ตลาดหุ้น ไทยรับแรงสนับสนุนจากข่าวดีในต่างประเทศทั้งสหรัฐฯ และญี่ปุ่นที่มีโอกาสเข้าซื้อหุ้นบริษัทจดทะเบียน จนรีบาวนด์ขึ้นเล็กน้อย โบรกเกอร์แนะนำจับตาการป่วนเมืองของกลุ่ม นปช. และภาพรวม ให้ชะลอการลงทุน ด้าน SST แม่ลูกราคาดิ่งวูบจากแรงเทขายหนักตามความหวั่นวิตก การได้พันธมิตร ใหม่แค่ปั้นน้ำเป็นตัว

ภาวะตลาดหุ้นวานนี้ (25ก.พ.) ดัชนีปิดที่ 424.24 จุด เพิ่มขึ้น 2.92 จุด หรือ 0.68% มูลค่าการซื้อขาย 5,921.97 ล้านบาท

โดยพบว่าแรงซื้อในวานนี้มาจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันซึ่งมีแรงซื้อ 1,026 ล้านบาท รวมถึงนักลงทุนต่างประเทศที่มีแรงซื้อ 1,563 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนทั่วไปแม้มีแรงซื้อมากถึง 3,332 ล้านบาท แต่ก็มีแรงขายมากถึง 3,645 ล้านบาท โดยตลาดหุ้นมีลักษณะรีบาวนด์ขึ้นเพียงเล็กน้อย

นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.แอ๊ดคินซัน กล่าวว่า ผล การประชุมปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ กนง. ที่ 0.5% นั้นไม่ได้ส่งผล กับตลาดหุ้นมากนัก เนื่องจากไม่ต่างกับที่มีการคาดการณ์ไว้ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงที่ 0.5%-0.75% อีกทั้งมิใช่หนทางที่จะ ผลักดันให้ตลาดหุ้นเกิดการลงทุน

ส่วนกรณีการปรับตัวของราคาหุ้น บริษัท ทรัพย์ศรีไทยคลังสินค้า จำกัด (มหาชน) (SST) ที่ผันผวนอย่างแรงนั้น ยังไม่สามารถทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่ามีผลเกิดจากปัจจัยใด ซึ่งเบื้องต้นจากการตรวจสอบ Turn Over List ก็มิได้พบสิ่งใดที่เป็นปัจจัยต่อการผันผวน อย่างไรก็ตามจากราคาหุ้นที่วิ่งผิดปกติจึงไม่แนะนำให้นักลงทุนเข้าไปลงทุน จึงต้องระมัดระวังหากคิดที่จะลงทุน

สำหรับภาวการณ์ปรับตัวของดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (26 ก.พ.) คาดว่าจะมีแนวโน้มปรับตัว ขึ้นตามดัชนีดาวโจนส์ ซึ่งดัชนีจะดีดตัวในช่วงแคบๆ ประมาณ 2-3 จุด จากสถานการณ์การเมืองของไทย ที่เกิดการชุมนุมของกลุ่มนปช. การแจ้งผลประกอบของบริษัทต่างๆ และประมาณการซื้อขายที่แคบของกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ ส่งผลให้ตลาดหุ้นซบเซาและขยับตัวในช่วงแคบ

แหล่งข่าวโบรกเกอร์รายหนึ่ง กล่าวถึงหุ้น SST ว่า สาเหตุที่ราคา หุ้นร่วงแรงมากจากความไม่มั่นใจในแผนที่จะมีพันธมิตรใหม่ของบริษัท หลังผู้ถือหุ้นรายใหญ่หลาย รายออกมาปฏิเสธขายหุ้น รวมทั้งเรื่อง ดังกล่าวทางบริษัทยังไม่มีการชี้แจง ไปยังตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงทำให้เกิด การวิตกและมีแรงเทขายออกมา อีกทั้งมีความเป็นไปได้ที่อาจเกิดการ ทุบราคาเมื่อปรับตัวไปสูงมากแล้ว

ด้านนางสาวมยุรี โชวิกรานต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า วานนี้ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยสาเหตุที่ดัชนีดาวโจนส์ในสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้น มาจากกรณีที่ รมว.คลังออกมาปฏิเสธที่จะเข้าไปซื้อหุ้นสถาบันการ เงินที่ไม่ใช่ของรัฐเพิ่ม รวมถึงการเข้าลงทุนเพื่อรอรับเงินปันผลจากผล การดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน ในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นตามไปด้วย

ขณะที่ดัชนีนิกเกอิ ญี่ปุ่นซึ่งปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นนั้น นอกเหนือจากปัจจัยดังกล่าวยังมีข่าวลือว่ารัฐบาลจะเข้าไปซื้อหุ้นบริษัทจดทะเบียนที่ประสบปัญหา ซึ่งในเรื่อง นี้ส่งผลด้านจิตวิทยาต่อนักลงทุนในแง่บวกเป็นอย่างมาก

ส่วนวันนี้ (26ก.พ.) แนะนำให้นักลงทุนจับตาทิศทางนโยบายการแก้ไขเศรษฐกิจของสหรัฐฯว่าจะมีความชัดเจนเพียงใด รวมถึงสถานการณ์การชุมนุมประท้องของ กลุ่ม นปช.ด้วย โดยให้แนวรับที่ 424-430 จุด แนวต้าน 437-444 จุด ภาวะรวมแนะนำ 'ชะลอการลงทุน'

โดยวานนี้ SST ปิดที่ 9.00 บาท ลดลง 3.80 บาท หรือ 26.69% มูลค่าการซื้อขาย 502.798 ล้านบาท ขณะที่ SST-W1 ปิดที่ 2.10 บาท ลดลง 2.20 บาท หรือ 51.16% มูลค่า การซื้อขาย 250.894 ล้านบาท