|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
กลุ่มเตชะอุบล ซื้อหุ้น”ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม” จาก ผู้ถือหุ้นใหญ่ “ เจซี แอสเซท”132.35 ล้านหุ้น คิดเป็น 20.76% มูลค่า 72.79 ล้านบาท ส่งผลเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ1 หวังต่อยอดธุรกิจด้านสร้างคอนโดมิเนียม ขนาด 1 พันยูนิต ด้านก.ล.ต.ผ่อนเกณฑ์ให้บล.แอ๊ดคินซัน ปิดสมุดทะเบียน ผู้ถือหุ้นในนามบริษัทแทนลูกค้าบัญชีมาร์จิ้น เพื่อนำเงินที่ได้จากการลดทุนไปลดหนี้ของลูกค้าในบัญชีมาร์จิ้น
แบบรายงานการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์ของกิจการ (แบบ 246-2) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า นางชลิดา เตชะอุบล ได้เข้าซื้อหลักทรัพย์บริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน)หรือ TFD ซึ่งประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 10.33 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 1.62 % ราคาหุ้นละ 0.55 บาท จากบริษัท เจซี แอสเซท จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของTFD ทำให้ภายหลังการซื้อหุ้นถือหุ้นเพิ่มเป็น 15.35 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 2.41%
ขณะที่นายอภิชัย เตชะอุบล ได้ซื้อหุ้น TFD จาก บริษัทเจซี แอสเซท จำนวน 122.01 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 19.14% ราคาหุ้นละ 0.55 บาท ทำให้ภายหลังการเสนอขายถือหุ้นเพิ่มเป็น 126.19 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 24.5% และเมื่อรวมกับหุ้นที่ถือโดยบริษัท วี.ซี.เอ.แอล. บิสซิเนส กรุ๊ป จำกัด ที่ถืออยู่ 91.79 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 14.40% บริษัท วีเอสเอสแอล เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ถือหุ้นอยู่ 52.74 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 8.27% ส่งผลให้กลุ่มเตชะอุบลถือหุ้น TFD รวมทั้งสิ้น 316.09 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 49.58% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด
การดำเนินการดังกล่าวของตระกูลเตชะอุบลครั้งนี้ สอดคล้องกับนโยบายกลุ่มเตชะอุบล ที่นายบี เตชะอุบล กรรมการ บริษัท แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) หรือ ASL และในฐานะผู้ดูแลการลงทุนกลุ่มเตชะอุบล ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ว่า กลุ่มเตชะอุบลมีแผนที่จะเข้าไปซื้อกิจการ (เทกโอเวอร์) บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ อีก 1-2 บริษัท ซึ่งทำธุรกิจด้านไอที อสังหาริมทรัยพ์ เพราะมองว่าราคาหุ้นของหลายบริษัทปรับตัวลดลงต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชี (บุ๊กแวลู) ทำให้การลงทุนไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุนสูงมากนัก
ทั้งนี้ ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเข้าไปลงทุนในลักษณะเก็งกำไรราคาหุ้น โดยบริษัทมีนโยบายการลงทุนของกลุ่มนั้นจะเน้นลงทุนระยะยาว โดยการเข้าไปซื้อกิจการบริษัทอสังหาริมทรัพย์นั้นเพื่อที่จะทำธุรกิจในการสร้างคอนโดมิเนียม ขนาด 1,000 ยูนิต ราคา 1-3 ล้านบาท
สำหรับกลุ่ม เตชะอุบล ในปีนี้ที่จะใช้เงินลงทุน กว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการลงทุนที่มากที่สุดตั้งแต่ปี 2540 เนื่องจาก มองว่าจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวนั้นเป็นโอกาสที่จะเข้าไปลงทุน ซึ่งจะให้ผลตอบแทนการลงทุนในอีก 2 ปีข้างหน้า คาดว่าเศรษฐกิจน่าจะมีการปรับตัวดีขึ้น
