Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มกราคม 2544








 
นิตยสารผู้จัดการ มกราคม 2544
อีริคสัน             
 

   
related stories

ลูกข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ สนามแข่งขันที่เพิ่งเริ่มต้น

   
www resources

โฮมเพจ โซนี่ อีริคสัน (ประเทศไทย)

   
search resources

อีริคสัน (Ericsson)
Mobile Phone




ภ า พ ร ว ม

อีริคสันแห่งสวีเดนเร่งมือไล่กวดคู่แข่งอย่างโนเกีย และโมโตโรล่าในตลาดโทรศัพท์มือถือ โดยแม้จะเป็นรองในแง่ยอดขายอุปกรณ์โทรศัพท์ แต่ยังเป็นหนึ่งในตลาดโครงสร้างพื้นฐาน ที่รองรับโทรศัพท์ไร้สาย สินค้าหลักของอีริคสัน ทางด้านการให้บริการด้านโทรคมนาคมทำยอดขายให้บริษัทคิดเป็นสัดส่วนถึง 70% ของยอดขายรวม นอกจากนั้น อีริคสันยังเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่าย และระบบโทรคมนาคม โมเด็ม ชิ้นส่วนประกอบ เคเบิล และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทางการทหาร รวมทั้งเรดาร์ และระบบสื่อสารด้วย

เคิร์ต เฮลสตรอม กรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัท กำลังเร่งผลักดันกิจการอีริคสันให้พ้นจากความตกต่ำ ผลกำไรบริษัทลดลงเนื่องจากยอดขายอุปกรณ์โทรศัพท์รุ่นใหม่เป็นไปอย่างเชื่องช้า และตลาดโทรศัพท์แบบมีสายก็ซบเซา วิธีการของเขาก็คือ ลดต้นทุน ตัด คนงานส่วนเกิน และเข็นโทรศัพท์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาด

เฮลสตรอมมีเป้าหมายระยะยาว ที่จะแซงหน้า โมโตโรล่าขึ้นเป็นที่ 2 ในตลาดอุปกรณ์โทรศัพท์ไร้สาย แต่ขณะนี้บริษัทมุ่งเน้น ที่จะผนวกความแข็งแกร่งในด้านเครือข่าย และการสื่อสารไร้สายขึ้นเป็นผู้นำในตลาดเทคโนโลยีสื่อสารรุ่นที่สาม (3G) โดยตั้งความหวังกับ "บลูทูธ" (Bluetooth) ที่บริษัทกำลังจัดตั้งเป็นบริษัท เพื่อขายไลเซนส์สิทธิบัตรต่อไป นอกจากนั้น อีริคสัน ยังเน้นเป็นพิเศษทางด้านบริการ และซอฟต์แวร์การค้าแบบไร้สาย โดยทั้งพัฒนาด้วยตนเอง และร่วมมือกับบริษัทอื่น เช่น วีซ่า และไมโครซอฟท์

ค ว า ม เ ป็ น ม า

ลารส์ แม็กนุส อีริคสัน เปิดร้านซ่อมโทรเลขใน สตอกโฮล์ม เมื่อปี 1876 อันเป็นปีเดียวกับ ที่อเล็กซานเดอร์ เกรแฮมเบล จดสิทธิบัตรโทรศัพท์ในสหรัฐฯ หลังจากนั้น สองปีอีริคสันก็ผลิตโทรศัพท์ และบริษัทของเขาก็เติบโตอย่างรวดเร็ว เป็นผู้ซัปพลายอุปกรณ์รายแรกให้กับบริษัทโทรศัพท์แห่งสวีเดน และขยายสู่ประเทศในยุโรปในเวลาต่อมา ปี 1885 อีริคสันผลิตอุปกรณ์โทรศัพท์ ที่มีเครื่องรับ และพูดโต้ตอบอยู่ในเครื่องเดียวกันได้สำเร็จ ปี 1911 อีริคสัน และเอสเอที ซึ่งเป็นบริษัทโทรศัพท์แห่ง สตอกโฮล์มผนวกกิจการร่วมกันภายใต้ชื่อ อีริคสัน และนำมาใช้เป็นชื่อบริษัทในปี 1926 แต่ต่อมาอีกสี่ปีกิจการได้เปลี่ยนมือไปเป็นของนักการเงินชื่อ อิวาร์ ครูเกอร์ เจ้าของกิจการผลิตไม้ขีดไฟแห่งสวีเดน แต่ครูเกอร์ ฆ่าตัวตายในปี 1932 ทิ้งให้เจ้าหนี้รายหนึ่งคือ ไอทีที เข้ารับช่วงกิจการแทน

