Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน5 กันยายน 2546
กรุงศรีฯออกหุ้นกู้1.2หมื่นล้านรีไฟแนนซ์ลดต้นทุนดอกเบี้ย             

 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา

   
search resources

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
กฤตย์ รัตนรักษ์
Banking




บอร์ดแบงก์กรุงศรีอยุธยา อนุมัติออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิ มูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท เพื่อนำเงินไปไถ่ถอนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดปีหน้า หวังลดภาระต้นทุนดอกเบี้ยที่สูงถึง 11-12% ด้านผู้บริหาร ยันไม่เกี่ยวกับนโยบายของแบงก์ชาติที่ให้ธนาคารพาณิชย์มีการตั้งสำรองเพิ่ม ระบุสำรองอยู่ที่ระดับ 130% แล้ว

นายกฤตย์ รัตนรักษ์ ประธานกรรมการ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา หรือ BAY กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารครั้งที่ 9/2546 เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2546 ได้มีมติให้ออกและเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิ ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ไม่มีหลักประกัน ไม่แปลงสภาพ มูลค่าไม่เกิน 12,000 ล้านบาท โดยจะเสนอขายหุ้นกู้แบบกรณีทั่วไป ตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รวมทั้งธนาคารมีแผนที่จะนำหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่ออกในครั้งนี้เข้าจดทะเบียนในศูนย์ซื้อขายตราสารหนี้ไทยด้วย

สำหรับวัตถุประสงค์ของการเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าว เพื่อประโยชน์ในการเสริมฐานะเงินกองทุนชั้นที่ 2 และลดต้นทุนทางการเงินของธนาคาร ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมความพร้อมในการไถ่ถอนหุ้นกู้ด้อยสิทธิของธนาคารที่จะครบกำหนด และเพื่อการขยายธุรกิจธนาคารในอนาคต

ส่วนรายละเอียดและเงื่อนไขเกี่ยวกับหุ้นกู้ด้อยสิทธิ และรายละเอียดของการเสนอขาย อาทิ มูลค่าที่ตราไว้ อัตราดอกเบี้ย ราคา เสนอขาย การไถ่ถอน ระยะเวลาการออกและเสนอขาย วิธีการจัดสรร รวมถึงดำเนินการที่เกี่ยวข้องหรือจำเป็นในการออกและเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิ และ/หรือการไถ่ถอนหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าว ได้มอบหมายให้คณะกรรมการบริหาร หรือบุคคล ที่คณะกรรมการบริหารมอบหมาย หรือประธานกรรมการ หรือกรรมการผู้จัดการใหญ่เป็นผู้ดำเนินการ

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคาร ยังได้มีมติให้งดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก สิ้นสุด วันที่ 30 มิถุนายน 2546 เนื่องจากยังมีขาดทุนสะสม ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535

แหล่งข่าวจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่าธนาคารมีนโยบายที่จะไถ่ถอนหุ้นกู้ด้อยสิทธิทั้งหมดที่มีจำนวนประมาณ 21,000 ล้านบาท เพื่อเป็นการลดภาระต้นทุนอัตราดอกเบี้ย จึงได้เสนอคณะกรรมการให้อนุมัติออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิจำนวน 12,000 ล้านบาท เพื่อเตรียมพร้อมของการไถ่ถอนหุ้นกู้ของเก่าจำนวนดังกล่าว

สำหรับจำนวนหุ้นกู้ด้อยสิทธิของธนาคารที่มีจำนวน 21,000 ล้านบาทนั้น ส่วนหนึ่งเป็นหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่ธนาคารได้ออกมาก่อนหน้านี้จำนวน 8,000 ล้านบาท ซึ่งธนาคารมีสิทธิไถ่ถอน ก่อนครบกำหนด (Call Option) ในเดือนพฤศจิกายน 2546 อัตราดอกเบี้ยประมาณ 12.5% และส่วนที่สอง จะเป็นสลิปส์ที่ธนาคารได้ออกมา ช่วงก่อนจำนวน 26,000 ล้านบาท ครึ่งหนึ่งของ สลิปส์จะเป็นหุ้นกู้ด้อยสิทธิจำนวน 13,000 ล้านบาท ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนมีนาคม 2547 อัตราดอกเบี้ยที่ออกหุ้นกู้ช่วงนั้นประมาณ 11%

ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้ของทั้ง 2 ส่วน ถือว่าเป็นอัตราที่สูงมากเมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน ทำให้เป็นภาระต้นทุนในแต่ละปีของธนาคารจำนวนมาก ดังนั้นธนาคารจึงต้อง การที่จะลดภาระดอกเบี้ยที่สูง จึงมีนโยบายที่จะไถ่ถอนทั้งหมด

"การขอมติออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อรีไฟแนนซ์หุ้นกู้เดิมที่มีดอก เบี้ยสูงเท่านั้น เพื่อบริหารต้นทุนปกติ ไม่เกี่ยวข้อง กับการตั้งสำรอง เพราะขณะนี้แบงก์มีการตั้งสำรองเกินกว่าเกณฑ์ของแบงก์ชาติกำหนดไว้แล้ว คือมีสำรองประมาณ 130% นับได้ว่าเป็นสัดส่วน ที่สูงมากเมื่อเทียบกับระบบ"

สำหรับฐานะของธนาคารนั้น มีความเข้มแข็งอย่างมาก โดยหลังจากมีการเพิ่มทุนในช่วงที่ผ่านมา ธนาคารมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง ตามมาตรฐานบีไอเอสประมาณ 12.77% เป็นเงิน กองทุนขั้นที่ 1 ประมาณ 8.5% ที่เหลือจะเป็นเงิน กองทุนขั้นที่ 2 ซึ่งถือว่าสูงกว่าเกณฑ์ธนาคารแห่ง ประเทศไทยกำหนดเท่าตัว และเมื่อรวมกับกำไร ของงวดเดือนมิถุนายนแล้วจะส่งผลให้เงินกอง ทุนของธนาคารสูงขึ้นตามไปด้วย ทำให้สามารถรองรับการขยายธุรกิจได้อย่างมาก

"แบงก์ไม่มีปัญหาเรื่องเงินกองทุนหรือเรื่องการตั้งสำรอง การขอออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิครั้งนี้วัตถุประสงค์หลักเป็นเพียงการบริหารต้น ทุนที่ลดภาระดอกเบี้ยเท่านั้น ซึ่งมั่นใจว่าดอกเบี้ย ในขณะนี้จะต่ำกว่าช่วงที่ผ่านมาแน่นอน รวมทั้งสภาพคล่องส่วนเกินที่มีอยู่สูงในระบบขณะนี้ จะเป็นตัวสนับสนุนให้หุ้นกู้ด้อยสิทธิของแบงก์เป็นที่สนใจของนักลงทุน" แหล่งข่าวกล่าว

ส่วนระยะเวลาหรือจำนวนที่ธนาคารจะออก หุ้นกู้ด้อยสิทธินั้น ธนาคารคงจะต้องพิจารณากันอีกครั้งหนึ่ง เมื่อมีช่วงที่เหมาะสมแล้ว

ก่อนหน้านี้ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ได้ทำการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 1,000 ล้านหุ้น ราคาเสนอขายหุ้นละ 10 บาท กำหนดเปิดจองซื้อและรับชำระหุ้นระหว่างวันที่ 19 - 22 สิงหาคม 25746 ที่ผ่านมา ปรากฏว่า ขายได้หมดทั้งจำนวน ทำให้ได้เงินค่าหุ้นรวมทั้งสิ้น 10,000 ล้านบาท หักค่าใช้จ่ายในการขาย 425 ล้านบาท คงเหลือสุทธิจำนวน 9,575 ล้านบาท

BAY-W 1 เทรด 8 ก.ย.นี้

ขณะเดียวกันวานนี้ (4 ก.ย.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รายงานว่าตลาดหลักทรัพย์ฯได้สั่งรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1 จำนวน 1,239,067,755 หน่วย เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน และกำหนดให้เริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2546 เป็นต้นไป โดยจัดอยู่ในหมวดใบสำคัญแสดงสิทธิและใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ ว่า "BAY-W1"

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us