ภายในเรือนรับรองสีขาวนวลเป็นพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการภาพเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของสายการบินบริติช แอร์เวย์ และเครื่องแบบแอร์โฮสเตสในยุคต่างๆ ซึ่งส่งตรงมาจากพิพิธภัณฑ์สายการบินบริติช แอร์เวย์

"ผมมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นเจ้าภาพต้อนรับทุกท่าน ณ บ้านพักของผม เพื่อร่วมเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 75 ปี ของกิจการสายการบินบริติช แอร์เวย์ในประเทศไทย ผมรู้สึกประทับใจมากเมื่อได้ทราบประวัติการบินระหว่างอังกฤษและไทยและเห็นความก้าวหน้าของการบินในวันนี้ เที่ยวบินแรกของบริติช แอร์เวย์มายังประเทศไทยนั้นใช้เวลาถึง 8 วัน แต่ปัจจุบันนี้ใช้เวลาเพียง 12 ชั่วโมง ข้อมูลนี้แสดงให้เห็นความเจริญก้าวหน้าของบริติช แอร์เวย์ ซึ่งได้ทำงานร่วมกับประเทศไทยเป็นอย่างดีมาโดยตลอด"

คำกล่าวต้อนรับพากย์ภาษาไทยสำเนียงอังกฤษ โดย มร.ควินตัน เควลย์ เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย

ยามปกติ บ้านพักเอกอัครราชทูตย่อมไม่ใช่สถานที่ที่จะเข้าไปง่ายๆ แต่ มร.เควลย์ยอมเปิดประตูบ้านต้อนรับแขกเหรื่อและสื่อมวลชน คงเพื่อช่วยโปรโมตกิจการสายการบินของประเทศแม่ โดยเฉพาะในยามเกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลกเช่นนี้

"อุตสาหกรรมการบินในวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป แต่เราก็พร้อมที่จะเผชิญ" มร.เควิน แมคควิลิน กล่าวในฐานะผู้จัดการประจำประเทศไทย กัมพูชา และเวียดนาม สายการบินบริติช แอร์เวย์ และแควนตัส

ไม่ต่างจากสายการบินอื่น นอกจากปัญหาเศรษฐกิจที่ทำให้คนเดินทางน้อยลง บริติช แอร์เวย์ยังประสบปัญหาต้นทุนราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น 2 พันล้านปอนด์หรือราว 1.4 แสนล้านบาท ถือเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงสุดในรอบ 10 ปี เป็นเหตุให้สายการบินแห่งนี้ต้องงัดกลยุทธ์เท่าที่ทำได้ เพื่อพยุงกิจการให้ผ่านพ้นมรสุมที่ถาโถมเข้าใส่อุตสาหกรรมการบินมาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว

นับตั้งแต่ยุทธศาสตร์ด้านราคา ทั้งโปรโมชั่น "จองก่อนถูก กว่า" ซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักของสายการบินต้นทุนต่ำ โปรโมชั่นลดราคา ซึ่ง มร.แมคควิลินบอกว่า ในบางเส้นทางและบางคลาสมีการลดราคาลงต่ำสุดเท่าที่เคยทำมาในรอบ 6 ปีของบริติช แอร์เวย์ และโปรโมชั่นราคาพิเศษที่เลือกทำกับลูกค้าบางกลุ่มในบางช่วงเวลา (right time, right person) เช่น ช่วงปิดเทอมก็จับกลุ่มนักเรียนซัมเมอร์ เป็นต้น

ในส่วนยุทธศาสตร์ด้านบริการ บริติช แอร์เวย์ทุ่มงบกว่า 6.5 พันล้านบาท เพื่อปรับปรุงห้องโดยสารของชั้นธุรกิจให้มีความสบาย ความสะดวก และความเป็นส่วนตัวมากขึ้นและยังลงทุนเพิ่ม ในการตกแต่งห้องโดยสารของชั้นเฟิร์สคลาสใหม่อีกด้วย

เร็ววันนี้ บริติช แอร์เวย์ กำลังจะเปิดบริการเช็กอินผ่านโทรศัพท์มือถือในเมืองไทย หลังจากที่เป็นสายการบินแรกที่เปิดให้บริการนี้ในลอนดอน อีกทั้งยังเป็นรายแรกที่ให้บริการออนไลน์เช็กอินเมื่อกว่า 3 ปีก่อน และออนไลน์บอร์ดดิ้งพาสเมื่อปีที่แล้ว

"หัวใจสำคัญที่สุดที่จะทำให้ผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปได้ คือการพัฒนาบริการ" มร.แคลควินินยืนยันแต่คงไม่หนักแน่นเท่ากับ สิ่งที่บริติช แอร์เวย์ได้ทำไปแล้ว

ทว่าก็ยังไม่อาจเทียบได้กับความมั่นใจของท่านเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ที่กล่าวทิ้งท้ายว่า... "บริติช แอร์เวย์ ในอีก 75 ปีข้างหน้าก็จะประสบความสำเร็จด้วยเช่นเดียวกัน"