Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน26 กุมภาพันธ์ 2552
แท็กส์อ้อนทอท.ขอความเป็นธรรม             
 


   
www resources

โฮมเพจ ไทยแอร์พอร์ต กราวนด์ เซอร์วิสเซส

   
search resources

ไทยแอร์พอร์ตส์ กราวนด์ เซอร์วิสเซส, บจก.
Airport
ลาดหญ้า อูริยา




"แท็กส์" ขอความเป็นธรรมบอร์ดทอท.ชุดใหม่ เตรียมพบคณะกรรมการแก้ปัญหารถเข็นกระเป๋าสัปดาห์หน้า ยันไม่เคยทำผิดสัญญาและพร้อมแก้ปัญหาแต่ทอท.ไม่ร่วมมือ คนเจรจาตัดสินใจไม่ได้ มั่นใจไม่ถูกเลิกสัญญา ชี้การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขสัญญาอำนาจบอร์ดสั่งการได้ เผยพร้อมลงทุน 140 ล้านบาท ยกล็อตใหม่ ขณะที่รถเหลือใช้งานแค่ 3,250 คัน โอดทำงานฟรี 9 เดือนไร้ค่าจ้าง 54 ล้านบาท เพราะจริงใจ

นายลาดหญ้า อูริยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยแอร์พอร์ต กราวด์เซอร์วิสเซส จำกัด หรือ แท็กส์ ผู้ดำเนินการจัดหาและบริหาร รถเข็นกระเป๋าภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2552 แท็กส์ได้ทำ หนังสือขอความเป็นธรรมไปยังคณะกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ชุดใหม่ ว่าต้องการให้แท็กส์ ดำเนินการอย่างไรเพื่อแก้ไขปัญหารถเข็นกระเป๋า โดยยืนยัน ว่า แท็กส์มีเจตนาที่จะปฏิบัติตามสัญญาอย่างเต็มที่ และมีความพร้อมในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ที่ผ่านมา ทอท.ไม่ได้ให้ความชัดเจนใดๆที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาได้ทำให้ปัญหายืดเยื้อ

ส่วนกรณีที่ ฝ่ายบริหาร ทอท.ได้เสนอบอร์ด ทอท.ให้พิจารณายกเลิกสัญญาแท็กส์ โดยบอร์ด ได้ตั้งคณะทำงานจากบอร์ด ขึ้นศึกษา ข้อเท็จจริง ข้อสัญญา และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และนำเสนอบอร์ดอีกครั้งนั้น นายลาดหญ้ากล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าจะขอเข้าพบคณะกรรมการชุด ที่บอร์ด ทอท.ตั้งขึ้นมาศึกษาข้อเท็จจริงของเรื่อง ที่เกิดขึ้น เพื่อชี้แจงข้อมูลทั้งหมด และมั่นใจจะสามารถสร้างความเข้าใจให้กับคณะกรรมการได้และจะได้รับการพิจารณาแก้ไข ไม่ถูกเลิกสัญญา เนื่องจากแท็กส์มีความชำนาญและมีประสิทธิภาพในการทำงาน

นายลาดหญ้า ยืนยันว่า แท็กส์พร้อมทั้งความพยายามในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ปัญหาคือ คนของ ทอท.ที่เจรจากับแท็กส์เพื่อแก้ปัญหาไม่สามารถตัดสินใจได้ เมื่อแจ้งข้อมูลและแนวทางไปก็ไม่มีความชัดเจนตอบกลับมา แท็กส์ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ โดยหากต้องการให้เปลี่ยนรถเข็นกระเป๋าแบบใหม่ทั้งหมด ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีการนำมาทดสอบการใช้งานแล้วนั้น แท็กส์ต้องลงทุน 140 ล้านบาท แต่หากจัดหามา ทดแทนเฉพาะที่ขาดจำนวนไป จะลงทุนประมาณ 80 ล้านบาท

ทั้งนี้ แม้ข้อเสนอที่จะนำเข้ารถเข็นจากโรงงานประเทศจีน ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขในสัญญาที่กำหนดให้ต้องออกแบบและผลิตในประเทศ โดยต้องไม่เป็นรถเข็นกระเป๋าที่ขายในท้องตลาด แต่หาก ทอท.ต้องการแก้ปัญหา และ แท็กส์ก็พร้อมจะดำเนินการ การเปลี่ยนแปลงแก้ไขดังกล่าวอยู่ในอำนาจของบอร์ด ทอท. ซึ่งแท็กส์ดำเนินการจัดหารถแบบใหม่ เป็นไปตามที่นายวุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์ อดีตประธานบอร์ดทอท.เคยบอกว่า ต้องการให้เปลี่ยนใหม่เพราะแบบเก่าหนักไม่คล่องตัว

นอกจากนี้ แท็กส์ได้เสนอขอเช่ารถเข็นกระเป๋าของ ทอท.จากสนามบินดอนเมืองจำนวน 1,500 คันมาใช้ในช่วงที่กำลังดำเนินการจัดหา โดยเสนอค่าเช่าที่ 400,000 บาท แต่ทอท.ไม่ยินยอม เพราะเกรงว่าจะผิดสัญญาจ้างและเข้าข่ายการเอื้อประโยชน์ให้เอกชน

นายลาดหญ้า กล่าวว่า ปัจจุบัน รถเข็นกระเป๋าเหลืออยู่ประมาณ 3,250 คัน หายไปกว่า 5,600 คัน ซึ่งสาเหตุเกิดจากถูกขโมยทั้งสิ้น ส่วนที่ชำรุดยืนยันว่าได้มีการซ่อมแซมอย่าง ต่อเนื่อง นอกจากนี้เพื่อให้การบริการไม่มีปัญหา แท็กส์ได้เพิ่มพนักงานเก็บรถเพื่อหมุนเวียนให้เร็วขึ้นจาก 228 คนต่อวันตามสัญญาเป็น 260 คนต่อวัน ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่า ถ้าไม่พร้อมหรือไม่มีเจตนาตั้งใจทำงาน บริษัทคงไม่ยอมทำงานฟรีมาถึง 9 เดือน ในขณะที่ ทอท. เป็นผู้ถือหุ้นในแท็กส์ และที่ผ่านมา 19 ปี แท็กส์ คืนเงินปันผลให้ทอท.ไปกว่า 400 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม แท็กส์ไม่ได้รับค่าจ้างจากทอท.ตั้งแต่เดือน พ.ค. 2551 ถึงม.ค. 2552 รวม 9 เดือน เป็นเงิน 54 ล้านบาท และทอท.ไม่เคยแจ้งเรื่องค่าปรับใดๆ และแท็กส์มั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดสัญญาเพราะรถเข็นกระเป๋าที่หายไป มีคนของ ทอท.ร่วมเป็นผู้ต้องหาด้วย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us