|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
แบงก์ไทยพาณิชย์ยังมั่นใจปล่อยสินเชื่อรายใหญ่ได้ตามเป้าหมาย 10,000 ล้านบาท แม้ 2 เดือนแรกสินเชื่อยังคงที่ ระบุธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรยังไปได้ดี ขณะที่ภาคท่องเที่ยว-โรงแรมเริ่มฟื้น ส่วนคุณภาพหนี้ในพอร์ตยังดี แต่เริ่มมีลูกค้าบางรายออกอาการทรุด พร้อมคุมเอ็นพีแอลไม่เกิน 1.5%
นายศิริชัย สมบัติศิริ รองผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ 1 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เปิดเผยว่า การปล่อยสินเชื่อในกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนั้นยังอยู่ในระดับคงที่และไม่ได้หดตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มลูกค้าเดิมที่ขอเบิกใช้วงเงิน ซึ่งการเบิกใช้ดังกล่าวกระจายในทุกกลุ่ม
ส่วนของสินเชื่อใหม่นั้นมีเข้ามาน้อยมาก เนื่องจากในอุตสาหกรรมต่างๆมีการลงทุนในโครงการใหม่น้อยมาก และส่วนใหญ่ที่ลูกค้ามาเบิกใช้วงเงินก็เพื่อทำการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพ โดยขณะนี้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำตาลและสินค้าเกษตรถือว่าอยู่ในฤดูกาลที่มีการเติบโตได้ดี
ทั้งนี้ เป้าหมายการปล่อยสินเชื่อในปีนี้จะไม่เน้นการเติบโตเนื่องจากจะเน้นการดูแลลูกค้าให้ทำธุรกิจได้ราบรื่น โดยเป้าหมายสินเชื่อขนาดใหญ่สุทธิคาดว่าจะอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท จากฐานสินเชื่อขนาดใหญ่ปัจจุบันอยู่ที่ 200,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ธนาคารเชื่อว่าจะสามารถปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมาย แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกการปล่อยสินเชื่อจะยังไม่เติบโตหรืออยู่ในระดับที่คงที่เมื่อเทียบกับปีก่อนแต่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายคาดว่าจะมีการเติบโตมากขึ้น จากการลงทุนของโครงการภาครัฐภาคการเกษตรและจากการเบิกใช้วงเงินของลูกค้าเดิม
นอกจากนี้ กลุ่มเป้าหมายอีกกลุ่มธุรกิจที่ธนาคารจะเน้นคือ ธุรกิจที่เกี่ยวกับภาคการท่องเที่ยว โรงแรม ที่ขณะนี้เริ่มเข้าสู่ภาวะที่ดีขึ้น แม้ว่าในกลุ่มของเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) จะยังไม่สามารถเข้ามาได้ก็ตาม แต่เชื่อว่าในปลายปีนี้ความมั่นใจในภาคการท่องเที่ยวจะกลับมาแน่นอน
นายศิริชัย กล่าวว่า คุณภาพหนี้ในพอร์ตสินเชื่อขนาดใหญ่ของธนาคารปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่ดี แต่ก็เริ่มเห็นลูกค้าบางรายเริ่มติดขัดเพราะมียอดขายที่ลดลง แต่ยังไม่ถึงขั้นที่มีปัญหามากเพราะลูกค้ามีการเตรียมตัวรับมือกับภาวะเศรษฐกิจและผลกระทบต่าง ๆ ได้ดีมาก อีกทั้งทางลูกค้าได้เข้ามาปรึกษากับธนาคารก่อนที่จะผิดนัดชำระ ส่วนธนาคารได้ให้ความช่วยเหลือในแง่ของการยืดหนี้ เป็นต้น โดยลูกค้าที่เข้ามาขอความช่วยเหลือส่วนใหญ่ตอนนี้จะเป็นในกลุ่มของโรงแรม
ทั้งนี้ หากประเมินในระบบแล้วจะเห็นว่า กลุ่มธุรกิจที่คุณภาพหนี้ยังดีอยู่คือในกลุ่มของอาหาร ส่วนอุตสหกรรมหนักและรถยนต์นั้นค่อนข้างชัดเจนว่าเริ่มมีสัญญาณไม่ดี แต่ในส่วนของธนาคารเองพอร์ตสินเชื่อที่เกี่ยวกับรถยนต์นั้นมีน้อยมาก และจะเน้นไปที่รถยนต์ขนาดเล็กและดีลเลอร์มากกว่า จึงทำให้มีการปรับตัวได้เร็วและไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
สำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ยอมรับว่าในปีนี้คงจะมีเพิ่มขึ้นแน่นอน โดยในขณะนี้ยังไม่เห็นการเพิ่มขึ้นดังกล่าว แต่เริ่มมีอาการแล้ว อย่างไรก็ตามธนาคารตั้งเป้าหมายจะควบคุมเอ็นพีแอลสินเชื่อขนาดใหญ่ไว้ที่ไม่เกิน 1.5% จากปัจจุบันอยู่ที่ต่ำกว่า 1.5%
"จากภาวะในปัจจุบันนี้ส่วนของเงินกู้เราคิดว่าคงต้องมีการยืดเวลาให้ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบบ้าง เช่น เคยปล่อยสินเชื่อ 7 ปี ก็อาจจะยืดให้เป็น 8 ปี เป็นต้น และปีนี้เราก็จะเน้นให้ความช่วยเหลือลูกค้าให้เดินหน้าไปได้ แต่ที่เป็นห่วงก็คือ ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้จะมากแค่ไหน เพราะตอนนี้เรายังไม่เห็นถึงจุดสิ้นสุดของปัญหาและเชื่อว่าคงไม่จบง่าย ๆ แน่ ดังนั้นสิ่งที่ทำได้ตอนนี้ก็คือต้องประคองลูกค้าให้อยู่รอดได้"
|
|
|
|
|