|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
จี้ตลาดหลักทรัพย์เพิ่มความเข้มข้นในการคัดเลือกบริษัทจดทะเบียนเข้าตลาดนักวิเคราะห์ชี้หากต้องการแก้ปัญหาธรรมาภิบาลบกพร่อง ต้องเน้นในจรรยาบรรณของผู้บริหารให้มากขึ้น ระบุการผ่อนปรนเกณฑ์เข้าตลาดหุ้น แม้ช่วยเพิ่มบจ. แต่ช่องโหว่ที่มีมาก ย่อมเป็นโอกาสต่อการทุจริต อีกทั้งการเชือดหุ้นปั่นยังตามเกมเจ้ามือไม่ทัน ทำได้แค่ตีเบาๆส่งผลให้รายย่อยเดือดร้อน ด้านผู้จัดการกองทุนยืนยันทุกวันนี้ไม่มีการลงทุนในหุ้นปั่นแน่ เพราะมีการวิเคราะห์และพิจารณาถึงตัวผู้บริหารด้วย ไม่ดูเพียงแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจเพียงด้านเดียว
จากกรณีที่สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ออกมาระบุว่าตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันมีนักลงทุนเข้ามาร้องเรียนกับทางสมาคมส่งเสริมฯ อย่างต่อเนื่อง ในภาวะตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง จนทำให้ได้รับความเสียหาย จากมูลค่าหุ้นที่ลดลง รวมถึงความเสียหายที่เกิดจากการที่บริษัทมีการลดทุน การขายสินทรัพย์ออกไป และพฤติกรรมของผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนที่ส่อเค้าไปในทางทุจริต ฯลฯ
นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า หากเป็นกรณีของผู้บริหารของบริษัททุจริตนั้นเป็นเรื่องที่สามารถดำเนินการได้ยาก เพราะเป็นเรื่องของจรรยาบรรณ ซึ่งคนกลุ่มนี้มีความรู้ความสามารถและอาศัยช่องว่างจากกฎเกณฑ์และข้อบังคับต่างๆของตลาดทุนมาใช้ให้เป็นประโยชน์แก่ตนเอง ซึ่งจุดนื้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ควรมีเกณฑ์ออกมาบังคับเพิ่มควบคุมเพิ่มเติม เพื่อป้องกันให้การเป็นบรรษัทธรรมภิบาลไม่เสื่อมเสียไปมากกว่านี้
ทั้งนี้ สาเหตุส่วนหนึ่งประเมินว่า มาจากการคัดสรรบริษัทจดทะเบียน(บจ.)เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มีการผ่อนปรนลดเงื่อนไขในหลายๆอย่างเพื่อเอื้อและดึงดูดความสนใจบรรดาบริษัทต่างๆให้เข้ามาตามเป้าหมายการขยายมูลค่าตลาดรวม (มาร์เกตแคป) และเป้าหมายในการเพิ่มสินค้าในตลาดให้มีความหลากหลายมากเกินไป โดยจากการผ่อนปรนดังกล่าว กลับมีคนบางกลุ่มที่นำช่องว่างของการผ่อนปรนนี้มาใช้หาประโยชน์ส่วนตัว หรืออาจกล่าวได้ว่าไม่มีเจตนาที่จะใช้ตลาดหุ้นเป็นช่องทางระดมทุนอย่างจริงใจ
"หากจะแก้ปัญหาเรื่องพวกนี้ ส่วนหนึ่งเราต้องมองไปที่เรื่องดังกล่าวด้วย เพราะเงื่อนไขในการเพิ่มสินค้าของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ต้องการเพิ่มความหลากหลายนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย การได้มาซึ่งสินค้าใหม่ๆก็จะช่วยขยายฐานของลูกค้าให้กว้างขึ้น แต่ปัญหาอยู่ตรงที่กฎระเบียบบางข้อมีรูรั่ว ทำให้บริษัทที่ไม่มีความจริงใจในการกระจายหุ้นเพื่อระดมทุน นำช่องว่างนี้มาเอื้อให้ตนเอง บางทีก็ร่วมมือกับนักวิเคราะห์เพื่อช่วยกันปั่นราคาให้สูงเพื่อดึงดูดความสนใจจากนักลงทุน เพราะกฏระเบียบบางข้อมันเปิดโอกาสให้ทำได้”
