|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
แม้จะมีอายุการก่อตั้งมาได้เพียง 2 ปี แต่บทบาทของสภาธุรกิจไทย-ลาวก็ดำเนินไปอย่างมีนัยสำคัญ
"สิบห้าปี ที่ไตเฮา เสียแดนดิน... จงเอ็นดู หมู่ข้าน้อย ที่พลอยพลัดบ้าน... เฮาคนไต ย้ายกันไป ทุกถิ่นทุกฐาน... จงฮักกันเน้อ ไตดำเฮานา..."
เสียงเพลง "ไทดำรำพัน" ที่ร้องโดย "ก.วิเสส" นักร้องชาวลาวและเคยฮิตติดหูคนไทยในช่วง พ.ศ.2512-2514 ถูกนำมาขับกล่อมอีกครั้ง ภายในห้องราชมณเฑียร โรงแรมมณเฑียร กรุงเทพฯ ช่วง ย่ำค่ำของวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ผู้ที่ยืนร้องเพลงนี้อยู่บนเวทีคือ ท่าน อ้วน พมมะจัก เอกอัครรัฐทูตลาวประจำประเทศไทย
หน้าเวทีแถวรำวงคู่ชาย-หญิง ประมาณ 10 คู่ เดินรำเป็นวงกลมไปรอบเวทีตามจังหวะเสียงเพลง
ในแถวดังกล่าวล้วนเป็นผู้รำกิตติมศักดิ์ อาทิ วิบูลย์ คูสกุล เอกอัครราชทูตไทยประจำสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ศักดิ์ชัย วงศ์มาลาสิทธิ์ ประธานสภาธุรกิจไทย-ลาว ไพรัช บูรพชัยศรี เลขาธิการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะรองประธานสภาธุรกิจไทย-ลาว ชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เดดพูวัง มูนรัด ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่ง สปป.ลาว
โดยผู้รำฝ่ายหญิงเป็นนักธุรกิจไทยที่ได้เข้าไปลงทุนใน สปป.ลาว รวมถึงเจ้าหน้าที่หญิงของธนาคารแห่ง สปป.ลาว
บรรยากาศรื่นเริงครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงสันทนาการ หลังเสร็จสิ้นการประชุมนอกรอบของคณะกรรมการสภาธุรกิจไทย-ลาว เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการจัดประชุมใหญ่สมาชิกที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 มีนาคมนี้ ที่ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติ ลาวไอเด็ก นครเวียงจันทน์
สภาธุรกิจไทย-ลาวก่อตั้งขึ้นภายใต้คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) 3 สถาบัน ได้แก่ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2550
อ่านเรื่อง "เชื่อมโยงธุรกิจผ่านสภาธุรกิจไทย-ลาว" นิตยสาร "ผู้จัดการ 360 ํ" ฉบับเดือนสิงหาคม 2551 หรือใน www.gotomanager.com ประกอบ)
ตามระเบียบข้อบังคับของสภาฯ คณะกรรมการชุดแรกที่นำโดยศักดิ์ชัยจะหมดวาระลงในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ ดังนั้นคณะกรรมการสภาฯ จึงต้องมีการคุยกันนอกรอบก่อน เพื่อเตรียมการเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ ในการประชุมใหญ่สมาชิกในวันที่ 14 มีนาคม
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการได้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ศักดิ์ชัยดำรงตำแหน่งประธานสภาฯ ต่อไปอีก 1 วาระ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
แม้จะเพิ่งจัดตั้งขึ้นมาได้เพียง 2 ปี แต่บทบาทของสภาธุรกิจไทย-ลาว ก็มีไม่น้อย
นอกจากการดำรงบทบาทเป็นองค์กรกลางสำหรับการประสานงานด้านการลงทุนของนักลงทุนไทยกับหน่วยงานรัฐของ สปป.ลาว ซึ่งเป็นบทบาทหลักของสภาฯ แล้ว
