Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา มีนาคม 2552
ฝ่ามรสุม             
 


   
www resources

โฮมเพจ บลจ. เอ็มเอฟซี

   
search resources

เอ็มเอฟซี, บลจ.
Funds




ภาพรวมธุรกิจของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนภายในประเทศไทยในปีที่ผ่านมาลดลงเพราะเกิดจากสภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก แม้แต่ บลจ.เอ็มเอฟซีก็บริหารมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ลดลงเช่นกัน

แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจโดยรวมทั่วโลกและในไทยยังไม่สามารถคาดเดาได้อย่างแน่นอนว่า เศรษฐกิจจะถึงต่ำสุดเมื่อไหร่ แต่ดูเหมือนว่า บลจ.เอ็มเอฟซีกลับตั้งเป้าหมายไว้ว่าปีนี้บริษัทจะต้องมีรายได้ 670 ล้านบาท มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 260,000 ล้านบาท

เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา บริษัทมีมูลค่าทรัพย์สินลดลงจาก 218,857.20 ล้านบาทปี 2550 เป็น 216,474.37 ล้านบาทในปี 2551

สิ่งที่ฉุดให้ธุรกิจของบริษัทบริหารมูลค่าทรัพย์สินสุทธิลดลง คือส่วนกองทุนรวมภายใต้การจัดการที่ลดลงร้อยละ 7.4 เหลือ 135,309 ล้านบาทในปี 2551 จากปี 2550 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 146,155 ล้านบาท

แต่บริการที่ยังมีการเติบโตมาจากสองส่วน ส่วนแรกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเติบโตร้อยละ 8 ที่ให้บริการจำนวน 41 กองทุน มีบริษัทสมาชิก 170,123 แห่ง มูลค่า 55,930 ล้านบาท จากปี 2550 มีมูลค่า 25,742 ล้านบาท

กองทุนส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.58 มีมูลค่า 25,235 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2550 20,928 ล้านบาท ลูกค้าหลักมาจากการบริหารกองทุนให้กับกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือ กบข.ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 14,000 ล้านบาท จากเดิม 9,000 ล้านบาท

แม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมจะยังคาดเดาลำบากแต่เอ็มเอฟซีก็ยังตั้งเป้าหมายที่จะฝ่ามรสุมภายใต้แนวคิดที่เรียกว่า MFC Beating the Storms

ในปีนี้บริษัทจะต้องเติบโตร้อยละ 20 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ ดร.พิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี บอกว่ายังตั้งคำถามกับ ดร.ศุภกร สุนทรกิจ รองกรรมการผู้จัดการ ว่าจะทำได้อย่างไร

ซึ่ง ดร.ศุภกรค่อนข้างมองโลกในแง่ดีและคาดว่าเศรษฐกิจ โดยรวมในไทย น่าจะดีขึ้นในไตรมาสที่ 3 หรือ 4 เขายังมองอีกว่าดัชนีหุ้นของไทยควรจะอยู่ในระดับที่ 500 จุดภายในสิ้นปีนี้

จากการประเมินเศรษฐกิจโดยรวมที่บริษัทมองว่าจะยังดีอยู่ทำให้ ดร.ศุภกรตั้งเป้าหมายไว้ว่าในปีนี้จะออกกองทุนใหม่อีก 22-27 กองทุน ซึ่งมากกว่าที่ ดร.พิชิตได้บอกไว้ถึง 5 กองทุน

จากเอกสารระบุไว้ว่ากองทุน 22 กองทุน แบ่งออกเป็น กองทุนรวมตราสารทุนและกองทุนผสมแบบยืดหยุ่น 7 กองทุน กองทุนรวมตราสารหนี้ 5 กองทุน กองทุนต่างประเทศ 6 กองทุน และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 4 กองทุน โดยในไตรมาสแรกจะเปิดขายกองทุน 5-6 กองทุน

ซึ่งกองทุนในไตรมาสแรกจะครอบคลุมทั้งกองทุนตราสารหนี้ ตราสารทุน กองทุนรวมต่างประเทศและกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์

วิธีการทำตลาดในปีนี้ บลจ.ปรับเปลี่ยนการทำตลาดจาก เดิมที่เน้นขายผลิตภัณฑ์ จะเริ่มเน้นให้คำปรึกษาทางด้านการลงทุน เช่น เน้นให้ลงทุนในหุ้นกู้ของภาคเอกชนที่ให้ตอบแทนที่ดี ทดแทนการลงทุนพันธบัตรรัฐบาลที่ให้ผลตอบแทนต่ำ

ธุรกิจหลักของเอ็มเอฟซียังเปิดให้บริการกองทุนใหม่ๆ แต่ การพึ่งพิงธุรกิจกองทุนเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้บริษัทดำเนินธุรกิจได้ยาวนาน

บริษัทจึงเริ่มกระจายความเสี่ยง ในปีนี้จะเน้นให้ธุรกิจด้านที่ปรึกษาทางการเงินเพิ่มขึ้น โดยเน้นลูกค้าที่เป็นหน่วยงานภาครัฐ อาทิ โครงการกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน โครงการรถไฟรางคู่ โครงการศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ

และรวมไปถึงโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตครู ทำหน้าที่คล้ายกับที่ปรึกษาหนี้ให้กับครู ซึ่ง บลจ.เอ็มเอฟซีได้เข้าไปให้บริการฟรีตั้งแต่ปี 2551

จากประสบการณ์ของเอ็มเอฟซีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทรู้ว่า การทำธุรกิจไม่ควรเน้นหนักไปที่ธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งเท่านั้น จึงทำให้ในอีก 3 ปีข้างหน้าบริษัทได้กำหนดยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจไว้ว่าครึ่งหนึ่งจะเน้นการลงทุนในประเทศและอีกครึ่งหนึ่งจะออกไปแสวงหาธุรกิจในต่างประเทศ

จึงทำให้ในอีก 3 ปีข้างหน้า หรือปี 2555 มีเป้าหมายบริหาร ทรัพย์สินสุทธิ 450,000 ล้านบาท และยังฝันต่ออีกว่าจะต้องเป็นบริษัทที่ติด 1 ใน 3 ของ บลจ.ในประเทศ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us