|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
การโหมก่อสร้างโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ริมแม่น้ำโขงฝั่ง สปป.ลาวแห่งนี้ นอกจากจะบ่งชี้ให้เห็นทิศทางการค้า-การลงทุนบนแผ่นดินสามเหลี่ยมทองคำก็ตาม แต่ก็ก่อให้เกิดปัญหาที่อาจกระทบความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ลาว ได้เช่นกัน
เพราะตลอดระยะเวลาที่มีการก่อสร้างโครงการนี้ได้มีการขุดเจาะนำทรายในแม่น้ำโขงขึ้นไปใช้ในการก่อสร้างอย่างมหาศาล ทั้งบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ จุดที่มีการสร้างท่าเรือ และบริเวณตรงกันข้ามที่ทำการของหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย และหน้าที่ว่าการ อ.เชียงแสน
อภิสิทธิ์ คำภิโล หัวหน้าสำนักงานขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี (ขน.) จ.เชียงราย ระบุว่าโครงการนี้มีการใช้ทรายในแม่น้ำโขงจำนวนมหาศาล ซึ่ง ขน.เกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อร่องน้ำลึกในแม่น้ำโขง โดยอาจถึงขั้นทำให้ท่าเรือน้ำลึกของไทยที่ อ.เชียงแสน เกิดภาวะตื้นเขินไม่สามารถใช้งานได้จนต้องเสียงบประมาณในการขุดลอกกันใหม่
ซึ่งร่องน้ำลึกถ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงก็จะทำให้เขตแดนไทยเปลี่ยนไปด้วย เพราะร่องน้ำลึกเป็นส่วนหนึ่งที่ใช้ในการพิจารณาเรื่องการปักปันเขตแดน อีกทั้งในฤดูน้ำหลากก็จะทำให้แม่น้ำเปลี่ยนทิศทางเข้ากัดเซาะตลิ่งฝั่งไทยในจุดที่เลยเขตเทศบาล ต.เวียงเชียงแสน ลงไปที่ไม่มีการสร้างเป็นพนังหรือเขื่อนกั้นน้ำเหมือนในเขตเทศบาลด้วย
ด้วยปัญหาดังกล่าว ขน.เชียงรายได้ทำหนังสือ 3 ฉบับถึงสำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จ.เชียงราย ในฐานะเป็นเลขานุการคณะกรรมการเกี่ยวกับการดูดทรายในแม่น้ำโขง เพื่อให้มีการจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบว่า การขุดทรายในแม่น้ำโขงของทาง สปป.ลาว ว่าจะส่งผลกระทบมากน้อยเพียงใด
ฉบับที่ 2 ส่งไปถึงกรมขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี เพื่อพิจารณาว่าการขุดทรายครั้งนี้เป็นไปตามข้อตกลงว่า ในการเดินเรือในแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง 4 ชาติคือ ไทย สปป.ลาว พม่า และจีนตอนใต้ หรือไม่
ซึ่งก็ผลักดันให้ทางคณะกรรมการประสานการดำเนินการตามความตกลงว่าด้วยการเดินเรือพาณิชย์ในแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง (JCCCN: The Joint on Coordination of Commercial Navigation on the Lancang-Mekong River among China, Laos, Myanmar and Thailand) ลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
และฉบับที่ 3 ส่งถึง ไตรสิทธิ์ สินสมบูรณ์ทอง ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ในฐานะประธานคณะกรรมการด้านต่างๆ ที่เกี่ยวกับความมั่นคงตามแนวชายแดนได้พิจารณาต่อไป
|
|
|
|
|