เกรียงไกรและเกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน เป็นพี่น้องฝาแฝดวัย 50 ปีที่ใช้ชีวิตเติบโตมาด้วยกันเกือบตลอด หลังเรียนจบมัธยมในกรุงเทพฯ ทั้งคู่สอบเอ็นทรานซ์เข้าเรียนต่อคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่พร้อมกัน

แทนที่จะทำงานตามที่ร่ำเรียนมา ด้วยความชอบงานด้านสื่อสารมวลชน เกรียงไกรหรือเมฆแฝดผู้พี่กลับเริ่มต้นชีวิตการทำงานในบริษัทโฆษณาเล็กๆ ที่ชื่อ Rich Oriental เรียนรู้งานทุกอย่างตั้งแต่ Client Service ครีเอทีฟ ก๊อบปี้ไรเตอร์

ทำได้ปีกว่าๆ ไปสมัครงานใหม่ที่บริษัทเจเอสแอล โดยใช้เทปเพลงที่เขาแต่งเอง 1 ม้วนเป็นใบเบิกทาง ช่วงเวลาที่ทำงานอยู่ในเจเอสแอลเป็นประสบการณ์ที่ทำให้เขาเรียนรู้งานหลากหลาย จากรายการรูปแบบต่างๆ ที่เจเอสแอลเป็นผู้ผลิต

รายการ Concert Contest เป็นรายการถ่ายทอดสดที่จุดประกายความคิดของเขา ประกอบกับช่วงเวลานั้น Event Marketing เริ่มเป็นที่นิยมในลักษณะของ Promotion and Sale

"มีอยู่วันหนึ่ง ผมไปเซ็นทรัล ไปเห็นเขาทำ event ให้น้ำอัดลมยี่ห้อหนึ่งที่กลับมา re-launch ผมคิดว่าใครทำ ไม่ได้เรื่องเลย ถ้าเราทำน่าจะได้ดีกว่านี้"

เขาจึงตัดสินใจลงขันร่วมกับเพื่อนในเจเอสแอล ก่อตั้งบริษัท Scene Progress รับทำงาน event มีลูกค้าคือ เนสท์เล่ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และแอมเวย์ เป็นลูกค้า 3 รายแรกในชีวิต

ทำได้พักใหญ่ต้องแยกทางกับเพื่อน เกรียงไกรหอบเอาความถนัดในเรื่องของครีเอทีฟและโปรดักชั่นออกมาตั้งบริษัท Index และสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ จากธุรกิจเล็กๆ จนกระทั่งมีวันนี้

แม้จะเป็นฝาแฝดที่รูปร่างหน้าตาใกล้เคียงกันมาก แต่ด้วยประสบการณ์ทำงานที่แตกต่างกัน ในขณะที่บุคลิกของเมฆจะเป็นสไตล์ของคนทำงานเอเยนซี่โฆษณา พิถีพิถันเรื่องการแต่งตัวมากกว่า หมอกแฝดผู้น้อง หลังเรียนจบรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หมอกแยกไปทำงานแผนกคอมพิวเตอร์ที่บริษัทการบินไทย จากนั้นไปทำงานอยู่ที่บริษัทดาต้า เจนเนอรัล บริษัทคอมพิวเตอร์ ก่อนจะกลับมาบุกเบิกธุรกิจร่วมกับพี่ชาย

หมอกเพิ่งบินกลับจากไปดูงานที่ประเทศดูไบ เพื่อเตรียมจัดงานพิธีแต่งงานให้กับเจ้าหญิงของที่นั่น เป็นการทำงานที่ต่อเนื่อง หลังจากที่เห็นผลงานเมื่อปีที่แล้ว ครั้งที่ Index ชนะบริษัทจากประเทศฝรั่งเศส ในการจัดงานแต่งงานให้กับเจ้าชายแห่งประเทศดูไบ

แม้บุคลิกจะแตกต่างกันบ้างแต่สิ่งที่ทั้งคู่ชื่นชอบคือดนตรี นอกจากจะใช้เป็นใบเบิกทางในการสมัครงานแล้ว เขาเคยแต่งเพลงต้นรายการให้เจเอสแอล วันนี้พวกเขายังเสพสุนทรีด้วยการเล่นดนตรีพร้อมๆ กับทำหน้าที่เป็นครีเอทีฟร่วมกับทีมงานอีก 2 คน

ในขณะที่เมฆถนัดงานด้านการตลาด ส่วนหมอกด้วยพื้นฐานมาทางด้านเทคโนโลยี เขาจะถนัดงานที่หวือหวาใช้เทคโนโลยีมากๆ บวกกับการตลาด ซึ่งทีเอ ออเร้นจ์ เป็น 1 ในลูกค้าที่เขารับผิดชอบโดยตรง

เชิญชาย ทิพย์สุข Vice President ถนัดทางด้านงานแสดง ที่เน้นความสวยงาม ศิลปะแบบไทย ส่วนรัชนีวรรณ ฤทธิธรรม รองประธาน Creative Director จุดเด่นของเธออยู่ที่การเป็นนักค้นคว้า และความละเอียดในการทำงาน

ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่แตกต่างของทั้ง 4 คนมาเติมเต็มให้กับงานที่ต้องอาศัยมิติทางความคิดที่หลากหลาย