Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มกราคม 2544








 
นิตยสารผู้จัดการ มกราคม 2544
โมโตโรล่า อิงค์             
 

   
related stories

ลูกข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ สนามแข่งขันที่เพิ่งเริ่มต้น

   
www resources

โฮมเพจ โมโตโรล่า

   
search resources

Motorola Inc.
Mobile Phone




ภ า พ ร ว ม

โมโตโรล่า เคยพลาดท่าในเทคโนโลยีโทรศัพท์ ไร้สายระบบดิจิตอล แต่ก็สามารถตีตื้นกลับมามียอดขายโทรศัพท์มือถือทั่วโลกเป็นอันดับ 2 รองจากโนเกีย โมโตโรล่ามีสำนักงานใหญ่อยู่ ที่ชอมเบอร์ก มลรัฐอิลลินอยส์ ทำยอดขาย 55% จากธุรกิจสื่อสารส่วนบุคคล รวมทั้งโทรศัพท์ เพจเจอร์ และโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการสื่อสารไร้สาย ธุรกิจในส่วนเซมิคอนดักเตอร์ทำ ยอดขายให้บริษัทราว 25% และบริษัทก็ยังเป็นผู้นำโลกในตลาดโพรเซสเซอร์ด้วย

โมโตโรล่าดำเนินการหลายขั้นตอนทีเดียวใน การฟื้นตัวจากภาวะขาดทุน คริสโตเฟอร์ กาลวิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเป็นผู้ผลักดันการปรับโครงสร้างกิจการโดยเริ่มจากการปลดพนักงาน 20,000 คน และ ลดต้นทุนอีกกว่า 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กาลวินยังรวมหน่วยงานทางด้านอุปกรณ์การสื่อสารอีก 30 หน่วย เข้าเป็นหน่วยงานเดียว เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กรจาก ที่เคยเน้นการแข่งขันกันภายในองค์กรอย่างมากมาเป็นการประสานความร่วมมือ และขายกิจการที่เติบโตช้าออกไป โมโตโรล่ายังเน้นธุรกิจการสื่อสารแบบติดตั้งคู่สาย ที่อิงกับระบบบรอดแบนด์ด้วย (ปัจจุบันเป็นผู้นำ ด้านการขายเคเบิลโมเด็ม) โดยอาศัยกิจการ "เจเนอรัล อินสทรูเมนต์" ที่ซื้อเข้ามา อีกทั้งยังลงนามในการสนับสนุนเทคโนโลยี "บลูทูธ" รายหนึ่งด้วย

คำถามหนึ่ง ที่ยังต้องสะสางต่อไปก็คือ หนี้สินทางการเงินจากโครงการดาวเทียมอิรีเดียม ที่ล้มเหลวไป และเป็นโครงการที่โมโตโรล่าถือหุ้นอยู่ถึง 18% หลังจากแทงบัญชีหนี้สูญไปกว่า 2 พันล้านดอลลาร์แล้ว โมโตโรล่าก็พบปัญหาความไม่พอใจของผู้ถือหุ้นบางราย

ค ว า ม เ ป็ น ม า

พอล กาลวิน ผู้ประกอบการโดยสายเลือดเริ่มต้นธุรกิจของเขาจากการเป็นพ่อค้าเร่ขายข้าวโพดคั่ว ตั้งแต่ วัย 13 จนกระทั่งสามารถตั้งบริษัทกาลวิน แมนูแฟค เจอริง ที่ชิคาโก ได้ในปี 1928 เมื่อเขาอายุ 33 ปี บริษัทเป็นผู้ผลิตเครื่องทำลายแบตเตอรี่ ปีถัดมากาลวินเริ่มต้นผลิตเครื่องรับวิทยุในรถยนต์ และพยายามพัฒนาวิทยุเคลื่อนที่สำหรับใช้ในกิจการตำรวจ ต่อมาในปี 1940 บริษัทได้เริ่มผลิตวิทยุมือถือสื่อสารสองทางให้กับ กองทัพสหรัฐฯ

ในปี 1947 กาลวินเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็นโมโตโรล่าตามชื่อวิทยุรถยนต์ และในปลายทศวรรษ 1950 โมโตโรล่าก็เริ่มผลิตวงจรรวม และไมโครโพรเซสเซอร์ นับเป็นการออกนอกทางธุรกิจหลักครั้งแรก ต่อมาเมื่อกาลวินเสียชีวิตในปี 1959 โรเบิร์ตบุตรชายของเขาก็รับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารต่อจากบิดา ปีนั้น เองบริษัทได้ซื้อระบบสื่อสารโรงพยาบาล ซึ่งนำไปสู่การผลิตเพจเจอร์รุ่นแรก