สภาธุรกิจไทย-ลาวยังมีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้มีการจัดตั้งตลาดหลักทรัพย์แห่ง สปป.ลาว โดยมีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นผู้ให้คำแนะนำ
ที่ผ่านมา ตัวแทนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงบริษัทสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ได้เดินทางไปให้ความรู้ในการเตรียมความพร้อมสำหรับการจัดตั้งตลาดหลักทรัพย์แห่ง สปป.ลาว ยังนครเวียงจันทน์มาแล้ว 2 ครั้ง ในเดือนกันยายน และพฤศจิกายน 2551
ระหว่างวันที่ 10-20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ธนาคารแห่ง สปป.ลาวได้ส่ง ตัวแทนมาเข้ารับการอบรม และดูงานการดำเนินงานของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และบริษัทสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ 2 แห่ง คือ บล.กิมเอ็ง และ บล.ทิสโก้
ซึ่งเป็นช่วงที่ตรงกับการจัดประชุมนอกรอบของคณะกรรมการสภาธุรกิจไทย-ลาว พอดี
ตามกำหนดการ สปป.ลาวจะเปิดการซื้อขายหุ้นในตลาด OTC (Over-the-Counter) ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้และตั้งเป้าหมายว่าจะเปิดตลาดหลักทรัพย์แห่ง สปป.ลาวอย่างเป็นทางการได้ในเดือนตุลาคม 2553
เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับการซื้อขายหุ้นทั้งในตลาด OTC และในตลาดหลักทรัพย์ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่นานนี้ ในวันที่ 13 มีนาคม ก่อนการประชุมใหญ่ สมาชิกสภาฯ 1 วัน สภาธุรกิจไทย-ลาว ได้ร่วมมือกับ Price Water House Coopers จัดอบรมในหัวข้อ "Legal, Tax, Accounting and Auditing under Lao Laws" ให้กับนักธุรกิจทั้งไทยและลาว ที่สนใจในนครเวียงจันทน์ด้วยเช่นกัน
ไทยและ สปป.ลาว ถือเป็นประเทศ เพื่อนบ้านที่มีความใกล้ชิดกันอย่างยิ่งทั้งในด้านภาษา วัฒนธรรม วิถีชีวิตของประชาชน
พรมแดนระหว่างไทยและลาวยาวถึง 1,810 กิโลเมตร เป็นพรมแดนประเทศเพื่อนบ้านของไทยที่ยาวเป็นลำดับ 2 รองจากสหภาพเมียนมาร์
แต่ในอดีตที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับลาว กลับไม่ค่อยราบรื่นเท่าที่ควร ด้วยเหตุผลที่นักธุรกิจไทยมักไม่ค่อยมีความจริงใจในการทำธุรกิจกับ สปป.ลาว
หลายคนมีทัศนคติที่ผิดๆ ต่อคนลาว มองว่าลาวเป็นประเทศที่ด้อยกว่าหรือมองด้วยความเข้าใจแบบผิวเผินว่าไทยกับลาวเป็นพี่น้องกัน เพราะฉะนั้นจึงทำอะไรแบบมักง่าย
ขณะที่ สปป.ลาวกำลังเปิดประเทศ ต้อนรับการลงทุนจากต่างชาติ ประเทศที่ได้โอกาสดีๆ จากการเปิดประเทศของ สปป.ลาว ส่วนใหญ่กลับกลายเป็นจีนกับเวียดนาม
โชคดีที่ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นักธุรกิจ ไทยเริ่มมีทัศนคติที่ถูกต้องขึ้น รู้จักขั้นตอน วิธีการ ธรรมเนียมปฏิบัติในการเข้าไปลงทุนทำธุรกิจใน สปป.ลาวดียิ่งขึ้น
การเกิดขึ้นของสภาธุรกิจไทย-ลาว เมื่อ 2 ปีก่อน จึงถือเป็นอีกความพยายามหนึ่งของนักธุรกิจไทย ที่ต้องการปิดช่องว่างในความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและลาว และเพิ่มช่องทางในการแสวงหาโอกาสจากการเปิดประเทศรับการลงทุนจากต่างชาติของ สปป.ลาว ที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง
|
|
|
|
|