Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน26 มีนาคม 2552
CPRรับวิกฤตศก.ฉุดยอดขายวูบ35%อ่อยQ1ปีนี้ขาดทุนเหตุค่าใช้จ่ายสูง             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ซีพีอาร์ โกมุ อินดัสเตรียล จำกัด (มหาชน)

   
search resources

ซีพีอาร์ โกมุ อินดัสเตรียล, บมจ.
Auto-parts




ซีพีอาร์ โกมุ รับวิกฤตเศรษฐกิจกระทบธุรกิจยานยนต์ ส่งผลต่อยอดสั่งซื้อชิ้นส่วนประกอบรถยนต์และรถจักรยานยนต์ทรุด คาดยอดขายปีนี้หดถึง 35% จากปีก่อนที่ทำไว้ 2.7 พันล้านบาท เน้นเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตคุณภาพสูงเพื่อให้ต้นทุนต่ำ หวังอัตรากำไรสุทธิขยับเพิ่มอีก 2% อ่อยไตรมาสแรกปีนี้ขาดทุนเหตุค่าใช้จ่ายสูงจากการจ่ายชดเชยพนักงานที่ปลดออก

นายโทโมฮิสะ โอโนะ ประธาน บริษัท ซีพีอาร์ โกมุ อินดัสเตรียล จำกัด (มหาชน) หรือ CPR เปิดเผยว่า บริษัทคาดยอดขายปีนี้ลดลง 35% จากปีก่อนที่มียอดขาย 2.7 พันล้านบาท จากผลกระทบของวิกฤตเศรษฐกิจโลกส่งผลต่อธุรกิจกลุ่มยานยนต์ให้มียอดการสั่งซื้อที่ลดลง ซึ่งบริษัทยังคงเน้นการเพิ่มอัตรากำไรสุทธิ ( Net Profit Margin) ขึ้นอีก 1-2% จากปีก่อนที่มีอัตรากำไรสุทธิที่ 8% โดยการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเพื่อให้ต้นทุนลด

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานช่วงไตรมาสแรกปีนี้ เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 51 ที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทยอมรับว่าจะมีผลขาดทุนแน่นอน เนื่องจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายสูงมาก จากการจ่ายเงินชดเชยให้พนักงานที่ปลดออกไป ทั้งในส่วนของพนักงานประจำและพนักงานชั่วคราว ซึ่งปรับลดพนักงานของบริษัทนั้นได้ดำเนินการไปตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม และกุมภาพันธ์ โดยได้ปลดพนักงานในส่วนของพนักงานประจำไป 25 คน และพนักงานชั่วคราว 40 คน ซึ่งการปรับลดพนักงานครั้งนี้บริษัททำตามแรงบีบคั้นของวิกฤตเศรษฐกิจที่ทำให้ยอดการสั่งซื้อลดลง คาดว่าแนวโน้มต่อจากนี้บริษัทจะมียอดการผลิตและยอดการสั่งซื้อเพิ่มขึ้นและไม่แย่เหมือนที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าบริษัทจะลดจำนวนพนักงานลงแต่กำลังการผลิตไม่ได้ลดลงตาม ขณะที่ต้นทุนลดลง

โดยประเมินว่ายอดขายไตรมาสแรกปีนี้จะตกลง 50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากผลกระทบของวิกฤตเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อธุรกิจกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ และในฐานะที่บริษัทประกอบธุรกิจเกี่ยวกับผู้ผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนยางล้วนและยางติดเหล็กที่เป็นส่วนประกอบของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ทั้งภายในและต่างประเทศ โดยจำหน่ายให้แก่บริษัทผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์นิสสันเป็นหลัก รวมถึง ยามาฮา ซูซูกิ ฟอร์ด มาสด้า มิตซูบิชิ และตรีเพชรอีซูซู

" เราคาดว่าสถานการณ์ตอนนี้มาถึงจุดต่ำสุดแล้ว สำหรับธุรกิจของวงการยานยนต์ เราจึงมองว่ากำลังจะมีการปรับตัวดีขึ้น แต่ก็คงไม่ได้ฟื้นตัวเร็วนัก หรือถ้าฟื้นก็คงยังฟื้นตัวได้ไม่ดีเท่าปีที่แล้ว และเรามองว่าธุรกิจของบริษัทจะยังไม่สามารถทำยอดขายได้ดีเท่าปีที่แล้วแต่ก็ไม่แย่ไปกว่าที่จุดต่ำสุดที่เคยผ่านมาเมื่อปีที่แล้ว" นายโทโมฮิสะ กล่าว

อย่างไรก็ตาม วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นบริษัทได้รับผลกระทบในส่วนของออร์เดอร์ที่ลดลง ตามผู้ผลิตรถยนต์ที่ลดกำลังการผลิต ซึ่งบริษัทได้ปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการเพื่อรับมือกับสถานการ์ที่เกิดขึ้น โดยการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้สูงกว่าเดิมที่เป็นอยู่ ถึงแม้จะมีจำนวนออร์เดอร์ที่ลดลง ก็ยังส่งผลต่อต้นทุนการผลิตที่ลดลงได้เช่นกัน และการเพิ่มยอดขายให้สูงขึ้น โดยการลดต้นทุนให้ต่ำและเพิ่มคุณภาพให้สูงขึ้น เพื่อเป็นกลยุทธ์ในการแข่งขันกับคู่แข่งและเพิ่มยอดขายให้กับบริษัทอีกด้วย

ทั้งนี้ แผนการลดต้นทุนให้ต่ำของบริษัทที่จะมีการดำเนินการนั้นทำโดย การย้ายฐานการผลิตจากเดิมที่มีฐานการผลิตอยู่ในประเทศญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา ก็มีการปรับเปลี่ยนย้ายฐานการผลิตมาในประเทศไทยแทน เพื่อลดต้นทุนเพราะการผลิตในไทยมีต้นทุนต่ำ สำหรับแผนงานนี้ในส่วนของการนำชิ้นส่วนเข้ามาที่ถือเป็นขั้นตอนแรก บริษัทได้ดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว ซึ่งยังคงเหลือในส่วนของการเริ่มผลิต(Mass Production) ที่รอการดำเนินการอยู่ โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มได้ช่วงเดือนสิงหาคม   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us