โมโตโรล่าเปลี่ยนเข็มมุ่งทางธุรกิจในช่วงทศวรรษ 1970 เปิดตัวไมโครโพรเซสเซอร์ 6800 ในปี 1974 และลงทุนในตลาดฮาร์ดแวร์สื่อสารข้อมูลโดยการซื้อกิจการ "โคเด็กซ์" (Codex) ในปี 1977 และซื้อกิจการ "ยูนิเวอร์แซล เดต้า ซิสเต็มส์" ในปี 1978 ต่อมาบริษัทเลิกผลิตวิทยุรถยนต์ในปี 1987 และปีต่อมาก็ได้รับรางวัล Malcolm Baldridge Quality Award เป็นปีแรก

ปี 1990 โมโตโรล่าดำเนินการจัดทำระบบสื่อสารดาวเทียมอิริเดียม บริษัทยังเริ่มพัฒนาเพาเวอร์พีซีชิพ ร่วมกับแอปเปิ้ล และไอบีเอ็ม ในปี 1991 อีกห้าปีต่อมา จีนก็รับเทคโนโลยีของโมโตโรล่าใช้เป็นมาตรฐานระบบเพจจิ้งทั่วประเทศ

คริส กาลวิน หลานชายผู้ก่อตั้งกิจการรับช่วงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารในปี 1997 ในยุคที่กำไรกิจการตกลงอย่างหนัก อันเป็นผลจากการแข่งขันสูงในตลาดโทรศัพท์มือถือ และยอดขายเซมิคอนดักเตอร์ ที่ตกต่ำ เขาปลดคนงาน และขายสินทรัพย์ ที่ไม่เกี่ยวกับธุรกิจหลักออกไป เช่น ธุรกิจด้านภาพถ่าย และเครือข่ายข้อมูลอาร์ดิส เป็นต้น

ปี 1998 ไพรม์โค ผู้ให้บริการโทรศัพท์ไร้สายบอกเลิกสัญญาซื้ออุปกรณ์มูลค่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากโมโตโรล่า เนื่องจากไม่พอใจคุณภาพสินค้า ขณะเดียวกันความร่วมมือในเทคโนโลยีเพาเวอร์พีซีก็ล้มเหลว เมื่อโมโตโรล่า และไอบีเอ็มต่างประกาศ ที่จะพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวด้วยตนเอง บริษัทต้องเสียค่าใช้จ่าย ในการปรับโครงสร้างถึงราว 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งส่งผลต่อยอดขาดทุนของบริษัทในปีที่ผ่านมา

การปรับโครงสร้างส่วนใหญ่ของกาลวินมุ่งเน้นไป ที่ธุรกิจอินเทอร์เน็ต ปี 1999 บริษัทลงนามในข้อตกลงพัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ตในด้าน เครือข่ายไร้สายกับซิสโก (Cisco) ร่วมมือกับซัน ไมโครซิสเต็มส์ด้านเซิร์ฟเวอร์เครือข่ายไร้สาย และสถานีฐาน และร่วมมือกับลูเซ่นต์ระบบเคเบิลทีวี เพื่อส่งสัญญาณข้อมูลความเร็วสูง โมโตโรล่าขายหุ้น 90% ในธุรกิจ ชิ้นส่วนประกอบเซมิคอนดักเตอร์ให้กับเท็กซัส แปซิฟิก กรุ๊ป เป็นมูลค่า 1,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ช่วงต้นปี 2000 โมโตโรล่าซื้อกิจการ "เจเนอรัล อินสทรูเมนต์" มูลค่าถึง 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ยิ่งกว่านั้น โมโตโรล่ายังต้องล้มเลิกโครงการอิริเดียม ซึ่งหลุดออกนอกวงจร และทำให้ดาวเทียมเสียหายอย่างหนัก (ต่อมาโมโตโรล่าได้ลงนามร่วมกับกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ในการซ่อมแซมดาวเทียม) โมโตโรล่าแถลงว่า โนเกียจะเข้าร่วมในการผลักดันเทคโนโลยี 1Xtreme ให้เป็นมาตรฐานสำหรับเครือข่ายไร้สายรุ่นที่สาม โดยบริษัททั้งสอง อาจร่วมมือกับคู่แข่งอย่างอีริคสันในการพัฒนาโครงข่ายมาตรฐาน สำหรับระบบป้องกันการซื้อขายผ่านเครือข่ายไร้สายด้วย

โมโตโรล่าตกลง ที่จะให้ "เฟล็กซ์โตรนิกส์" เป็น ผู้จัดหาวัตถุดิบการผลิตราว 15% ป้อนให้บริษัทเป็นระยะเวลา 5 ปี คิดเป็นมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้โมโตโรล่าจะเข้าถือหุ้น 5% ในเฟล็กซ์โตรนิกส์ นอกจากนั้น เทเลโฟนิกา (Telefonica) แห่งสเปนยังตกลง ที่จะ ซื้อกิจการ "พร็อพเพล" (Proprel) ซึ่งเป็นบริการโทรศัพท์มือถือในเครือของโมโตโรล่า มูลค่าราว 2,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วย

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us