|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
อังกฤษตรางู ชี้ วิกฤตเศรษฐกิจลามกระทบสินค้าของใช้ส่วนบุคคลลดฮวบ 5-10% กำลังซื้อไตรมาสแรกดิ่ง 2-3% ด้านภาวะตลาดแป้งเย็นกว่า 1,200 ล้านบาท ปีนี้ไม่โต หลังเจอพิษเศรษฐกิจพ่นหดตัวต่อเนื่อง 2 ปี ผู้บริโภคประหยัดแห่ใช้แป้งเด็ก เพราะราคาถูก 20-30% ตรางูปรับกลยุทธ์ อัด 150 ล้านบาท รุกตลาดครบไลน์ ชูกลยุทธ์ไซซ์ซิ่ง สิ้นปีแชร์เพิ่มจาก 22% เป็น 23%
นายสมชาย นิธิเสถียรชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและขายภายในประเทศ บริษัท อังกฤษตรางู (แอล.พี.) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแป้งเย็นตรางู เปิดเผยว่า ผลพวงจากวิกฤตเศรษฐกิจส่งผลกระทบกำลังซื้อของผู้บริโภคไตรมาสแรกลดลง 2-3% และมีแนวโน้มว่าไตรมาส 2 ลดลง 4% ขณะที่กลุ่มสินค้าของใช้ส่วนบุคคล เริ่มได้รับผลกระทบ จากปกติผู้บริโภคให้ความสำคัญการซื้อสินค้าในสัดส่วน 35-40% ลดลง 5-10% เหลือเพียง 30% โดยกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ คือ ของใช้ส่วนบุคคลสำหรับผู้ชายลดลง 50% หรือสินค้าที่เจาะตลาดนิชมาร์เก็ตและมีจุดขายอีโมชันนัล
“พฤติกรรมของผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนแปลงตามภาวะเศรษฐกิจ เริ่มซื้อสินค้าขนาด
เล็กลง แต่มีความถี่ในการซื้อเพิ่มขึ้น และขณะเดียวกันซื้อสินค้าใกล้บ้านแทนการเดินทางซื้อสินค้าทางโมเดิร์นเทรด”
สำหรับภาวะตลาดแป้งมูลค่า 3,716 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมาหดตัว 2% แบ่งเป็น แป้งเพื่อความงาม 394 ล้านบาท หดตัว 1% และแป้งน้ำ 40 ล้านบาท หดตัว 12% ขณะที่ภาวะแป้งเย็นมูลค่า 1,238 ล้านบาท หดตัว 6-7% และอัตราการใช้ต่อครัวเรือนลดลงจาก 66% เหลือเป็น 61% เนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่ร้อนมากนัก ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ลูกค้าหันไปใช้แป้งเด็กซึ่งมีราคาถูกกว่า 20-30% อีกทั้งเป็นสินค้าที่สามารถใช้ได้ทั้งครอบครัว เมื่อเทียบกับแป้งเย็นผู้ใช้เป็นกลุ่มผู้ใหญ่ นอกจากนี้แป้งเด็กยังมีการทำโปรโมชันอย่างรุนแรง ซื้อ 1 แถม 1 ส่งผลให้ในแง่มูลค่าลดลง 2% แต่ในเชิงปริมาณโต 3.5%
ดังนั้นปีนี้แม้ว่าสภาพอากาศจะร้อน แต่คาดว่าตลาดแป้งเย็นไม่เติบโต โดยประมาณการณ์ว่า สำหรับแผนการตลาดบริษัทมุ่งให้ความสำคัญสินค้าอีก 2 กลุ่ม ได้แก่ โลชั่น และสบู่ เพิ่มเติมจากการทำตลาดแป้งเย็นซึ่งเป็นสินค้าหลักสร้างรายได้ 90% ภายใต้การใช้งบกว่า 140-150 ล้านบาท แบ่งเป็น อะโบฟเดอะไลน์ 40-50 ล้านบาท และเพิ่มงบบีโลว์เดอะไลน์จาก 70-80 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาท
นายสมชาย กล่าวว่า การทำตลาดแป้งเย็นใช้กลยุทธ์ไซซ์ซิ่ง โดยเพิ่มขนาด 100 กรัม ราคา 25 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับกำลังการซื้อของผู้บริโภค นอกจากนี้ยังขยายฐานลูกค้าตลาดต่างจังหวัดผ่านช่องทางเทรดิชันนัลเทรด จากปัจจุบันมีฐานลูกค้าในเมืองที่แข็งแกร่ง อีกทั้งยังได้ส่งสินค้ารุ่นลิมิเต็ด เอดิชันขนาด 100 กรัม จำหน่ายร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น เพื่อรองรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าใกล้บ้านมากขึ้น ขณะเดียวกันได้ปรับสูตรเฮอร์เบิ้ลใหม่ เพื่อขยายฐานลูกค้าในวงกว้าง
ส่วนการทำตลาดสบู่ ได้เปิดตัวสูตรใหม่ เฮลท์ตี้ ไวท์เทนนิ่ง เพิ่มเพื่อความหลากหลาย อีกทั้งยังส่งบรรจุภัณฑ์ชนิดเติมรองรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ระมัดระวังการใช้เงิน และบรรจุภัณฑ์ขวดปั๊ม เจาะกลุ่มเป้าหมายครอบครัว ขณะที่โลชั่นจะทำตลาดในช่วงไฮซีซั่นหรือฤดูกาลการขายในช่วงฤดูหนาว ทั้งนี้จากการดำเนินตลาดเชิงรุกผลักดันยอดขายโดยรวมโต 10-11% จากปีที่ผ่านมาเติบโต 9% เนื่องจากบริษัทมีไลน์สินค้าที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นและมีความพร้อมด้านกำลังการผลิต โดยตั้งเป้าหมายแป้งเย็นตรางูเพิ่มส่วนแบ่งจาก 22% เป็น 23% โพรเทคส์ 32% ทเวลฟ์พลัส 19%
|
|
|
|
|