Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน17 มีนาคม 2552
คอทองแดงซื้อตุนไว้แล้วหยามรัฐไม่หวั่นห้ามขายเบียร์อาชาปรับใหญ่รอบ5ปี             
 


   
www resources

โฮมเพจ ไทยเบฟเวอร์เรจส์ จำกัด (มหาชน)

   
search resources

ไทยเบฟเวอเรจ, บมจ.
Alcohol
ชาลี จิตจรุงพร




ไทยเบฟฯ ชี้รัฐรีดภาษีน้ำเมา กระทบสินค้าต้องปรับราคาเพิ่มขึ้นตามต้นทุน ฉวยเศรษฐกิจตกสะเก็ด คนซดเบียร์ราคาถูก อัดฉีด 50 ล้านบาท ลุยปั้นอาชาครั้งแรกรอบ 5 ปี ระเบิดแคมเปญโฆษณา ปัดฝุ่นภาพลักษณ์ให้ชัดเจน มีความทันสมัย ทะลวงคอเบียร์ต่างจังหวัด เจาะช่องทางออฟพรีมิส สิ้นปีโกยแชร์จาก 12% เพิ่มเป็น 15%

นายชาลี จิตจรุงพร รองผู้อำนวยการสำนักการตลาด บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ ผู้ผลิตและจำหน่ายเบียร์ช้าง อาชา และเฟดเดอร์บรอย เปิดเผยว่า จากกรณีภาครัฐมีแนวทางจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น โดยในแง่ของผู้ประกอบการหากภาษีเพิ่มขึ้นก็ต้องปรับราคาตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งในภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา ย่อมส่งผลกระทบต่อยอดขายแน่นอน เนื่องจากผู้บริโภคระมัดระวังการใช้เงิน และมีพฤติกรรมการซื้อสินค้าที่ถูก แต่ต้องมีรสชาติที่ดี อย่างไรก็ตามการจัดเก็บที่เพิ่มขึ้น เป็นเรื่องที่บริษัทไม่สามารถควบคุมได้

ส่วนกรณีแนวทางห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วงสงกรานต์ เชื่อว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคปรับเปลี่ยน โดยซื้อสินค้ามากักตุนเพื่อดื่มในช่วงดังกล่าว มองว่าภาครัฐควรรณรงค์การให้ความรู้การดื่มอย่างถูกวิธีมากกว่า

สำหรับแนวทางการตลาดในช่วงต้นปี บริษัทรุกทำตลาดเบียร์อาชาครั้งแรกในรอบ 5 ปี เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีราคาไม่สูง ขนาด 640 มล. ราคา 29-32 บาท และขนาด 330 มล. ราคา 19-22 บาท สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ อีกทั้งปริมาณดีกรีแอลกอฮอล์ 5.2% ไม่สูงมากนักรับสอดรับกับเทรนด์ของกลุ่มเป้าหมายที่ดื่มเครื่องดื่มดีกรีต่ำลง โดยบริษัทได้ทุ่มงบ 50 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญโฆษณาเบียร์อาชาใหม่ ภายใต้คอนเซปต์ “สัมพันธภาพที่ตัดกันไม่ขาดระหว่างเพื่อน” เพื่อสร้างภาพลักษณ์สินค้าให้มีความชัดเจนมากขึ้น และมีความทันสมัย

พร้อมกันนี้บริษัทได้ยังปรับโลโก้ใหม่ ซึ่งจากนี้จะมีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง นำร่องจัดการแข่งขันประกวดดนตรี “ชาวอาชาเนียน” ขึ้นเพื่อส่งเสริมความฝันคนรุ่นใหม่ สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายอายุ 20-25 ปี ทั้งนี้การทำตลาดอาชาบริษัทเน้นเจาะตลาดต่างจังหวัด ผ่านช่องทางออฟพรีมิสเป็นหลัก แตกต่างเบียร์ช้างเจาะกลุ่มเป้าหมายคนเมืองมากขึ้น และจากการดำเนินการตลาดเชิงรุก เบียร์อาชาตั้งเป้าเติบโต 20-30% หรือมีส่วนแบ่งเพิ่มจาก 12% เป็น 15% จากมูลค่าตลาดกว่า 1 แสนล้านบาท

“ภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี ทำให้ผู้ประกอบการระมัดระวังการใช้งบในการทำโฆษณา เราจึงถือว่าโอกาสในช่วงวิกฤตให้เป็นโอกาสสำหรับเบียร์อาชา จากที่ผ่านมาขาดการสื่อสารและการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง”

นายชาลี กล่าวว่า การทำตลาดในช่วงครึ่งปีแรกค่อนข้างลำบาก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไม่ดี สำหรับตลาดเบียร์ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาซบเซา แต่คาดว่าไตรมาส 2 หรือ 3 ผู้ประกอบการจะเริ่มกลับเข้ามาทำตลาด เพื่อหนีตายจากตลาดที่ซบเซา สำหรับสภาพตลาดเบียร์มูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท ในปีนี้คาดว่ามีอัตราการเติบโต 4-5% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต 3% แบ่ง อีโคโนมีกว่า 80% สแตนดาร์ดกว่า 10% ที่เหลือไม่ถึง 10% เบียร์พรีเมียม ที่หดตัวลง เพราะกลุ่มเป้าหมายหันมาดื่มเบียร์สแตนดาร์ดมากขึ้น เพราะราคาถูกกว่า   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us