|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เอเชียน อินซูเลเตอร์ คาดปีนี้ฟันรายได้ 3 พันล้าน จากการเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันพืชจาก 60 % เป็น 90 % คาดกำไรสุทธิสูงจากปีก่อน เชื่อท่าเรือและคลังน้ำมันใหม่ที่ก่อสร้างและให้บริการกลางปีนี้จะหนุนรายได้เพิ่ม เผยยื่นประมูลงาน 7 โครงการ มูลค่า 1.5 พันล. คาดได้งาน 25%
นายธนิตย์ ธารีรัตนาวิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน อินซูเลเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ AI เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 52 ไว้ที่ 3,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 51 ที่ทำได้ 2,400 ล้านบาท จากการเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันพืชจากเดิมผลิตอยู่ที่ประมาณ 60% เพิ่งเป็น 85-90% โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม และคาดการณ์กำไรสุทธิ(Net Profit Margin) เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ทำได้ 164 ล้านบาท เนื่องจากปี 51 บริษัทขาดทุนจากสต๊อกสินค้า คาดการณ์มาร์จิ้นรวมปีนี้ 75-80% ต่ำกว่าปีก่อนที่ทำได้ 90-95% จากกำลังการผลิตที่ลดลงและชะลอรับรู้งานในส่วนอื่น ๆ
ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ในปี 52 ที่คาดการณ์ไว้จะมาจากน้ำมันพืชและไบโอดีเซล 50% ส่วนอีก 35-40% จากผลิตภัณฑ์ลูกถ้วยไฟฟ้าและวิศวกรรม และที่เหลือ 15% มาจากโลจิสติกส์ ขณะที่คลังน้ำมันที่เพิ่งมีการก่อสร้างขึ้นมาเมื่อปีที่แล้วในจังหวัดชุมพรและสมุทรสาคร มูลค่า 540 ล้านบาท คาดแล้วเสร็จหลังเมษายนและสามารถเปิดให้บริการได้เดือนพฤษภาคมนี้
นอกจากนี้ การก่อสร้างท่าเรือและคลังน้ำมันดังกล่าว จะส่งผลให้บริษัทมีคลังน้ำมันปาล์มและปิโตรเลียมใช้ได้เต็มกำลังทั้งการให้บริการแก่ลูกค้าและนำมาใช้ภายในธุรกิจของบริษัท คาดสร้างรายได้ให้กับบริษัทตั้งแต่ประมาณกลางปีเป็นต้นไป ปัจจุบัน บริษัทมีคลังน้ำมันอยู่ที่จังหวัดชุมพร 10 ใบ บรรจุได้ใบละ 2 ล้านลิตร และที่จังหวัดสมุทรสาคร 8 ใบ บรรจุได้ใบละ 2 ล้านลิตร
สำหรับการส่งออกน้ำมันพืชนั้นช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมาไม่มีการส่งออก เนื่องจากรัฐเข้ามาแทรกแซงราคาส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบไทยปรับตัวสูงขึ้นและมีราคาส่วนต่างอยู่ที่ 8 บาทต่อลิตร เมื่อเทียบกับประเทศมาเลเซีย ส่งผลให้ลูกค้าหนีไปซื้อกับประเทศดังกล่าว แต่ขณะนี้ราคาส่วนต่างปรับลดลงมาอยู่ที่ 1 บาทต่อลิตร คาดว่าการส่งออกจะฟื้นตัวกลับมาอีกครั้ง ปัจจุบันบริษัทส่งออก 30%
" สำหรับธุรกิจลูกถ้วยไฟฟ้าก็ประสบกับปัญหาสภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่ดีที่รัฐมีการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้ามา แต่จะส่งผลประมาณปลายปีนี้ ตัวอย่างธุรกิจลูกถ้วยตั้งแต่ต้นปีถึงไตรมาส3 ลดลง 15% จากปีที่แล้ว เราคาดว่าจะดีขึ้นปลายไตรมาส4 ถึงต้นปีหน้า จากงานต่างๆของภาครัฐที่จะออกมาในไตรมาส 4 เลยทำให้เรามองยอดรายได้รวมของลูกถ้วยไฟฟ้าเบื้องต้นว่าน่าจะลดลง 15%ในปีนี้" นายธนิตย์
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจทางด้านวิศวกรรมปีนี้จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ทำไว้ 198 ล้านบาท เพราะโครงการต่างๆเสร็จสิ้นและยังไม่มีโครงการใหม่ที่โรงไฟฟ้าส่งงานเข้ามาให้กับบริษัท ซึ่งเข้ามาช่วงเดือนมกราคมปี 52 และทำการก่อสร้างตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ มูลค่างาน 650 ล้านบาท คาดสามารถรับรู้รายได้ 70% ในปี 52 มูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท และอีก 30% ในปี 53 ปัจจุบันบริษัทยื่นประมูล 7 โครงการ มูลค่าทั้งหมด 1,500 ล้านบาท อีก 2-3 เดือนข้างหน้า โดยคาดว่าจะมีโอกาสได้งานประมาณ 25% และโครงการก่อสร้างช่วงปี 52-53
|
|
|
|
|