร์จิ้นสูงกว่าแก้วทั่วไป

10-20% อีกทั้งจะทำการตลาดโดยเจาะตลาดแถบเอเชียและขยายฐานรายได้ของบริษัทให้มากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้รายได้ตกต่ำลง และบริษัทได้ทำฟอร์เวิล์ด 50% ของยอดขายสินค้าที่คาดการณ์ไว้ในปีนี้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงของค่าเงินที่ผันผวน

อย่างไรก็ตาม แนวทางการบริหารบริษัทฯ ปีนี้จะอยู่บนพื้นการบริหารงานอย่างรอบคอบ เพื่อรักษาอัตรากำไรโดยมุ่งเน้นปรับปรุงกระบวนการภายใน สร้างภาพพจน์ตราสินค้าและเครื่อข่ายการตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงจะพยายามเน้นขายในตลาดเอเชียเป็นหลัก เพื่อทดแทนตลาดในยุโรปและสหรัฐฯ ที่เริ่มหดตัวตามภาวะเศรษฐกิจ ขณะที่สัดส่วนรายได้ของทางบริษัทในปัจจุบันนั้นจะแบ่งออกเป็น ตลาดในภูมิภาคเอเชีย อาทิ ประเทศจีน อินเดีย ออสเตรเลีย และไทย 80% ส่วนที่เหลือ 20% มาจากตลาดแถบยุโรปและสหรัฐอเมริกา

ส่วนผลการดำเนินปี 51 พบว่ามีกำไรสุทธิอยู่ที่ 95.98 ล้านบาท เทียบกับปี 50 ที่มีอัตรากำไรสุทธิที่ 134.39 ล้านบาท ลดลง 38.41 ล้านบาท หรือ 28.58% โดยรายได้หลักมาจากการขายสินค้าประเภทแก้วของบริษัท ขณะที่สาเหตุที่ผลการดำเนินงานลดลงมาจากค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการขายที่เพิ่มขึ้นและการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนอันเป็นผลมากจากความผัวผวนของค่าเงินบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us