Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน13 มีนาคม 2552
เซ็นทรัลตั้งทีมเทคโอเวอร์             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด

   
search resources

เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น, บจก.
ทศ จิราธิวัฒน์




ซีอาร์ซีตั้งหน่วยไล่ล่า เทคโอเวอร์ ร่วมถือหุ้น โครงการค้าปลีก ทั้งในและต่างประเทศ หวังได้ของดีราคาต่ำ เปิดกว้างทุกรูปแบบ ตั้งงบก้อนดโ 3,000 ล้านบาทเตรียมไว้แล้ว เผยมี 4 โครงการในต่างประเทศเข้าตากรรมการ ลั่นปีนี้ใช้งบลงทุนรวม 9,200 ล้านบาท ตั้งเป้ารายได้ 93,920 ล้านบาท เติบโต 10%

นายทศ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือซีอาร์ซี เปิดเผยว่า บริษัทฯตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นมาอย่างเป็นทางการเมื่อต้นปีนี้ชื่อว่า คอร์ปอเรท สตาร์ทติจี้ แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ โดยมีนางสาวพรชนก ตันสกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส เป็นหัวหน้าทีมดังกล่าว และมีทีมงานประมาณ 5 คน

ทั้งนี้หน่วยงานดังกล่าวมีหน้าที่หลักในการศึกษาและหาข้อมูลในการขยายธุรกิจด้วยการ เทคโอเวอร์ ร่วมหุ้น ซื้อโครงการ หรือร่วมทุน ในโครงการต่างๆทั้งในและต่างประเทศ ที่มุ่งเน้นไปที่ธุรกิจค้าปลีกเป็นหลักก่อน ซึ่งจะประสานงานกับทางธนาคารเป็นหลักในการศึกษาข้อมูลต่างๆถึงโครงการที่น่าสนใจรวมทั้งบริษัทด้วย โดยเบื้องต้นตั้งงบประมาณลงทุนไว้ที่ 3,000 ล้านบาทก่อน

ปัจจุบันมีหลายโครงการและหลายบริษัท ที่เราได้ทำการศึกษาข้อมูลอยู่และมีความน่าสนใจแต่ยังไม่สรุปว่าจะลงทุนรูปแบบใด โดยแบ่งเป็นโครงการ 3-4 แห่งในต่างประเทศ ส่วนในรูปแบบบริษัทก็มีประมาณ 5-6 บริษัทที่น่าสนใจเข้าไปซื้อกิจการ ทั้งนี้บริษัทฯเปิดกว้างทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการถือหุ้นใหญ่ ถือหุ้นน้อย หรือบริหารด้วยหรือแค่ถือหุ้น แล้วแต่ความเหมาะสม

“การทำแบบนี้ไม่ใช่เป็นการกระจายความเสี่ยง แต่ถ้าเราไม่ขยายธุรกิจทางด้านนี้ เราก็มีแต่การเติบโตมาจากการขยายสาขา การทำตลาดเท่านั้น ซึ่งมันก็คงได้ระดับหนึ่ง ซึ่งเราตั้งเป้าหมายในปีนี้จะต้องมีการเติบโตของซีอาร์ซีรวมอยู่ที่ 10% ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากการเติบโตที่มาจากการซื้อธุรกิจด้วยประมาณ 4% เพราะเชื่อวาตอน้มีของดีและราคาสมเหตุสมผล แต่ไม่ใช่ว่าทุกดครงการมีปัญหาแล้วมาขาย เพราะก็มีทั้งผู้อยากจะขายเหมือนกัน ซึ่งเราทำงานประสานกับแบงก์ที่เขามีข้อมูลตรงนี้ ” นายทศกล่าว

นายทศกล่าวว่า การดำเนินงานแบบนี้ ซีอาร์ซีทำมาก่อนแล้ว แต่ยังไม่ได้เป็นหน่วยงานที่ชัดเจนเป็นรูปเป็นร่าง ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการลงทุนไปมากเช่น การซื้อหุ้นท็อปส์คืนจากรอยัลเอโฮลด์ การซื้อหุ้นในบริษัทเพจวันที่สิงคโปร์ทำให้ซีอาร์ซีเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 40% แต่ไม่ได้บริหาร และปีที่แล้ว ออฟฟิศดีโป้เข้าซื้อหุ้นในบริษัทแม็คโครออฟฟิศเซ็นเตอร์ และบริหารเอง ทำให้ออฟฟิศดีโป้ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือมีการเติบโตมากถึง 87%

สำหรับแผนการลงทุนปีนี้คาดว่าจะใช้งบประมาณรวม 9,200 ล้านบาท คาดหวังยอดขายรวมประมาณ 93,920 ล้านบาท เติบโต 10% และจะมีการเปิดสาขาใหม่ทุกหน่วยธุรกิจรวมกันอีกอย่างต่ำ 64 สาขา รวมสิ้นปีนี้จะเป็น 442 สาขา จะทำให้มีพื้นที่ค้าปลีกรวม 1,481,255 ตารางเมตร ซึ่งเป็นการเพิ่มจำนวนสาขามากถึง 8.4% ถือเป็นการลงทุนที่สูงและเปิดสาขามากที่สุดปีหนึ่งของซีอาร์ซี

ขณะที่ปีที่แล้วใช้งบประมาณลงทุนรวม 4,100 ล้านบาท มีรายได้รวม 85,380 ล้านบาท เติบโต 5.73% มีสาขารวมถึงสิ้นปี 378 สาขา มีพื้นที่รวม 1,365,866 ตารางเมตร เพิ่มขึ้น 6.3% ซึ่งถือเป็นปีที่มีผลประกอบการค่อนข้างดี

โดยการลงทุนในปี 2552 หลักๆคือ การเปิดสาขาใหม่ๆ 5,000 ล้านบาท เช่น คอมมูนิตี้มอลล์ที่ถนนราชพฤกษ์จะมีทั้งท็อปส์และโฮมเวิร์ครวมกัน, การลงทุนเปิดโรบินสันที่ชลบุรี เป็นต้น การรีโนเวทอีก 1,300 ล้านบาท เช่น ลาดพร้าว ปิ่นเกล้า บางนา เซ็นทรัลภูเก็ต โรบินสันศรีราชา โรบินสันหาดใหญ่ , งบหน่วยเทคโอเวอร์ 3,000 ล้านบาท , งบไอที 600 ล้านบาท, งบ 530 ล้านบาท สำหรับโรบินสันซื้อหุ้นคืน และ งบ 40 ล้านบาท สำหรับการลงทุนสร้างดีซีแห่งใหม่ที่ถนนบางนา-ตราด เฟสแรกพื้นที่ 12,000 ตารางเมตรเปิดตุลาคมปีนี้ และ เฟสที่สอง เปิดปีหน้า จะช่วยให้เดิมมี 5 ดีซี ลดเหลือ 2 ดีซีใหม่ ลดค่าใช้จ่ายลง 10%

ส่วนสาขาในต่างประเทศนั้น คือ โครงการห้างเซ็นทรัลที่ร่วมกับทางกลุ่มมิกซ์ซี เปิดสาขาแรก ที่หางโจว ลงทุน 700 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดเดือนมีนาคมปี 2553 และสาขาที่สองเพิ่งเซ็นสัญญาคือ ที่เสิ่นหยาง ลงทุน 700 ล้านบาท อยู่ในโครงการขนาดใหญ่ของกลุ่มมิกซ์ซีเช่นกัน พื้นที่ทั้งหมดรวม 6 แสนตารางเมตร โดยห้างเซ็นทรัลมีพื้นที่ 27,000 ตารางเมตร เปิดต้นปี 2554

นายทศกล่าวด้วยว่า ปีนี้จะทำซีอาร์เอ็มเต็มที่ โดยใช้ฐานบัตร เดอะวันการ์ดและบัตรสปอตรีวอร์ด เป็นกลยุทธสำคัญ ซึ่งขณะนี้ เดอะวันการ์ดมีสมาชิกกว่า 2 ล้านราย มีการใช้จ่ายผ่านบัตรประมาณ 75% ส่วนสปอตรีวอร์ดมีสมาชิก 4 ล้านราย ใช้จ่ายผ่านบัตร 82% หลังจากที่ 2 ปีที่ผ่านมาทำการเก็บข้อมูลลุกค้าไว้ได้เรียบร้อยแล้วเพื่อที่จะได้ทำการตลาดตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น โดยที่จะโยกงบประมาณด้านการตลาดประมาณ 5-20% จากการทำตลาดแบบแมสมาร์เก็ตติ้งมาทำไดเร็คมาร์เก็ตติ้ง   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us