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องดังกล่าวไม่สามารถกล่าวโทษตลาดหลักทรัพย์และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ฝ่ายเดียวได้ เพราะแม้แต่ตลาดหลักทรัพย์ในต่างประเทศที่มีขนาดใหญ่และกฎเกณฑ์ข้อบังคับที่รัดกุมมากกว่า ยังมีการทุจริตจากบริษัทจดทะเบียนและผู้บริหารของบริษัทเกิดขึ้นมาเช่นกัน
"เราต้องยอมรับตัวเองว่าตลาดหุ้นบ้านเรายังมีขนาดเล็ก การซื้อขายของเรายังไม่อยู่ถึงขั้นสามารรถประครองตัวเองได้ ทั้งที่ความจริงวอลุ่มในการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านกระดานหุ้น ถือเป็นแหล่งเงินทุนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ในระดับหนึ่ง ตลาดหุ้นต้องการตรงจุดนี้มาก จึงได้เปิดกว้างในเงื่อนไขของประการเพื่อเอื้อต่อการเข้าจดทะเบียนให้แก่บริษัทต่างๆให้เห็นถึงข้อดี และสิทธิประโยชน์ที่ได้รับ เพราะหากไม่ทำเช่นนี้การดึงดูดบริษัทจดทะเบียนใหม่เข้ามาก็มีน้อยลง”
บทลงโทษยังไม่เข้มงวด
นอกจากนี้ความเสื่อมเสียของธรรมภิบาลในด้านอื่นๆ แหล่งข่าวกล่าวว่า ระบบตรวจสอบในเรื่องนี้ของตลาดหุ้นไทยถือว่าอยู่ในมาตรฐานที่ดี แต่เป็นไปในลักษณะวิ่งตามปัญหาไม่ทัน หรือบางทีอาจเพราะความสนิทสนมระหว่างคนที่ควบคุมกับคนที่กระทำผิดนั้นมีมากจนเกินไป ทำให้บางทีการลงโทษเพื่อปกป้องสิทธิประโยชน์ของนักลงทุนทั่วไป เหลือเพียงการตักเตือนหรือส่งสัญญานเตือนให้คนกลุ่มนั้นรับทราบเท่านั้น
"บางครั้งหุ้นบางตัวมีการขยับขึ้นอย่างน่าสงสัย แต่การส่งสัญญาณจากผู้ควบคุมยังเป็นไปแบบไม่จริงจังเท่าที่ควร บ้างก็เป็นเพียงการส่งสัญญาณเตือน หรือแค่ตีเบาๆเท่านั้น และเมื่อเวลาเข้าไปดำเนินการจัดการจริงก็ล่าช้าไปแล้ว สุดท้ายคนเจ็บตัวก็คือรายย่อย จนกลายเป็นที่มาของการร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนเช่นทุกวันนี้”
คุมเชียร์หุ้นปั่นเพื่อผลระยะยาว
ส่วนกรณีที่จะมีแผนการควบคุมนักวิเคราะห์ในเรื่องห้ามแนะนำนักลงทุนเข้าไปลงทุนในหุ้นปั่นนั้น แหล่งข่าวกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดีและเป็นเป้าหมายของตลาดหลักทรัพย์ฯและบรรดาบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ แต่กฏเกณฑ์ในเรื่องนี้ต้องมีความชัดเจนมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เนื่องจากหากสามารถดำเนินการได้จะเป็นการช่วยรักษาฐานลูกค้าให้กับบรรดาโบรกเกอร์ค่ายต่างๆ เนื่องจากการเข้าไปในลงทุนในหุ้นปั่นบางทีจะนำมาซึ่งการสูญเสียเงินลงทุน จนทำให้นักลงทุนบางรายหยุดการลงทุนไปเพียงแค่นี้ แต่จากภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น แม้ภาวะตลาดหุ้นไม่เอื้ออำนวยต่อการลงทุนและผลตอบแทน โบรกเกอร์ยังสามารถชักชวนลูกค้าของตนเองเข้าลงทุนผ่านช่องทางลงทุนอื่นๆที่ตลาดหลักทรัพย์ฯมีให้เลือกได้ เช่นการลงทุนในตลาดอนุพันธ์ เป็นต้น อีกทั้งในเรื่องนี้ถ้าสามารถดำเนินการได้จะเป็นผลดีระยะยาวแก่ตลาดทุนไปด้วย
