บ่ายของวันอังคารที่ 6 สิงหาคม เป็นช่วงเวลาที่ AIS ได้เลือกทำการเปิดตัวสโลแกนใหม่
GSM Advance Evolution ต่อสื่อมวลชน โดยเนรมิตห้องจัดเลี้ยงบนชั้น 28 ของโรงแรมสุดหรูกลางกรุงเป็นสถานที่จัดงานในรูปแบบ
Wireless Party
เป็นก้าวใหม่ของ AIS ที่ต้องการสะท้อนออกมาในรูปแบบของการจัดงาน เริ่มตั้งแต่ให้ผู้สื่อข่าวลงทะเบียนผ่านเครื่อง
Laptop และรับ Fingerprint Thumb Drive เป็นของที่ระลึกก่อนเข้าสู่งาน
ภายในงาน อาหารและเครื่องดื่มทั้งหมดจะถูกสั่งทางหน้าจอ โทรศัพท์มือถือ
ซึ่งเป็นการจำลองบริการที่สามารถนำมาใช้กับร้านอาหารทั่วไปในอนาคตอันใกล้
นอกจากนี้ยังมีการแถลงข่าวจากกฤษณัน งามผาติพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด
ผ่าน Virtual Conference ก่อนที่ตัวจริงเสียงจริงจะปรากฏ
"ตลาดมือถือเปลี่ยนไป ผู้ให้บริการจำเป็นต้องตอบสนองฐานลูกค้าทั้งเก่าและใหม่
เริ่มจากดูว่าลูกค้าต้องการอะไร ที่สามารถ make life more beautiful และมีการนำ
Relationship Marketing มาใช้เพื่อให้เกิด Total Lifetime Value" อาทร เตชะตันติวงศ์
ผู้จัดการฝ่ายการตลาด AIS บอก
AIS พยายามบอกว่า สิ่งที่มาพร้อมกับเปลี่ยนสโลแกนในครั้งนี้ เป็นเรื่องของการให้สิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้ามากขึ้น
โดยสะท้อนทั้งในรูปแบบของการกำหนดอัตราค่าบริการ รูปแบบของ Wireless Service
และรูปแบบของ Relationship Program ทั้งนี้เป็นผลมาจากการสำรวจกลุ่มลูกค้าเดิม
โดยคำนึงวิถีชีวิตและความต้องการของ ลูกค้าเป็นหลัก แล้วจึงเสนอบริการที่สามารถใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน
Innovative Tariff เป็นการคิดค่าบริการแบบใหม่ที่มอบส่วนลดที่มีความหลากหลายมากขึ้น
โดยพิจารณาจากช่วงเวลาที่โทร ระยะเวลาที่โทร และจำนวนปีตั้งแต่เป็นลูกค้า
AIS นับเป็นผู้ให้บริการ รายแรกที่นำจำนวนปีที่เป็นลูกค้ามาคิดเป็นส่วนลด
ลูกค้าที่อยู่มา 1 ปี จะได้ส่วนลด 3% ในปีที่ 2 จะได้ 5% และหลังจากปีที่
3 เป็น ต้นไปจะได้ 7% จากยอดโทรในแต่ละเดือน
Wireless Service ที่ถูกพัฒนาตามวิถีชีวิตที่แตกต่างกันของกลุ่มลูกค้า
Evolution พยายามฉีกตัวเองจากคู่แข่งรายอื่นโดยการนำเสนอบริการที่ล้ำสมัยและสามารถใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน
พัฒนาเป็น Wireless Society เช่น Car Tracking (ระบบติดตามรถหาย), Video
Mail, Remote Control, TV on Mobile, Closed Circuit Camera และ mPAYMENT
ที่สามารถชำระเงินแทนบัตรเครดิตส่วนตัว
Relationship Program เป็นการมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าภายใต้แนวคิด "Exclusive
Reserve" ในรูปแบบการจัดกิจกรรมตาม Lifestyle ของลูกค้า เช่น Exclusive Party,
Digital Coupon, Sport, Trip และ Shopping
เมื่อตลาดมือถือเริ่มเข้าใกล้จุดอิ่มตัว เป้าหมายหลักของ AIS ครั้งนี้ไม่ได้อยู่ที่จำนวนลูกค้าใหม่ที่เพิ่มขึ้น
แต่อยู่ที่ความรู้สึกที่ดีที่ลูกค้าได้รับ เป็นการรักษาฐานลูกค้าเดิมเอาไว้
นับเป็นอีกขั้นที่แสดงให้เห็นว่า การแข่งขันเรื่องราคาไม่สามารถนำมาใช้ได้อีกต่อไป
เพราะ ลูกค้าต้องการมากกว่าราคา