เอไอเอส ทุ่บงบการตลาดกว่า 100 ล้านสร้าง 4 ทางเลือกเอาใจลูกค้าวัน-ทู-คอล หลังยอมรับค่าบริการ
2.50 บาท ของแฮปปี้ดีพร้อมท์โดนใจผู้บริโภค ยันเอไอเอสไม่ลงไปถึงระดับ นั้น แต่หวังสร้างความพอใจลูกค้ามากกว่า
ด้าน "กฤษณัน" ย้ำเรื่องเบอร์มือถือติดตัว เป็นเรื่องความจำเป็นของประเทศที่ขาด
แคลนด้านเลขหมายมากกว่า
นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้อำนวยการสำนักบริหารการตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์
เซอร์วิส หรือเอไอเอสกล่าวถึงยุทธศาสตร์ของวัน-ทู-คอล โทรศัพท์มือถือในระบบพรีเพดว่าการให้บริการ
Freedom Freestyle โดยออกมาใน 4 รูปแบบเพื่อให้ลูก ค้าทั้งเก่าและใหม่เลือก เป็นผลจากพฤติกรรมลูกค้าที่เอไอเอสสำรวจ
มา
"อนาคตอาจเพิ่มเป็น 5 รูปแบบก็ได้ ไม่จำเป็นต้อง 4 รูปแบบตลอดไป"
เขาย้ำว่าวัน-ทู-คอล ไม่ได้มองว่าเสนออัตราค่าบริการที่ถูก แต่ 4 รูปแบบดังกล่าวเป็นการสะท้อนแนวคิด
4 แกนคือแกนด้านเวลา,แกนการโทร.หาใคร, แกนการใช้งานภายในเครือข่ายเอไอเอสและแกนสำหรับคนที่จำเป็นต้องโทร.มากกว่าปกติใน
1 วัน
เริ่มจาก 1.Freedom Time ในช่วงเวลา 22.00-6.00 น.โทร.นาทีละ 3 บาททั่วไทยทุกเลขหมาย
2.Freedom Buddy โทร.หา 1 เลขหมายพิเศษ นาทีละ 3 บาททั่วไทยตลอด 24 ชม. 3.Freedom
Friends โทร.ภายในเครือข่ายเอไอเอสที่มีอยู่ 12 ล้านเลขหมายทั้งระบบจีเอสเอ็ม แอดวานซ์
,วัน-ทู-คอลและจีเอสเอ็ม 1800 นาทีละ 4 บาททั่วไทยตลอด 24 ชม.และ4. Freedom Bonus
โทร.ครบ 25 บาทในวันเดียวกันโทร.ครั้งต่อไปได้ส่วนลด 20%
"เราไม่ได้บอกว่าเราต้องการช็อกตลาด แต่ วัน-ทู-คอล ก็เหมือนมวยที่ต้องหมั่นแย็บเก็บคะแนนสม่ำเสมอ
เราไม่ได้ออกหมัดเดียวแล้วน็อก ซึ่งผมยังยืนยันว่าแบรนด์วัน-ทู-คอล ยังจับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นพรีเมี่ยมพรีเพด"
ปัจจุบันวัน-ทู-คอล มีส่วนแบ่งตลาดในระบบพรีเพดทั้งหมด 62.5% มียอดขายเดือน ส.ค.ที่ผ่านมาประมาณ
5 แสนราย และมียอดสะสมทั้งหมด 10.2 ล้านราย (สิ้นเดือนก.ค.) สิ่งที่ฐิติพงศ์เชื่อว่าวัน-ทู-คอลประสบความสำเร็จ
คือความไม่หยุดนิ่ง (Dynamic) และการสนใจความต้องการลูกค้า โดยช่วง 4 ปีตั้งแต่เริ่มให้บริการวัน-ทู-คอลเปลี่ยน
3 โลโก เปลี่ยนแพกเกจ จิ้งมาตลอด โดยคอนเซ็ปต์ล่าสุดของวัน-ทู-คอล คือการคิดนอกกรอบ
สะท้อนผ่านหนังโฆษณากบ
การต่อสู้อย่างรุนแรงในตลาดพรีเพด เกิดจากความเข้มแข็งของดีแทคที่ให้บริการแฮปปี้ดีพร้อมท์
สร้าง 4 ทางเลือกในลักษณะช่วงเวลา โดยลูกค้าจะได้รับส่วนลด 50% หรือเหลือนาทีละ
2.50 บาท ซึ่งฐิติพงศ์ยอมรับว่ามีผลกับตลาด แต่เอไอเอสคงไม่ลงไปแข่งในประเด็นนั้นด้วย
ซึ่งความแตกต่างระหว่างดีแทคกับเอไอเอสคือดีแทคเล่นเพียงแกนเวลาด้านเดียว แต่เอไอเอสมีถึง
4 แกน ซึ่งถือเป็นผู้ให้บริการระบบพรีเพดที่มีทางเลือกให้ลูกค้ามากกว่า
"เป้าหมายคือรักษาและสร้างความพอใจให้ลูกค้าเป็นอันดับแรก ถึงอย่างไรเอไอเอสก็ไม่ได้ลงมาเล่นราคาเป็นหลัก
ซึ่งลูกค้าสามารถเปลี่ยนช่วงเวลาได้ครั้งแรกฟรี แต่ครั้งต่อไปเสีย 30 บาท ส่วนงบโฆษณา
ประชาสัมพันธ์แคมเปญ นี้ใช้ประมาณ 100 ล้านบาทในช่วง 2 เดือนครึ่งถึง 3 เดือน"
ก่อนหน้านี้นายธนา เธียรอัจฉริยะ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจพรีเพดของดีแทคออกมากล่าวว่าหากเอไอเอสให้ลูกค้าเลือกเพียง
1 ใน 4 ก็ไม่ถือว่าแคมเปญนี้แรงมากนัก แต่ถ้าหากให้ทั้ง 4 รูปแบบก็กระเทือนตลาดแน่นอน
และดีแทคคงต้องกลับมาแก้เกมกันใหม่
นายกฤษณัน งามผาติพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาดเอไอเอสกล่าวว่าคาดว่าลูกค้าจะเลือก
Freedom Friend ซึ่งเป็นการโทร.ภายในเครือข่าย นาทีละ 4 บาททั่วประเทศมากที่สุด
ส่วนเรื่องเวลาการโทรช่วงกลาง คืน จะทำให้มีการใช้เน็ตเวิร์กในช่วงระหว่าง 4 ทุ่ม
ถึง 6 โมงเช้าเพิ่มมากขึ้นประมาณ 20% เท่ากับทำให้เน็ตเวิร์กเอไอเอสมีการใช้งานได้คุ้มค่ามาก
ขึ้น
ส่วนเรื่องนโยบายน.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รมว.กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อ
สารที่ต้องการให้เลขหมายโทรศัพท์มือถือติดตัวผู้ใช้บริการกรณีย้ายโอเปอเรเตอร์
(Number of Portability) เขากล่าวว่าในด้านการตลาดถือว่าไม่มีผล เพราะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอยู่แล้ว
แต่ในต่างประเทศที่มีการใช้บริการนี้ อย่างฮ่องกง หรือสิงคโปร์ เป็นเพราะมีปัญหาเรื่องการขาด
แคลนเลขหมาย
"ถ้าทำจริงๆก็ไม่มีปัญหา และอาจเป็นประโยชน์กับเอไอเอสก็ได้ เพราะเน็ตเวิร์กเราดีที่สุด
แต่เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ที่จะตัดสินใจเรื่องนี้"