Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน20 มีนาคม 2552
แมคโดนัลด์โหมตลาดเบรคฟาสต์ รับเช็คช่วยชาติลด20%ทอนเงินสด             
 


   
www resources

โฮมเพจ แมคไทย (McThai)

   
search resources

เฮสเตอร์ ชิว
Fastfood
แมคไทย, บจก. (McThai)




แมคโดนัลด์ ปักธงลงทุนต่อเนื่อง อัดฉีดงบ 500 ล.ผุดสาขาใหม่ เดินหน้าโปรโมตช่วงเมนูอาหารเช้าหรือ กู้ดมอร์นิ่ง หวังเพิ่มสัดส่วนรายได้ช่วงเบรคฟาสต์เมนูเช้า ด้วยงบตลาด 35 ล้านบาท พร้อมรับเช็คช่วยชาติให้ส่วนลด 20%

นายเฮสเตอร์ ชิว ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมคไทย จำกัด ผู้บริหารร้านแมคโดนัลด์ เปิดเผยว่า ปีนี้แมคโดนัลด์ยังลงทุนในไทยต่อเนื่องแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจไม่ดี คาดว่างงลงทุนรวม 500 ล้านบาท ขยายสาขาใหม่ประมาณ 17 แห่ง ขณะนี้ได้ตกลงเรื่องพื้นที่ไปแล้วประมาณ 13 แห่ง ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างเจรจา

“ปีนี้ก็คงต้องเหนื่อยอีก แต่เราต้องลงทุนต่อเนื่อง พื้นที่ก็หายาก ช่วง 2 เดือนแรกที่ผ่านมายอดขายสาขาเดิมของเราก็ยังเติบโตดีอยู่ประมาณ 7% ส่วนดีลิเวอรี่ยังโต 20% ถ้าภาพรวมทั้งหมด ยังโตที่ 25% และปีนี้เราก็ตั้งเป้าหมายเติบโดยรวมที่ 27% ด้วยแผนการตลาด การจัดกิจกรรม และการออกเมนูใหม่ ส่วนในองค์กรเองเราก็มีการขึ้นเงินเดือน ให้โบนัสพนักงาน ”

ทั้งนี้สัดส่วนรายได้หลักของแมคโดนัลด์หากแบ่งเป็นกลุ่มลูกค้าจะมาจาก กลุ่มครอบครัว 50% กลุ่มวัยรุ่น 30% และกลุ่มคนเริ่มทำงาน 20% แต่ถ้าหากมองในแง่ของสัดส่วนรายได้แบ่งตามเวลา พบว่า ช่วงเดย์พาส (Day Pass) ซึ่งประกอบด้วย ช่วงกลางวัน ช่วงบ่ายและช่วงเย็น จะมีสัดส่วนมากที่สุดรวมกว่า 87% ส่วนช่วงเช้าหรือเบรคฟาสต์มีสัดส่วนรายได้เพียงแค่ 12% แมคโดนัลด์จึงมองเห็นโอกาสที่จะขยายตลาดในส่วนนี้มากขึ้น

นายเฮสเตอร์กล่าวว่า หากเทียบแมคโดนัลด์ต่างประเทศพบว่า ที่ฮ่องกง และสิงคโปร์ รายได้มาจากช่วงเช้ามากถึง 80% แต่เขาทำมานานกว่า 20 ปีแล้ว แต่ของไทยเองการทำตลาดช่วงเบรคฟาสต์หรือเมนูตอนเช้า เราเพิ่งมาเริ่มทำจริงจังเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งก็ได้ผลตอบรับค่อนข้างดีพอสมควร ดังนั้นในปีนี้จะรุกหนักมากขึ้น

สำหรับปีที่แล้ว ยอดขายจากเมนูอาหารเช้าก่อน 11.00 น. มีการเติบโตมากกว่า 35% ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อบิลต่อครั้งเพิ่มขึ้น 13% และส่งผลให้การเข้ามาใช้บริการของลูกค้าช่วงเดย์พาสเพิ่มจาก 9% เป็น 11% โดยมีเมนูอาหารประมาณ 9-19 เมนู ไว้คอยบริการ ค่าใช้จ่ายเมนูเช้าประมาณ 100 กว่าบาทต่อคนต่อครั้ง ขณะที่ค่าใช้จ่ายช่วงเดย์พาสประมาณ 80-90 บาทต่อคนต่อครั้ง ลูกค้าเข้าใช้บริการเฉลี่ย 1.6 ครั้งต่อเดือน จากสาขาที่บริการเมนูอาหารเช้า 86 สาขา

อย่างไรก็ตามในปีนี้มีแผนที่จะเพิ่มสาขาบริการเมนูอาหารเช้าให้ครบเป็น 100 สาขา และตั้งเป้ายอดขายจากเมนูอาหารเช้า 30% ลดลงจากปีที่แล้วเนื่องจากปีที่แล้วฐานยังน้อยอยู่มาก และเพิ่มอัตราคนเดินเข้าร้านตอนเช้าประมาณ 25% นอกจากนั้นแล้วจะมีเมนูใหม่ๆออกมาเป็นระยะ ซึ่งในอนาคตอาจจะมีความเป็นไปได้ที่จะมีเมนูอาหารเช้าเป็นอาหารไทยบ้าง หากผู้บริโภคมีความต้องการ ซึ่งในร้านแมคโดนัลด์ที่มาเลเซียก็มีโจ้ก ส่วนที่ฮ่องกงก็มีเมนูมักกะโรนีไว้คอยบริการ เป็นต้น

นายเฮสเตอร์กล่าวว่า ปีนี้จะใช้งบการตลาดเพื่อผลักดันอาหารเช้าประมาณ 35 ล้านบาท ทำการตลาดแบบ 360 องศาทุกรูปแบบ โดยแคมเปญแรกนี้ จะมีทั้งการโฆษณาสื่อทีวี สื่อวิทยุคลื่น 93 กับคลื่น 95.5 สื่อสิ่งพิมพ์ , ดิจิตอล, สื่อพีโอพี, การตกแต่ง 10 สาขาหลักให้มีบรรยกาศการทานอาหารตอนเช้า , การแจกคูปองเพื่อรับสินค้าทดลองชิมคือ ซอสเซจเอ้กเบอร์เกอร์ ฟรี จำนวน 100,000 ชุด รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท เริ่มวันที่ 23 มีนาคมนี้ ที่อาคารสำนังาน 60 แห่ง และตามบีทีเอสและรถไฟฟ้าใต้ดินอีก 17 จุด , การขยายฐานลูกค้าใหม่ๆให้กว้างขึ้น

ส่วนกรณีที่รัฐบาลจะให้เช็คช่วยชาติ 2,000 บาทกับผู้บริโภคที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาทนั้น บริษัทออกแคมเปญมารองรับ โดยเมื่อลูกค้านำมาซื้อสินค้าในร้านตามเงื่อนไขไม่มีขั้นต่ำ พร้อมทอนเป็นเงินสด และมีส่วนลดให้อีก 20% ระหว่างวันที่ 26 มี.ค. – 30 เม.ย.   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us