|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เมืองไทยประกันภัยโชว์ผลกำไรสุทธิ 56.7 ล้านบาทหดตัวกว่า 120 ล้านบาท รับอานิสงส์ตลาดหุ้นไทยผันผวนขาดทุนไปกว่า 77 ล้านบาท และขาดทุนทางบัญชี 120 ล้านบาท ขณะที่เบี้ยรับยังเติบโตด้วยดีกว่า 4 พันล้านบาท พร้อมขยายตลาดเฉพาะกลุ่มเพิ่มสัดส่วนรายได้ดันส่วนแบ่งการตลาดสู่อันดับ ที่ 5
นางกฤตยา ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด(มหาชน)MTI เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2551 มีเบี้ยประกันภัยรับตรงทั้งสิ้น 4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 18.9% ในส่วนเบี้ยประกันภัยรวมทั้งสิ้น 4.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 502.5 ล้านบาท โดยมีกำไรจากการรับประกันภัย 1,079.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 197.96 ล้านบาท กำไรสุทธิ 56.79 ล้านบาท ลดลง 250.57 ล้านบาท โดยมีสาเหตุจากการปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล และค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการควบกิจการ รวมถึงผลกระทบจากภาวะผันผวนและการปรับตัวลดลงของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ โดยมีผลขาดทุนจากการขายหลักทรัพย์ประมาณ 77 ล้านบาท และมีส่วนขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้น ประมาณ 120 ล้านบาท โดย ณ สิ้นปี 2551 บริษัทมีทรัพย์สินลงทุนประมาณ 3.9 พันล้านบาท ลงทุนใน หุ้น 30% ในตราสารหนี้ 42% และเงินฝาก 26%
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2552 บริษัทมีนโยบายให้เป็นปีแห่งการพัฒนากลยุทธ์ทั้งภายในและภายนอกองค์กร ทั้งในเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย การพัฒนาช่องทางการขายอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการปรับปรุงกระบวนการทำงานอย่างมีคุณภาพ เพื่อความมั่นใจและความพึงพอใจของลูกค้า ด้านการขาย บริษัทยังเน้นงานรายย่อยในช่องทางต่างๆ อย่างต่อเนื่องรวมทั้งการขยายพันธมิตรใหม่ๆ ให้ลูกค้าได้รับความสะดวกมากขึ้น
นอกจากนี้บริษัทฯ ได้วางเป้าหมาย ในการเพิ่มศูนย์บริการลูกค้าอย่างน้อย 4 แห่งในปีนี้ เช่น พิษณุโลก นครสวรรค์ รวมทั้งแผนการเพิ่มสำนักงานตัวแทนอีก 25 -30 แห่ง มุ่งเน้นในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งนี้ กลยุทธ์หลักในปีนี้ เป็นการเพิ่มการรักษาฐานลูกค้าเดิมให้สูงขึ้นอีกประมาณ 10% รวมทั้งขยายการขายให้ลูกค้าเดิมมีการถือกรมธรรม์มากกว่า 1 กรมธรรม์
“บริษัทจะมุ่งเน้นขยายงานในรูปแบบ Segment marketing คือ การขายผลิตภัณฑ์ใหม่ตามกลุ่มลูกค้าเฉพาะ ทั้งรายบุคคลและธุรกิจรายย่อย ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ประกันภัยสุขภาพ สำหรับกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการอิสระ ประกันภัย SME comprehensive สำหรับลูกค้า SME รายย่อย ปรับปรุงประกันภัยรถยนต์ประเภท 2 และประเภท 5 ให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจและความต้องการของลูกค้า และประกันภัยทรัพย์สินของสะสม สำหรับลูกค้ากลุ่มที่มีรายได้สูง ซึ่งกรมธรรม์ประเภทนี้ถือว่าเป็นกรมธรรม์ใหม่ที่ยังไม่มีในเมืองไทย เป็นต้น” นางกฤตยากล่าว
ทั้งนี้บริษัทประมาณการว่าจะมีรายได้จากผลิตภัณฑ์ใหม่และพันธมิตรการตลาดใหม่ไม่ต่ำกว่า 5-10% ของเบี้ยประกันภัยภัยรับตรง หรือไม่น้อยกว่า 400 ล้านบาท โดยจะมีสัดส่วนทางการตลาดในอันดับที่ 5 และบริษัทจะมีการเติบโตจากการประกันภัย Non-Motor สูงกว่าการประกันภัยรถยนต์ โดยมีสัดส่วนการประกันภัย อยู่ที่ Non-Motor 55: Motor 45
|
|
|
|
|