ปี 1960 ไอทีทีขายกิจการอีริคสันให้กับครอบครัวนักอุตสาหกรรมแห่งสวีเดนคือ ตระกูลวอลเลนเบอร์กส์ จนปี 1975 บริษัทก็ได้เปิดตัวระบบแปลงสัญญาณควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ชื่อ AXE และประสบความสำเร็จทำให้เริ่มแตกแขนงกิจการเข้าสู่ด้านคอมพิวเตอร์ และเฟอร์นิเจอร์สำนักงานในช่วงต้นทศวรรษ 1980

ต่อมาเมื่อปริมาณความต้องการระบบอัตโนมัติในสำนักงานลดลง และกำไรบริษัทก็ลดตาม ฮันส์ เวอร์เธน ประธานกรรมการของอีเลคโทรลักซ์จึงได้รับการว่าจ้างให้เข้ามาฟื้นฟูอีริคสัน โดยยังรั้งตำแหน่ง ที่อีเลคโทรลักซ์ไว้ด้วย เวอร์เธนตัดสินใจขายธุรกิจคอมพิวเตอร์ออกไปให้กับโนเกียในปี 1988 และกลับไปเน้น ที่อุปกรณ์โทรศัพท์ จากนั้น ปัดฝุ่นระบบ AXE เพื่อใช้กับตลาดโทรศัพท์มือถือจนในที่สุดก็ได้สัมปทานสำคัญๆ หลายรายการ

นอกจากนั้น อีริคสันยังผนวกกิจการด้านอิเล็ก ทรอนิกส์การบินทางทหารกับซาบเป็น "อีริคสัน ซาบ เอวิโอนิกส์" (Ericsson Saab Avionics) ในปี 1996 (แต่ล้มละลายในสองปีต่อมา) ปี 1998 สเวน-คริสเตอร์ นิลสัน ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เขาประกาศแผนปรับโครงสร้างโดยปลดคนงาน 14,000 คน

หลังจาก ที่อีริคสันต่อสู้อย่างหนักหน่วงกับ Qualcomm ในเรื่องมาตรฐานโทรศัพท์ไร้สาย และ สิทธิบัตร ในปี 1999 ก็ตกลงกันได้โดยอีริคสันเซ็นสัญญาร่วมกัน และตกลง ที่จะผลักดันเทคโนโลยี รุ่นที่ 3 ที่เป็นมาตรฐานโดยอาศัยเทคโนโลยีแบบเข้าถึงได้หลายทางของ Qualcomm โดยในข้อตกลงดังกล่าวนี้ อีริคสันจะซื้อธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานของ Qualcomm ด้วย ส่วน ด้านการขยายบริการอินเทอร์เน็ต อีริคสันได้ซื้อผู้จัดทำเส้นทางสัญญาณอินเทอร์เน็ตสองแห่ง คือ "ทอเรนต์ เน็ตเวิร์คกิ้ง เทคโนโลยีส์" (Torrent Networking Technologies) และ "ทัชเวฟ" (Touch Wave) ต่อมาอีริคสันยังตั้งบริษัทใหม่ เพื่อพัฒนาบริการ และซอฟต์แวร์อี-คอมเมิร์ซไร้สาย และยังร่วมกับไมโครซอฟท์พัฒนาแอพพลิเคชั่นส์สำหรับอินเทอร์เน็ตในอุปกรณ์ไร้สายด้วย

กลางปี 1999 นิลสันถูกปลดเนื่องจากดำเนินแผนการปรับโครงสร้างล่าช้า ลาร์ส แรมควิสต์ ประธานกรรมการเข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารแทน ภาระหนักจึงตกไปอยู่ ที่ เคิร์ต เฮลสตรอม ซึ่งดำเนินการปรับโครงสร้างการบริหาร และระบบบัญชีให้เรียบง่ายขึ้น และสานต่อนโยบายปลดพนักงาน และเลิกกิจการที่มี อัตราเติบโตต่ำ

ปี 2000 บริษัทปรับปรุงกิจการอีกโดยขายธุรกิจ ที่ไม่เกี่ยวกับธุรกิจหลักออกไป อีริคสันยังร่วมมือกับโนเกีย และโมโตโรล่าพัฒนามาตรฐานสำหรับป้องกันการซื้อขายทางการสื่อสารไร้สาย และมีแผนที่จะขายไลเซนส์มาตรฐานเครือข่ายไร้สาย "บลูทูธ" (Bluetooth) และประกาศจะร่วมทุนกับผู้จัดทำเส้นทางสัญญาณ อินเทอร์เน็ตในเครือข่าย "จูนิเปอร์" เมื่อขายเส้นทางสัญญาณอินเทอร์เน็ตเคลื่อนที่ด้วย

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us