Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน18 มีนาคม 2552
ไบโอฯเพิ่มงบตลาดกลุ่มดาวรุ่ง ดีนี่แตกไลน์ครีมอาบน้ำเพิ่มยอด             
 


   
search resources

ไบโอ คอนซูเมอร์, บจก.
Baby Products




ไบโอฯ ชูนโยบายอัดงบสินค้าที่มีศักยภาพ – หั่นงบแคธิกอรี่ที่ชะลอตัว ทุ่ม 30 ล้านบาท รุกผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก “ดีนี่” รับอานิสงส์พิษเศรษฐกิจ พฤติกรรมคนในครอบครัวใช้สินค้าเด็ก แตกโปรดักส์ไลน์ครีมอาบน้ำ สูตรผสมน้ำนม-โยเกิร์ต หวังขยายฐานจากเด็กสู่กลุ่มผู้หญิง สิ้นปีโค่นโคโดโมะ รั้งอันดับ 3 กวาดแชร์จาก 7% เป็น 17%

นางสาวศิริสุภา อาจสัญจร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ไบโอ คอนซูเมอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กดีนี่ เปิดเผยว่า นโยบายการตลาดของไบโอฯ โดยรวมปีนี้ มีการวางแผนอย่างรัดกุมและรอบคอบมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับกับภาวะวิกฤตเศรษฐกิจที่ไม่เอื้อต่อการทำตลาด หรือแม้กระทั่งการเปิดตัวสินค้าใหม่มากนัก โดยบริษัทมีการวางแผนล่วงหน้าสำหรับปีนี้ตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปีที่ผ่านมา ซึ่งปีนี้มีสินค้าบางแคธิกอรี่ที่บริษัทลดงบในการทำตลาดลง และเพิ่มงบในกลุ่มสินค้าที่มีศักยภาพหรือมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ จากปัจจุบันมีทั้งหมด 9 กลุ่ม

สำหรับปีนี้บริษัทได้ทุ่มงบ 30 ล้านบาท ในกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กดีนี่ จากปีที่ผ่านมาใช้งบ 20 ล้านบาท เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการเติบโตในท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ โดยพบว่าภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กในปีนี้ ยังมีอัตราการเติบโตสวนกระแสกับภาวะเศรษฐกิจ อาทิ ตลาดครีมอาบน้ำและสระมูลค่า 150 ล้านบาท โต 10% ตลาดผลิตภัณฑ์ซักผ้ามูลค่า 300 ล้านบาท โต 4% และตลาดน้ำยาปรับผ้านุ่มมูลค่า 105 ล้านบาท โต 5%

นางสาวศิริสุภา กล่าวว่า การที่ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กยังเติบโตที่ดีอยู่ ส่วนหนึ่งเพราะพ่อแม่ให้ลูกใช้สินค้าที่มีคุณภาพ และประหยัดค่าใช้จ่ายของตนเองแทน อีกทั้งยังได้รับอานิสงส์จากวิกฤตเศรษฐกิจ ส่งผลให้คนในครอบครัวหันมาใช้สินค้าสำหรับเด็กมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายแฝง ผู้หญิงหรือคุณแม่ที่นิยมใช้สินค้าเด็ก ทำให้ตลาดเพอร์ซันนัลแคร์สำหรับผู้ใหญ่ลดลง

ล่าสุดบริษัทเปิดตัวผลิตภัณฑ์ครีมอาบน้ำ ดีนี่ เพียว สูตรผสมน้ำนมและโยเกิร์ต 2 กลิ่น วางราคาถูกกว่าผู้นำตลาดเบบี้มายด์ 5-10% เจาะกลุ่มเป้าหมายเด็กและขยายฐานกลุ่มเป้าหมายแฝงไปสู่ผู้หญิงเป็นหลัก ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในขณะนี้ โดยเน้นการทำอะโบฟเดอะไลน์มากกว่าบีโลว์เดอะไลน์ เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้างและมุ่งเน้นสร้างความเชื่อมั่นตราสินค้า รวมถึงคุณภาพสินค้าให้กับลูกค้า เนื่องจากตลาดผลิตภัณฑ์เด็กการแข่งขันไม่รุนแรง

ทั้งนี้จากการดำเนินการตลาดเชิงรุก บริษัทตั้งเป้ามีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มจาก 7% เป็น 17% ในตลาดครีมอาบน้ำและสระมูลค่า 150 ล้านบาท โดยขึ้นจากอันดับ 4 มาเป็นอันดับ 3 แทนที่โคโดโมะ ซึ่งมีส่วนแบ่งอยู่ 17% ส่วนอันดับ 2 จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน 23% เบบี้มายด์ 45%

นางสาวศิริสุภา กล่าวว่า ช่วงครึ่งปีหลังวางแผนเปิดตัวสินค้า 3 แคธิกอรี่ใหม่ เพื่อขยายโปรดักส์ไลน์ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าเติบโต 15% มีรายได้ 250 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมา 220 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าเด็ก 38% ครีมอาบน้ำ 22% น้ำยาปรับผ้านุ่ม 12% และล้างขวดนม 12% โดย 2550ดีนี่ มีส่วนแบ่งผลิตภัณฑ์ของใช้ในครัวเรือน 15% และปี 2551 เพิ่มเป็น 21% ขึ้นเป็นอันดับ 2ของตลาดแทนที่โคโดโมะ มีส่วนแบ่ง 20% ส่วนผู้นำตลาดเบบี้มายด์ 43%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us