สำหรับคนที่เป็นลูกหนี้ อาจมีเพียงไม่กี่รายที่จะทำได้อย่างเย็บ ซู ชวน
เพราะเมื่อเขาต้องการเงินทุน เขาต้องใช้เครื่องมือวัดความเสี่ยงมาช่วยตัดสินใจว่า
จะกู้จากใครดี
การขอเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์ทุกวันนี้ บางครั้งยังเป็นเรื่องที่ทำได้ยากลำบากยิ่ง
เพราะแม้ธนาคารทุกแห่งจะมีสภาพคล่องล้น แต่ภาพความเสียหายเมื่อครั้งในอดีตยังตามหลอกหลอน
ทำให้การพิจารณาปล่อยกู้แต่ละรายถูกกระทำอย่าง เข้มงวด
ทุกธนาคารในขณะนี้ ได้นำวิธีการให้คะแนน (credit scoring) มาใช้ในการวิเคราะห์โครงการ
หากคะแนนไม่ถึงก็หมดสิทธิ์ แต่หากคะแนนถึงเกณฑ์สามารถ ปล่อยกู้ได้ ก็ปล่อยให้
และหากคะแนนยิ่งดี เงินกู้ที่ได้ไปดอกเบี้ยก็ยิ่งจะถูกลง
แต่สำหรับเย็บ ซู ชวน ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทอาปิโก
ไฮเทคแล้วกระบวนการที่เขาได้มาซึ่งเงินกู้จำนวน 2.05 พันล้านบาท เพื่อให้บริษัทนำไปใช้ในการซื้อหุ้นทั้งหมดในบริษัทแพริช
สตรัคเชอรัล โปรดัคส์ (ประเทศไทย) : PSPT จากบริษัทดาน่า คอร์ปอเรชั่น สหรัฐอเมริกา
เมื่อปลายเดือน มิถุนายนนั้น เขากลับทำในกระบวนการที่ตรงข้ามกับที่กล่าวมาข้างต้น
"โครงการนี้เป็นโครงการที่ดี เพราะฉะนั้นจึงมีหลายแบงก์ที่เสนอตัวอยากจะปล่อยกู้ให้"
เย็บบอกอย่างภูมิใจกับ "ผู้จัดการ"
แม้มิได้ระบุชื่อเหล่านั้น แต่เขาก็ยืนยันว่าก่อนตัดสินใจว่าจะเลือกใช้บริการของธนาคารใด
เขาได้ไปคุยกับผู้บริหารของทุกธนาคารที่เสนอตัวมาเกี่ยวกับโครงการนี้ เพื่อดูรายละเอียดเงื่อนไขการปล่อยกู้
รวมถึงศึกษาข้อมูลของธนาคารผู้ปล่อยกู้
เขาใช้วิธีการให้คะแนนจากรายละเอียดต่างๆ ของธนาคารทุกแห่งที่เขาได้รับ
"เราตั้งไว้เลยว่าอัตราดอกเบี้ยจะให้กี่คะแนน บริการกี่คะแนน ความยุ่งยาก
และเงื่อนไขของสัญญากู้กี่คะแนน รวมถึงความมั่นคงของธนาคาร และแนวทางการช่วยเหลือลูกค้าก็ถูกตีเป็นคะแนนหมด"
ในที่สุดเขาก็เลือกใช้บริการของธนาคารดีบีเอส ไทยทนุ ซึ่งได้เป็นแกนนำร่วมกับธนาคารธนชาตเป็นผู้ปล่อยกู้ให้
"เราไม่ได้ดูที่อัตราดอกเบี้ยเป็นหลัก มีบางธนาคารที่เสนออัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า
ไทยทนุ แต่เราดูแล้วคะแนนทางด้านอื่นของเขาไม่ถึง"
อีกสาเหตุหนึ่งที่เขาเลือกใช้ดีบีเอส ไทยทนุ เพราะเป็นธนาคารที่เขาได้ใช้บริการ
มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่เริ่มเข้ามาทำธุรกิจรถยนต์ในประเทศไทยเมื่อ 20 กว่าปีก่อน
ซึ่งเงื่อนไขอันนี้ ถือเป็นเงื่อนไขที่ช่วยในการ ตัดสินใจขั้นสุดท้าย เพราะเมื่อรวมคะแนน
กันออกมาแล้ว ดีบีเอส ไทยทนุมีคะแนนใกล้เคียงกับธนาคารอีก 2-3 แห่ง
กรณีของอาปิโกอาจเกิดขึ้นไม่บ่อย นัก แต่ก็มีโอกาสเกิดได้กับอีกหลายโครงการ
หากเจ้าของมั่นใจว่าเป็นโครงการที่ดีจริงๆ
เพราะในยุคที่เงินล้นแบงก์ แต่โครงการดีๆ กลับหายากเช่นนี้ ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งคงต้องทำใจยอมรับได้แล้วว่า
ตนเองมิใช่เป็นผู้เลือกแต่เพียงฝ่ายเดียว อีกต่อไป
คนกู้เขาก็มีโอกาสได้เลือกด้วยเช่นกัน