บลจ.ไอเอ็นจี เปิดขายกองทุนไลฟ์ไซเคิล 2015-2020-2025 พร้อมกัน3กอง เลือกลงทุนตามเป้าหมายปีที่จะเกษียณ ชูจุดเด่นปรับพอร์ตอัตโนมัติทุกสิ้นปีลงทุนยืดหยุ่นตามทิศทางตลาด พร้อมปรับเพิ่มสัดส่วนตราสารหนี้ขึ้นเรื่อยๆต่อเนื่องจนครบ 100%เมื่อสิ้นอายุโครงการ หวังลดความเสี่ยงให้ผู้ถือหน่วย

มาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ไอเอ็นจี(ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมขายกองทุนแบบผสมในซีรี่ส์ กองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ ไซเคิล (ING Thai Life Cycle Fund) จำนวน 3 กอง มูลค่าโครงการละ 2 พันล้านบาท ได้แก่ กองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2015 (อายุโครงการ 6 ปี 8 เดือน),กองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2020 (อายุโครงการ 11 ปี 8 เดือน) และกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2025 (อายุ 16 ปี 8 เดือน) โดยจะเปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรก ระหว่างวันที่ 19-26 มีนาคม 2552

สำหรับจุดเด่นกองทุนซีรี่ย์นี้จะใช้ปีที่ผู้ลงทุนต้องการเกษียณอายุเป็นตัวกำหนดเป้าหมายลงทุน คือ ปีค.ศ.2015, 2020 และ 2025 โดยแต่ละกองทุนจะมีนโยบายลงทุนแบบผสมระหว่างหุ้นและตราสารหนี้ในประเทศ แต่จะปรับเพิ่มสัดส่วนลงทุนในตราสารหนี้เพิ่มขึ้นแบบอัตโนมัติเพื่อลดความเสี่ยงให้กับผู้ถือหน่วยลง และจะเพิ่มขึ้นเป็น 100%เมื่อครบอายุโครงการ

ทั้งนี้กองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2015 จะมีสัดส่วนลงทุนในหุ้นไม่เกิน 30% แต่ช่วงแรกจะลงทุนเพียง 20-22% เนื่องจากตลาดหุ้นปีนี้มีความเสี่ยงสูง ส่วนที่เหลือลงทุนในตราสารหนี้ทั้งพันธบัตรรัฐบาล และหุ้นกู้เอกชน โดยจะพิจารณาจากอันดับความน่าเชื่อถือเป็นหลัก และเหมาะกับผู้ที่มีอายุ 50-55 ปี และเกษียณอายุช่วง 60 ปี

ขณะที่กองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2020 จะลงทุนในหุ้นสัดส่วน 33% ซึ่งจะเหมาะกับผู้มีอายุ 45-50 ปี และกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2025 จะลงทุนในหุ้นเริ่มต้น45%จากนโยบายไม่เกิน 55% และเหมาะกับผู้มีอายุ 40-45 ปี

“สัดส่วนการลงทุนจะยืดหยุ่นตามทิศทางตลาด โดยช่วงแรกจะปรับพอร์ตหรือสัดส่วนลงทุนได้บวกลบไม่เกิน 6%และ 3 ปีสุดท้ายจะบวกลบไม่เกิน 3%เพื่อป้องกันความเสี่ยง ส่วนหุ้นที่เข้าไปลงทุนจะเน้นกลุ่มที่เติบโตดีและปันผลสูง”

สำหรับสาเหตุที่ไม่ได้เปิดเป็นกอง RMFหรือLTF เพราะสามารถเจาะกลุ่มลูกค้าได้หลายทาง ทั้งลูกค้า RMFหรือLTF ที่มีกำลังซื้อเหลืออยู่หรือแม้แต่นักลงทุนที่ไม่ต้องการสิทธิประโยชน์ทางภาษีก็ลงทุนได้ ซึ่งกองทุนซีรี่ย์นี้สามารถซื้อขายได้ทุกวัน แต่จะได้เงินหลังจากข่าวหย่วยลงทุนแล้ว 5 วันทำการ

ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ บลจ.กสิกรไทยก็ได้มีการออกกองทุนในรูปแบบซีรี่ย์ที่คล้ายคลึงลักษณะนี้มาแล้วเช่นกัน 4 กองทุน ในชื่อว่า เค ไลฟ์สไตล์ 2500 ,เค ไลฟ์สไตล์ 2510 ,เค ไลฟ์สไตล์ 2520 และ เค ไลฟ์สไตล์ 2530 ซึ่งในแต่ละกองทุนก็จะมีสัดส่วนการลงทุนใน พันธบัตรรัฐบาล, ตราสารหนี้, หุ้น, หน่วยลงทุนต่างประเทศ และกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ในสัดส่วนที่แตกต่างกันไปตามความเสี่ยงของผู้ที่เกิดในช่วงปี พ.ศ.นั้นๆที่ควรจะรับได้ และกองทุนนี้ก็สามารถซื้อ-ขายได้ทุกวันทำการเช่นเดียวกัน