ขณะเดียวกัน จากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน แหล่งข่าวกล่าวว่า ตอนนี้มีโบรกเกอร์หลายบริษัทให้ความสนใจที่จะเข้าทำดำเนินธุรกิจการเป็นดีลเลอร์ทองคำแท่ง เพื่อใช้เป็นช่องทางเสริมรายได้ให้บริษัท แม้เมื่อเร็วๆนี้ตลาดอนุพันธ์จะเปิดให้มีการซื้อทองคำล่วงหน้า (โกลด์ฟิวเจอร์ส)ไปแล้ว แต่ด้วยปริมาณสัญญาที่มีน้อยอยู่ จึงทำให้ค่าคอมมิชชั่นที่ได้รับจากส่วนนี้มีน้อยไปด้วย โดยจะเป็นการเข้าไปร่วมมือกับร้านทองเพื่อแก้ปัญหาผลกระทบที่เกิดขึ้นมาจากวิกฤตเศรษฐกิจในครั้งนี้ร่วมกัน ซึ่งคาดว่าประมาณ 2-3 ข้างหน้าจะเริ่มมีบริษัทหลักทรัพย์บางแห่งดำเนินธุรกิจดังกล่าว
ชี้จรรยาบรรณผู้บริหารสำคัญยิ่ง
แหล่งข่าวผู้จัดการกองทุนรวมรายหนึ่ง กล่าวให้ความเห็นในเรื่องเดียวกัน ว่าหากมองปัญหาในเรื่องธรรมาภิบาลอย่างภาพกว้างแล้ว ปัญหาเหล่านี้ไม่เกิดขึ้นเฉพาะในเมืองไทยเท่านั้น ในต่างประเทศก็มีเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นเช่นกัน เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นมาจากกลุ่มคนบางกลุ่ม หรือบางคน ที่ไม่มีความจริงใจหรือซื่อสัตย์ต่อจรรยาบรรณของตนเท่านั้น
“เรื่องนี้คนจะโกง บทจะโกงมันก็โกง อย่างในสหรัฐฯบางคนทำเรื่องอย่างนี้มาเป็นเวลากว่า 10ปี ถึงเพิ่งมีคนรู้ว่าโกงชาวบ้าน ดังนั้นแม้ตลาดหลักทรัพย์ และก.ล.ต.จะสกรีนหรือเน้นเข้าไปในเรื่องจรรยาบรรณมากน้อยแค่ไหนก็ต้องมีปัญหานี้เกิดขึ้นอีก แต่อย่างไรก็ตามมองว่าทางการควรมีการปรับกฏเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องให้มีความรัดกุมมากขึ้น โดยอาจปรับจากกฎเกณฑ์ที่มีอยู่เพียงแค่นิดหน่อย ก็เชื่อจะสามารถแก้ไขปัญหาตรงจุดนี้ได้ในระดับหนึ่งแล้ว”
สำหรับการเข้าไปลงทุนในหุ้นของกองทุนรวม ผู้จัดการกองทุน กล่าวว่าทุกวันนี้การเข้าไปลงทุนในหุ้นปั่นนั้นไม่มีในกองทุนรวมแน่เพราะผู้จัดการกองทุนจะทำการวิเคราะห์และคัดสรรหุ้นที่จะเข้าไปลงทุนอย่างดี โดยนอกเหนือจากการดูแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจ ฐานะการเงินของบริษัทนั้นแล้ว บริษัทยังดูกรรกมารอิสระ ผู้บริหารของบริษัท พฤติกรรมในอดีต การบริหารเป็นไปในลักษณะใด เอาเปรียบผู้ลงทุนหรือไม่ ซึ่งจุดนี้จะดูจากการออกมาหข่าวถึงประมาณการคาดการณ์ในอนาคตว่าให้แนวโน้มอย่างไร รวมทั้งพูดคุยกันกับคนในวงการถือการเข้าลงทุนในหุ้นดังกล่าวว่าจะมีข้อดี ข้อเสีย ข้อควรระวังอย่างไร
|
|
 |
|
|