Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน6 มีนาคม 2552
บจ.กำไรปี51วูบแสนล้าน             
 


   
www resources

โฮมเพจ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

   
search resources

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ภัทรียา เบญจพลชัย
Stock Exchange




ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 4/51 ทรุดหนักกว่า 180% ขาดทุนสุทธิรวม 1 แสนล้านบาท จากปีก่อนกำไรสุทธิ 8 หมื่นล้านบาท หลังกลุ่มพลังงาน-สาธารณูปโภคเจอวิกฤตจากผลขาดทุนสต็อกน้ำมัน-อัตราแลกเปลี่ยน ขณะที่กำไรสุทธิทั้งปี 3 แสนล้านบาท ลดลงจากปีก่อนกว่า 1 แสนล้าน คิดเป็นอัตราส่วน 25% ระบุมีเพียง 2 กลุ่มอุตสาหกรรม “การเงิน-เกษตร” ที่มีผลงานดีขึ้นจากปีก่อน

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานประจำปี 2551 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) และตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ว่า บริษัทจดทะเบียนจำนวน 532 บริษัท หรือ 97% ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด 546 บริษัท (รวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 21 กองทุน) มีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 313,068 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 109,086 ล้านบาท หรือลดลง 25%

ทั้งนี้ หากไม่รวมผลการดำเนินงานของบริษัทในกลุ่ม NC (Non-Compliance) และ NPG (Non-Performing Group) ในงวดปี 2551 บริษัทจดทะเบียนจะมีกำไรสุทธิเท่ากับ 309,973 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 27% โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีกำไรสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจการเงิน กลุ่มทรัพยากร และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง

สำหรับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) ที่นำส่งงบการเงินประจำปี 2551 จำนวน 481 บริษัท (จากทั้งหมด 495 บริษัท) กำไรสุทธิรวม 310,549 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 25% ขณะที่ยอดขายรวม 7,326,283 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22%

ขณะที่ ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4 ปี 2551 ขาดทุนสุทธิรวม 83,401 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 104,819 ล้านบาท หรือลดลง 180% โดยส่วนใหญ่มาจากผลประกอบการของบริษัทในหมวดพลังงานและสาธารณูปโภคที่ขาดทุนสุทธิ 77% ของขาดทุนสุทธิของบริษัทจดทะเบียนรวม ซึ่งมีสาเหตุมาจากผลขาดทุนของสต็อกน้ำมันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วแล ะขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน

ส่วนสาเหตุหลักที่ทำให้กำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนในปี 2551 ลดลงจากปี 2550 เกิดจากผลขาดทุนจากการดำเนินงานของกลุ่มพลังงานในไตรมาส 4/51 และการอ่อนค่าของเงินบาทส่งผลให้บริษัทจดทะเบียนที่มีภาระหนี้ต่างประเทศขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวนรวมทั้งสิ้น 15,456 ล้านบาท ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศมีแนวโน้มตกต่ำในช่วงปลายปี

อย่างไรก็ตาม แม้กำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนรวมจะลดลง แต่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และเอ็มเอไอ ยังสามารถทำยอดขายสูงถึง 7.3 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 22% ขณะเดียวกันหากพิจารณาด้านอัตราเงินปันผลตอบแทนที่มีบริษัทจดทะเบียน 272 แห่งประกาศจ่ายเงินปันผลงวดปี 2551 พบว่ามีอัตราเงินปันผลตอบแทนสูงถึง 6.65%

สำหรับบริษัทในกลุ่ม SET50 กำไรสุทธิ 260,498 ล้านบาท คิดเป็น 83% ของกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนรวมทั้งหมด ลดลงจากปีก่อน 22% ยอดขายเพิ่มขึ้น 26% ขณะที่ต้นทุนขายเพิ่มขึ้น 32% ส่งผลทำให้กำไรขั้นต้นลดลงเป็น 16% ขณะที่บริษัทในกลุ่ม SET100 กำไรสุทธิ 266,085 ล้านบาท คิดเป็น 85% ของกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด ลดลงจากปีก่อน 30% ยอดขายเพิ่มขึ้น 25% ขณะที่ต้นทุนขายเพิ่มขึ้น 31% ทำให้กำไรขั้นต้นลดลงเป็น 16%

หากแยกพิจารณารายกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเพียง 2 กลุ่มอุตสาหกรรม คือ กลุ่มธุรกิจการเงิน กำไรสุทธิรวม 89,945 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 396% และกลุ่มเกษตรและกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร กำไรสุทธิ 18,079 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67% โดยบริษัทจดทะเบียนมีกำไรสุทธิสูงสุด 5 อันดับแรก คือ บมจ. ปตท. (PTT) บมจ. ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP) บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) บมจ.ธนาคารกรุงเทพ (BBL) และบมจ. ปูนซิเมนต์ไทย (SCC)

ส่วนผลการดำเนินงานปี 2551 ของบริษัทจดทะเบียน 8 กลุ่มอุตสาหกรรม (Industry Group) (ที่นำส่งงบการเงินและไม่รวมบริษัทในกลุ่ม NC และ NPG) รวม 463 บริษัท มีกำไรสุทธิลดลงเกือบทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ยกเว้นกลุ่มธุรกิจการเงิน และกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร โดยกำไรสุทธิรวม 307,454 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 27% ขณะที่มียอดขายเพิ่มขึ้น 22% แต่อัตรากำไรขั้นต้นปรับลดจาก 20% เหลือ 16%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us