ปัจจุบันกลุ่มเตชะอุบล ได้มีการลงทุนในธุรกิจ 2 ส่วน คือ ธุรกิจการเงิน ซึ่งได้มีการลงทุนใน บริษัทหลักทรัพย์ แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) หรือ ASL และบลจ.เอ็มเอฟซี ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 2 บ ริษัท คือ บริษัท คันทรีกรุ๊ป ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะนำคันทรีกรุ๊ป เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ก.ล.ต.ผ่อนASLปิดสมุดทะเบียน
พร้อมกันนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ส่งหนังสือเวียนไปยังบริษัทหลักทรัพย์ทุกแห่ง เนื่องจากบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่งได้หารือกับก.ล.ต.เกี่ยวกับกรณีที่บริษัหทลักทรัพย์ แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน)หรือ ASL จะมีการลดทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้ว และคืนเงินลดทุนให้ผู้ถือหุ้น อันจะส่งผลให้มูลค่าหุ้น ASL ที่เป็นประกันการให้กู้ยืมเงินในบัญชีมาร์จิ้นลดลงอย่างมาก ซึ่งอาจมีผลกระทบกับหลักประกันของลูกค้าในบัญชีมาร์จิ้น และการดำเนินงานของบริษัทหลักทรัพย์ดังนั้น
ทั้งนี้ จึงขอผ่อนผันการปฏิบัติตามหนังสือเวียนที่ก.ล.ต. ธ.(ว) 54/2549 เรื่องซักซ้อมความเข้าในกรณีการแจ้งรายชื่อเจ้าของหลักทรัพย์กรณีที่มีการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ลงวันที่ 17 พศจิกายน 2549 ที่กำหนดให้บริษัทหลักทรัพย์ต้องปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นในนามลูกค้า เป็นดำเนินการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นในนามบริษัทหลักทรัพย์ เพื่อบริษัทหลักทรัพย์จะนำเงินที่ได้จากการลดทุนไปลดหนี้ของลูกค้าในบัญชีมาร์จิ้น
สำหรับก.ล.ต.ของชี้แจงว่า หนักงสือเวียนที่ ก.ล.ต.ธ.(ว)54/2549 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทจดทะเบียน ณ วันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นมีความโปร่งใสและถูกต้อง อย่างไรก็ตามสำนักงานพิจารณาแล้วเห็นว่ากรณีการลดทุนของASLเป็นการลดทุนมูลค่าค่อนข้างสูง และอาจจะมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญกับมูลค่าหุ้นที่เป็นหลักประกันของบริษัทหลักทรัพย์ ดังนั้น ก.ล.ต.จึงไม่ขัดข้องที่บริษัทหลักทรัพย์จะปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นในนามบริษัทหลักทรัพย์ แทนลูกค้าบัญชีมาร์จิ้นเฉพาะกรณีหุ้น ASL โดยบริษัทหลักทรัพย์ต้องดำเนินการดังนี้
1.การปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นจะต้องไม่กระทบสิทธิของลูกค้า โดยบริษัทหลักทรัพย์จะต้องได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากลูกค้าก่อน 2. บริษัทหลักทรัพย์ต้องประสารงานกับบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อเปิดเผยรายชื่อลูกค้าซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นที่แท้จริงให้เสมือนเป็นการปิดสมุดทะเบียนในนามลูกค้าด้วย 3. การดำเนินการดังกล่าวของบริษัทหลักทรัพย์จะต้องไม่หลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามกฎหมายอื่นๆเช่น การปิดสมุดทะเบียนในนามบริษัทหลักทรัพย์แทนลูกค้าที่มีสัญชาติต่างประเทศซึ่งถือหุ้นในกระดานหลัก เพื่อให้บริษัทหลักทรัพย์ได้รับสิทธิประโยชน์แทนลูกค้าต่างประเทศดังกล่าวซึ่งอาจเป็นการหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติบริษัทหมาชนจำกัด พ.ศ.2535
|
|
|
|
|