ผู้ถือหุ้นไฟเขียวแผนปรับโครงสร้างการเงินบางจากฯ และลดพาร์ล้างขาดทุนสะสม พิชัยชี้ดีอาร์หุ้นกู้แปลงสภาพคาดดอกเบี้ยต่ำกว่า
2% เพราะไร้ความเสี่ยง เหตุรัฐค้ำประกันเงินต้นและผลตอบแทน
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นวิสามัญบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่
29 ส.ค.มีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติแผนการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 1,682 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน
1,160 ล้านหุ้น มูลค่า หุ้นละ 1 บาท เสนอขายให้กับประชาชน ไม่เกิน 560 ล้านหุ้น
ส่วนที่เหลืออีก 600 ล้านหุ้น รองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพหุ้นกู้ที่จะเสนอขายออกไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมฯยังได้อนุมัติให้บริษัทออกหุ้นกู้ไม่เกิน 7,000 ล้านบาท
พร้อมทั้งให้ดำเนินการโอนทุน สำรองและลดทุนจดทะเบียนด้วยวิธีลด มูลค่าหุ้น เพื่อชดเชยการขาดทุนสะสมของบริษัทที่มีอยู่
7,900 ล้านบาท
นายพิชัย ชุณหวชิร กรรมการบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานคณะกรรมการปรับโครงสร้างการเงิน
กล่าวว่า การดำเนิน การ ตามแผนปรับโครงสร้างการเงินครั้งนี้ จะ ทำให้ลดขาดทุนสะสมเหลือ
691 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา ว่าจะล้างขาดทุนสะสมที่เหลือให้หมด
เพื่อให้ผู้ถือหุ้นรับเงินปันผลได้เร็วขึ้น
ในการออกดีอาร์หุ้นสามัญนั้น ทางกระทรวงการคลังจะค้ำประกันเฉพาะเงินต้น ส่วนดีอาร์หุ้นกู้แปลงสภาพจะค้ำทั้งเงินต้นและผลตอบแทน
คาดว่าหุ้นกู้แปลงสภาพดังกล่าวจะมีอัตราดอก ไม่เกิน 2% เนื่องจากเป็นหุ้น กู้ที่ไม่มีความเสี่ยงในการลงทุนเลย
แหล่งข่าวจากบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า การ เพิ่มทุนโดยการออกหุ้นดีอาร์สามัญ
จำนวนไม่เกิน 560 ล้านหุ้น พาร์ละ 1 บาท นั้น ราคาขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไป ราคาขายคงต้องพิจารณาถึงราคาหุ้นบางจากในตลาดฯด้วย
ทำให้มีส่วนเกิน มูลค่าหุ้นอยู่ ซึ่งอาจนำมาล้างขาดทุนสะสมได้ แต่จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับราคาหุ้นที่เสนอขายให้ประชาชนทั่วไป
ซึ่งขณะนี้ที่ บริษัท เทอร์นอะราวด์ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินบางจากฯอยู่ระหว่างการศึกษาราคาที่เหมาะสม
และเวลาที่จะเสนอขายควรเป็นไปเมื่อใด คาดว่าจะเสนอกลับมาให้บางจากฯได้ภายใน 1 เดือนข้างหน้านี้
โดยบางจากฯจะดำเนินการลดทุน จดทะเบียนภายในระยะเวลา 2 เดือนหลังจากนี้ จะจดทะเบียนเพิ่มทุน
ซึ่งคาด ว่าจะขายหุ้นเพิ่มทุน 7,000 ล้านบาทได้ภายในพ.ย.นี้
จากการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งนี้ ประชาชนผู้ถือหุ้นเดิมให้ความสนใจสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับหุ้นเพิ่มทุนจำนวนมาก
รวมทั้งแสดงความ สนใจที่จะซื้อหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าว เพราะ ผู้ถือหุ้นไม่มีความเสี่ยงในการลงทุน
หลังจากการปรับโครงสร้างการเงิน แล้ว บริษัทจะมีสัดส่วนหนี้สินที่มีดอก เบี้ยต่อส่วนผู้ถือหุ้น
ลดลงจาก 4.0 เท่า เหลือ 1.1 เท่า สัดส่วนความสามารถใน การชำระดอกเบี้ยดีขึ้นจาก
1.0 เท่าเป็น 2.1 เท่า
ด้านราคา BCP เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่ผ่านมา ปิดตลาดที่ 7.00 บาท เพิ่มขึ้น 5
สตางค์ เปลี่ยนแปลง 0.71% มูลค่าการซื้อขาย 51.40 ล้านบาท