Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน3 กันยายน 2546
อัญมณีไทยโตสุดรอบ6ปีดันสู่ศูนย์กลางตลาดโลก             
 


   
search resources

ชมรมผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับมาตรฐาน
พรสิทธิ์ ศรีอรทัยกุล




ชมรมผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับมาตรฐาน ชี้ปีนี้ตลาดอัญมณีไทยโต 30% สูงสุดในรอบ 6 ปี หลังจากวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ทำตลาดซบ ชมรมฯจับมือร่วมททท.เร่งจัดโรดโชว์ประชาสัมพันธ์ต่างประเทศ พร้อมเล็งขยาย ตลาดอัญมณีไปยังกลุ่มวัยรุ่น จีน ยุโรป และอเมริกา อนาคตดันไทยเป็นศูนย์ กลางการค้าทับทิม และไพลินสีน้ำเงินระดับโลก เร่งแก้ปัญหาหลอกลวงนักท่อง เที่ยว ตั้งเป้า 3 ปี โกยรายได้ในประเทศ 60,000 ล้านบาท

นายพรสิทธิ์ ศรีอรทัยกุล ประธานชมรมผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับมาตรฐาน เปิดเผยว่าภาพรวมตลาดอัญมณีและเครื่องประดับในปีนี้มีแนวโน้ม ที่เติบโตสูงกว่าทุกปีที่ผ่านมา จากเดิมมีอัตราการเติบโตปีละประมาณ 10-15% คาดว่าในปีนี้สภาพตลาดจะเติบโตถึง 20-30% ถือเป็นอัตราการเติบโตสูงสุดในรอบ 6 ปี นับจากเกิดวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจปี 2540 ที่เป็นเช่นนั้นเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมทั้งในประเทศและนอกประเทศอยู่ในภาวะที่ดีขึ้น

สำหรับแผนการทำตลาดในต่างประเทศ ชมรมฯ ได้วางแผนใช้กลยุทธ์การจัดโรดโชว์ โดยร่วมกับการ ท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และการจัดบูทแสดงสินค้าในประเทศที่เป็นตลาดหลัก อาทิ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งปัจจุบันทำสัดส่วนรายได้เข้าประเทศ ถึง 30% ญี่ปุ่น 18% ยุโรป 15% และอื่นๆ 37% จากมูลค่าการส่งออกพลอยและอัญมณีกว่า 30,000 ล้านบาท ในขณะที่มูลค่าการส่งออกโดยรวมกว่า 1 แสน ล้านบาท

พร้อมกันนี้ชมรมฯได้วางแผนกระตุ้นตลาด ด้วยการพัฒนารูปแบบของอัญมณีให้เป็นแฟชั่นมากขึ้น เพื่อขยายฐานกลุ่มเป้าหมายไปยังเด็กวัยรุ่น จากที่ผ่านมากลุ่มเป้าหมายหลักส่วนใหญ่ จะเป็นผู้ใหญ่ โดยได้เริ่มทดลองตลาดในญี่ปุ่นซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยในขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการวางแผนขยายตลาดอัญมณีให้เป็นแฟชั่นมากขึ้น เบื้องต้นจะขยายตลาดไปประเทศจีน สหรัฐอเมริกา และยุโรป

"สำหรับภาวะการแข่งขันอัญมณีในตลาดโลก ขณะนี้ถือว่าไทยเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงทาง ด้านอัญมณีเป็นอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งมีเพียงศรีลังกาประเทศเดียวเท่านั้นที่เป็นคู่แข่ง แต่ยังมีการพัฒนาทางด้านฝีมือรวมถึงความประณีตห่างไกลกว่าประเทศไทยอีกมาก จึงมั่นใจว่าหาก ไทยเร่งจัดกิจกรรมในตลาดต่างประเทศมากขึ้น จะสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศอีกมาก ส่วนเป้าหมายในอนาคต ทางชมรมฯจะร่วมกันผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าทับทิมและไพลิน สีน้ำเงินระดับโลก" นายพรสิทธิ์ กล่าว

กรณีที่สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นตลาดหลัก กำลังประสบภาวะทางเศรษฐกิจ ขณะนี้ทางชมรมฯได้วางแผนจะขยายตลาดไปยังประเทศจีน อินเดีย แอฟริกา สแกนดิเนเวีย รัสเซีย เพื่อรองรับแทนตลาดสหรัฐอเมริกาแล้ว จึงมั่นใจว่ารายได้ดังกล่าวจะไม่ลดลง

สำหรับแผนการทำตลาดในประเทศ ขณะนี้ทางชมรมฯ ได้เร่งจัดกิจกรรมอย่างหนัก เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นตลาดอัญมณีอย่างต่อเนื่อง จากในปีที่ผ่านมาได้จัดโครงการส่งเสริมการ ขายทับทิม (Ruba Year 2002) ร่วมกับประเทศญี่ปุ่นสามารถกระตุ้นส่งผลให้การส่งออกทับทิมเจียระไนเพิ่มขึ้นถึง 60%

ล่าสุดชมรมฯจัดโครงการส่งเสริมการขายพลอยน้ำเงิน (Blue Sapphire) ภายใต้สโลแกน "สุดยอดพลอยน้ำเงินสุดยอดแห่งรัก" หรือ "Ultimate Blue Ultimate Love" ด้วยการประกวดพลอยสีน้ำเงิน แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ประเภทพลอยน้ำเงินขนาด 5-7 กะรัต พลอยประเภทขนาดฟรีไซส์ 10-200 กะรัต และ ประเภทพลอยน้ำเงินไทย ขนาด 5 กะรัตขึ้นไป ซึ่งจะตัดสินรอบสุดท้ายในงานแสดงสินค้า บางกอกเจมส์ ครั้งที่ 32 ในวันที่ 12 กันยายน 2546 เวลา 16.00-18.00 น. ที่ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติอิมแพค เมืองทองธานี โดยคาดว่างาน ดังกล่าวจะกระตุ้นกำลังซื้อในตลาดได้ไม่แพ้ในปีที่ผ่านมา

พรัอมกันนี้ชมรมฯยังได้ร่วมมือกับภาครัฐบาล แก้ปัญหาการหลอกลวงนักท่องเที่ยวต่าง ประเทศซื้ออัญมณีปลอม ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ในขณะนี้ โดยคาดว่าหากภาครัฐและเอกชน ร่วมมือกันแก้ไขดังกล่าวได้ ภายในอีก 2-3 ปีข้างหน้านี้ ไทยจะมีรายได้จากการจำหน่ายอัญมณีถึง 60,000 ล้านบาท สำหรับในปีนี้ตั้งเป้าจะมีอัตราการ เติบโต 20-30% จากในปีที่ผ่านมามีรายได้เพียง 30,000 ล้านบาท

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us