|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ตลาดหุ้นหวั่น! บริษัทจดทะเบียนเจ้าเล่ห์ ฉวยจังหวะตกแต่งงบการเงินให้ดูดีในช่วงภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ ยืนยันเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมผ่อนปรนค่าธรรมเนียมในหลักทรัพย์ที่มีฟรีโฟลทต่ำเพื่อช่วยลดภาระ หลังแนวโน้มบจ.เข้าเกณฑ์มีโอกาสเพิ่มสูงขึ้น ฉงนใจหุ้น MPIC และ MLINKพุ่งผิดสังเกต ส่วนหุ้นSECC ตอนนี้เรื่องอยู่ที่ดีเอสไอ แต่งบการเงินยังล่าช้าเพราะยังหากรรมการครบตามเกณฑ์ไม่ได้ เตือนวันสุดท้าย 16 กรกฎาคมนี้ ไม่งั้นอาจเข้าข่ายถูกเพิกถอน
นายศักรินทร์ ร่วมรังษี ผู้ช่วยผู้จัดการสายงานกำกับตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีความเป็นห่วงงบการเงินของบริษัทจดทะเบียนที่จะทยอยประกาศออกมา ซึ่งอาจจะมีบางบริษัทที่ทำการตกแต่งงบการเงินให้ดูดี ดังนั้นทางตลาดหลักทรัพย์ฯ จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด โดยในช่วงต้นเดือนมีนาคมซึ่งจะครบกำหนดที่บริษัทจดทะเบียน จะต้องประกาศงบการเงินให้หมด อาจจะเห็นบางบริษัทมีส่วนของทุนติดลบ แต่ไม่ได้จำกัดความว่าผิด เพราะบางช่วงอาจจะกลับมาเป็นบวกได้
ทั้งนี้ มีบริษัทจดทะเบียน 28 แห่งที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน โดยอยู่ในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ตามกำหนด ภายใน 2 ปี (Non-Performing Group:NPG) 20 แห่ง และอยู่ในกลุ่มเข้าข่ายถูกเพิกถอนไม่ถึง 2 ปี ( Non-Compliance:NC ) NC อีก 8 แห่ง และยังไม่รู้ว่าจะมีบริษัทจดทะเบียนที่เข้าข่าย NC เพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ เนื่องจากยังไม่มีใครรู้ว่าภาวการณ์ชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นนี้ จะกระทบมากน้อยกับผลดำเนินงานบริษัทต่างๆมากน้อยเพียงใด
ขณะเดียวกัน ตลาดหลักทรัพย์จะผ่อนผันการเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มกับบริษัทจดทะเบียนที่มีฟรีโฟลทต่ำกว่าเกณฑ์ 15% จากเดิมที่กำหนดไว้ว่าหากบริษัทจดทะเบียนใดที่มีฟรีโฟลทต่ำกว่าเกณฑ์จะต้องเก็บบค่าธรรมเนียมเพิ่ม เพื่อเป็นการช่วยลดภาระบริษัทเหล่านี้ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว โดยปัจจุบันบริษัทจดทะเบียนที่มีฟรีโฟลทต่ำกว่าเกณฑ์ 20 แห่ง เช่น บมจ.ซีฮอร์ส(SH), บมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น(SHIN), บมจ.วีนิไทย(VNT)
งง! หุ้นMPIC-MLINKพุ่งเกินเหตุ
ส่วนกฏเกณฑ์การจัดเก็บค่าธรรมเนียมส่วนเพิ่มนั้นจะขึ้นอยู่กับจำนวนเปอร์เซ็นที่ต่ำกว่าฟรีโฟลทแ ละจำนวนของปีที่ติดฟรีโฟลท ซึ่งบริษัทจดทะเบียนที่มีฟรีโฟรทต่ำกว่าเกณฑ์ในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ รวมถึงมีการทำเทนเดอร์ ออฟเฟอร์
นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯกำลังอยู่หว่างการติดตามการซื้อขายของบริษัท บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MPIC และบริษัทบริษัท เอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MLIMK ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก โดยจะเข้าไปดูว่ามีการดำเนินการไม่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เพราะตั้งแต่ต้นปีราคาหุ้น MLIMK มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 85% ขณะที่หุ้น MPIC ราคาเพิ่มขึ้นถึง 22.31%
รอSECCตั้งกรรมการฯ-ส่งงบ
สำหรับกรณีของของบริษัท เอส.อี.ซี.ซี ออโตเซลล์ แอนด์ เซอร์วิส หรือ SECC นายศักรินทร์กล่าวว่า ขณะนี้เรื่องดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนของ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)กำลังดำเนินการตรวจสอบ โดยในส่วนงานของ ตลท. นั้นเหลือเพียงรอการส่งงบการเงินและหากรรมการตรวจสอบ เพื่อให้เป็นไปตามกฏเกณฑ์ที่บริษัทจดทะเบียน คือจะต้องนำส่งงบการเงินไม่เกิน 180 วัน จากวันสิ้นสุดงบของแต่ละไตรมาส และมีกรรมการตรวจสอบของบริษัทจดทะเบียนจำนวน 3 คน
โดยพบว่าขณะนี้ SECC อยู่ในช่วงของการสรรหาคณะกรรมการตรวจสอบ จึงทำให้ไม่สามารถสรุปงบการเงินของบริษัทได้ ซึ่งงบการเงินล่าสุดที่ SECC ส่งมาให้ตลท.คืองวดไตรมาส 3/2551 เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2551 และด้านสำนักงานคณะกรรมการกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต. ) ได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับงบการเงินในงวดดังกล่าว จึงอยู่ระหว่างการพิจารณาของบริษัท
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ราคาหุ้น SECC ได้ถูกตลาดหลักทรัพย์ฯขึ้นเครื่องหมาย SP หลังจาก ที่บริษัทไม่ส่งงบการเงินและหาผู้สอบบัญชีพิเศษ (SPECIAL AUDIT) ไม่ได้ตามเวลาที่กำหนด เพราะระยะเวลาในการส่งงบและหาผู้สอบบัญชีก็จะเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดเอาไว้คือ หากส่งงบเกินกำหนด 180 วันจะถูกขึ้นเครื่องหมาย SP และหากท้ายสุดแล้วกระบวนการตรวจสอบไม่เป็นไปตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯและก.ล.ต.ก็อาจจะทำให้หุ้นSECC ถูกเพิกถอนออกไปได้ ดังนั้นบริษัทจะต้องนำส่งงบการเงินภายในวันที่ 16 กรกฏาคมนี้
“ตอนนี้เรื่องของ SECC อยู่ที่ดีเอสไอ ซึ่งเหลือเพียงเรื่องงบการเงินที่จะต้องส่ง แต่เพราะเข้าไปอยู่ในสถานการณ์การหาผู้สอบงบจึงทำให้ยังไม่ได้ออก ดังนั้นทำให้ยังไม่เห็นภาพว่ากิจการในขณะนี้เป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งหากมีงบการเงินครบถ้วนตลาดหลักทรัพย์ก็จะนำไปพิจารณา ว่าเป็นไปตามความจริงหรือไม่ “ นายศักรินทร์ กล่าว
|
|
|
|
|