สร้างองค์กรที่มีความคิดสร้างสรรค์
Jeff Mauzy และ Richard Harriman สองผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมทางธุรกิจจะแสดงให้คุณเห็นว่า
องค์กรจะสามารถแปรความคิดสร้างสรรค์จากที่เป็นเพียงความคิดให้กลายเป็นรูปธรรม
และนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างไร โดยผู้ประพันธ์แนะวิธีเปลี่ยนบรรยากาศภายในองค์กร
รวมถึงโครงสร้างและกระบวนการทำงานขององค์กร และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ภาวะผู้นำ
เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดสร้างสรรค์อย่างเป็นระบบ ลงในตัวของพนักงาน
ทีมงานไปจนถึงองค์กรโดยรวม กล่าวคือทำให้ทั่วทั้งองค์กรมีความสามารถในการคิดสร้างสรรค์
และนั่นก็จะเป็นแหล่งป้อนนวัตกรรมชั้นดีให้แก่องค์กรอย่างไม่ขาดสาย
ผู้ประพันธ์ชี้ถึงประโยชน์ของความคิดสร้างสรรค์ว่า ปรากฏตัวได้ในหลายรูปแบบ
ไม่เฉพาะแต่ที่เป็นประโยชน์ในด้านตัวเงินเท่านั้น แต่อาจปรากฏในรูปความพึงพอใจที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งของพนักงานและของลูกค้า
หรือปรากฏผลเป็นการเจริญเติบโตขึ้นของบริษัท การได้รับประโยชน์ทางการตลาดมากขึ้น
การมีความพร้อมรับมือการแข่งขันได้ดีขึ้น และการสามารถดึงดูดคนเก่งๆ ให้เข้ามาอยู่ในองค์กร
ต่อไปนี้คือตัวอย่างของบริษัทที่ได้ประจักษ์ถึงพลังของความคิดสร้างสรรค์และการริเริ่มนวัตกรรม
- ฟริโตเลย์ บริษัทขนมขบเคี้ยวชื่อดังสามารถลดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า 100
ล้านดอลลาร์ อันเป็นผลจากการฝึกอบรมเรื่องความคิดสร้างสรรค์ให้แก่พนักงาน
- APL/NOL บริษัทขนส่งทางทะเลรายใหญ่ สามารถลดและเลี่ยงค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้
และปรับปรุงการจัดการสินทรัพย์ คิดเป็นมูลค่ารวม 46.6 ล้านดอลลาร์ ตั้งแต่เริ่มนำโปรแกรมการเปลี่ยนแปลงด้วยความคิดสร้างสรรค์มาใช้
- 3M ซึ่งเป็นบริษัทที่รุกตลาดด้วยนวัตกรรมอย่างจริงจังมาโดยตลอด สามารถสร้างรายได้มากกว่า
4 พันล้านดอลลาร์ต่อปีตลอด 4 ปีหลังนี้ จากผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่คิดค้นขึ้น
คิดอย่างไรจึงสร้างสรรค์
ผู้ประพันธ์ชี้ให้เห็นพลังต่างๆ ที่เป็นรากฐานของการคิดอย่างสร้างสรรค์อันได้แก่
แรงจูงใจ ความอยากรู้อยากเห็นการจัดการความกลัว การสร้างและยุติความเชื่อมโยง
และการประเมินผล จากนั้นอธิบายว่า ความคิดสร้างสรรค์ทำงานอย่างไร มีอุปสรรรคอะไรบ้าง
และบุคคลจะสามารถผลักดันความคิดสร้างสรรค์ของตนให้เป็นประโยชน์ในระดับองค์กรได้อย่างไร
ตลอดจนองค์กรจะสามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากการมีพนักงานที่หลากหลาย วิธีคิดที่หลากหลาย
และผู้นำที่หลากหลายได้อย่างไร
บรรยากาศที่เอื้อต่อความคิดสร้างสรรค์
ผู้ประพันธ์ระบุว่า คนและบริษัทจะได้รับประโยชน์จากความคิดสร้างสรรค์มากน้อยแค่ไหน
ขึ้นอยู่กับบริษัทสร้างบรรยากาศที่ช่วยหล่อเลี้ยงพลังต่างๆ ที่เป็นรากฐานของกระบวนการเกิดความคิดสร้างสรรค์มากน้อยแค่ไหน
บริษัทจะสามารถสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อกระบวนการเกิดความคิดสร้างสรรค์ได้
ด้วยการผ่อนคลายความเข้มงวดของโมเดลการบริหารแบบสั่งการและควบคุมลง และให้พนักงานมีอำนาจในการควบคุมตนเองมากขึ้นแทนที่จะต้องคอยทำตามคำสั่งแต่เพียงอย่างเดียว
ด้วยวิธีนี้จะกระตุ้นให้พนักงานพยายามคิดสร้างสรรค์และคิดค้นสิ่งใหม่ๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของบริษัท
นอกจากให้อิสระมากขึ้นแล้ว บริษัทยังต้องสนับสนุนพนักงานที่มีและแสดงทักษะการประกอบการออกมาให้เห็น
ด้วยทรัพยากรที่เหมาะสม ได้แก่ การกำหนดเป้าหมาย การติชม การฝึกอบรม และทรัพยากรทางกายภาพอื่นๆ
ที่จะช่วยให้พนักงานสามารถเพิ่มผลผลิตได้
สุดท้าย ผู้ประพันธ์แนะนำองค์กรถึงวิธีนำความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์จริง
วิธีวางรากฐานการแปรความคิดเป็นนวัตกรรมด้วยวิสัยทัศน์ที่ยาวไกล ตลอดจนวิธีรักษาความคิดสร้างสรรค์ให้คงอยู่กับองค์กรตลอดไปด้วยการทำให้เป็นระบบ
การจะทำเช่นนี้ได้องค์กรจะต้องมีการวางแผนล่วงหน้า บันทึกผลที่ได้ คาดการณ์อุปสรรค
และกระตุ้นให้เกิดการไหลเวียนของข้อมูลข่าวสาร