|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ไพร์มเนเจอร์ปรับแผนพัฒนาที่ดินหัวหินระลอกใหม่ ล้มคอนโดหรูเจาะต่างชาติ หั่นขนาดยูนิตเหลือไซส์เล็กขายคนไทย งัดกลยุทธ์ร่วมทุนผู้รับเหมา เร่งดันโครงการแล้วเสร็จ สร้างความเชื่อมั่นลูกค้า หลังติดหล่ม 3 ปีปั้นโครงการไม่ขึ้น ฉุดแผนรุกธุรกิจใหม่ลากยาว
ช่วงเวลาที่โลดแล่นอยู่ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ไม่ถึง 10 ปีของไพรม์เนเจอร์ ดีเวลลอปเปอร์หน้าใหม่ เจ้าของแลนด์แบงก์หลายหมื่อนไร่ในย่านชลบุรี พร้อมกับจุดยืนเพียงหนึ่งเดียว คือ การรุกตลาดไฮเอนด์ ประเดิมด้วยการพัฒนาแลนด์แบงก์แปลงใหญ่ในย่านอ่อนนุช และต่อมาที่หัวหิน แม้รูปลักษณ์หรือแนวคิดของโครงการที่ออกมาจะไม่ได้สวนทางกับจุดยืนที่ไพร์มเนเจอร์อยากเป็น แต่ก็แทบไม่น่าเชื่อว่าที่ดิน 2 แปลงใหญ่นี้จะกลายเป็นกับดักที่ทำให้ดักไพรม์เนเจอร์ติดหล่ม จนไม่พร้อมที่จะรุกตลาดใหม่ๆ ทั้งที่วางแผนธุรกิจระยะยาวไว้หลายด้าน ทั้งการรุกตลาดลองสเตย์ โดยใช้แลนด์แบงก์ที่ชลบุรีของตนเอง ออฟฟิศ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ โรงแรม ฯลฯ รวมถึงการเข้าตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต
สำหรับบ้านเดี่ยวหรูในโครงการไพร์มเนเจอร์ อ่อนนุชขณะนี้ปิดการขายแล้ว เหลือแต่ภาระการพัฒนาโครงการไพร์มเนเจอร์ หัวหิน บนที่ดิน 102 ไร่ ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 2548 ในช่วงจังหวะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังบูม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มชาวต่างชาติ แต่เพราะเป็นโครงการขนาดใหญ่ ใช้เวลาพัฒนานาน รวมถึงคาดการณ์ตลาดผิดพลาด ทำให้ความคืบหน้าของโครงการล่าช้ากว่าแผน ซึ่งตามมาสเตอร์แพลนเดิมแบ่งการพัฒนาออกเป็น 3 เฟส ได้แก่ ที่ดินเปล่าและบ้านเดี่ยวบนเนิน 17.5 ไร่ รวม 24 แปลง, คอนโดมิเนียมสูง 3 ชั้น 6 อาคาร รวม 150-250 ยูนิต พื้นที่ 15.5 ไร่ และบ้านรอบทะเลสาบ พื้นที่ 10.5 ไร่ ที่เหลือเป็นพื้นที่ส่วนกลางคิดเป็น 65% ของพื้นที่โครงการทั้งหมด ราคาขายที่ดิน 80,000-150,000 บาทต่อ ตร.วา บ้านเดี่ยวราคาเริ่มต้น 20-35 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมขนาด 150 ตร.ม. และ 250 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 15-35 ล้านบาท
ปัจจุบันแผนการพัฒนาที่ดินได้เปลี่ยนไป เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนคอนโดมิเนียมที่ได้ปรับขนาดยูนิตให้เล็กลง เพื่อจับกำลังซื้อคนไทย หลังจากประสบการณ์ในการทำตลาดของสุนัทที เนื่องจำนงค์ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท ไพรม์เนเจอร์ พบว่า ที่ผ่านมาลูกค้าชาวต่างชาติเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากกฎหมายมากกว่าคนไทย ลูกค้ามักถามหายูนิตขนาดเล็ก และสนใจรูปแบบตกแต่งพร้อมอยู่มากกว่า เดิมบริษัทออกแบบเป็นคอนโดมิเนียม 8 ชั้น 54 ยูนิต ขนาดเริ่มต้น 150 ตร.ม. ราคา 6.3 ล้านบาท ซึ่งไม่ตรงกับดีมานด์ของคนไทย ทำให้มียูนิตเหลือขายจำนวนหนึ่ง จึงคืนเงินจองให้กับลูกค้าเก่า และปรับรูปแบบโครงการเป็น Low Rise Luxurious Condominium คอนโดมิเนียม 7 ชั้น (รวมชั้นจอดรถ) 2 อาคาร รวม 93 ยูนิต บนพื้นที่ 2 ไร่ ลดขนาดยูนิตให้เล็กลงเหลือ 61.5-240 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.9 ล้านบาท หรือ 85,000-100,000 บาทต่อ ตร.ม. ออกแบบโดยออกัสท์ ดีไซน์ คอนซัลแตนท์ ในสไตล์รีสอร์ตร่วมสมัย ขณะนี้มียอดพรีเซลแล้ว 30% ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าคนไทย ผ่านการพิจารณา EIA แล้ว คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จในเดือนต.ค. นี้
ทั้งนี้การบริหารโครงการได้ดึงบริษัท อี.จี. คอนสตรัคชั่น จำกัด บริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีประสบการณ์ด้านก่อสร้างห้างค้าปลีก เข้ามาร่วมทุนพัฒนาโครงการ โดยจัดตั้งบริษัท อี.จี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัดขึ้น ซื้อที่ดิน 2 ไร่ จากไพร์มเนเจอร์ และอี.จี. คอนสตรัคชั่นถือหุ้น 80% มาช่วยผลักดันงานก่อสร้างที่ไพร์มเนเจอร์ไม่ถนัดให้แล้วเสร็จ เพื่อเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า และเร่งรับรู้รายได้ ซึ่งใช้เวลาเพียง 12 เดือน จากเดิมที่เป็นตึกสูงต้องใช้เวลานานถึง 18 เดือน แม้สัดส่วนกำไรจะลดลงจากที่ตั้งไว้ เพราะโครงการล่าช้ากว่าแผน
|
|
|
|
|