|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
บาร์บีคิวพลาซ่า-จุ่มแซบฮัท ผ่อนคันเร่ง ลดจำนวนเปิดสาขาใหม่ เหตุ ศูนย์การค้าเปิดใหม่น้อยลง เศรษฐกิจไม่ดี พร้อมลุยทำซีอาร์เอ็ม งัดบัตรสมาร์ทการ์ดใหม่ ดึงสมาชิก เพิ่มยอดขาย จุ่มแซบฮัทมีโอกาสโกอินเตอร์ตามรอยบาร์บีคิวพลาซ่า
นางสาวชาตยา ชูพจน์เจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เดอะบาร์บีคิวพลาซ่า จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหาร “บาร์บีคิวพลาซ่า” และ “จุ่มแซบฮัท” กล่าวกับ “ASTVผู้จัดการรายวัน” ว่า แผนการดำเนินธุรกิจในส่วนของร้านอาหารในปีนี้ จะยังคงมีการลงทุนต่อเนื่อง แต่จะลดอัตราการขยายตัวลง เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีผู้บริโภคมีกำลังซื้อที่ลดลง และปัญหาการเมืองที่ยังคงมีอยู่ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคด้วย คาดว่าสถานการณ์โดยรวมในช่วงครึ่งปีแรกจะยังคงไม่ดี
นอกจากนั้นแล้วยังเป็นผลมาจาก การที่ศูนย์การค้ามีการเปิดสาขาใหม่น้อยลง และหลายแห่งก็มีการเลื่อนโครงการออกไป ทำให้บริษัทฯไม่สามารถที่จะเปิดสาขาใหม่ได้มากด้วย เพราะบริษัทฯจะขยายสาขาควบคู่ไปกับศูนย์การค้าเป็นหลักอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีพื้นที่รองรับการขยายตัวของบริษัทฯด้วย ซึ่งสาขาของทั้งสองแบรนด์แบบสแตนด์อโลนนั้นแทบจะไม่มีเลย
โดยแผนขยายสาขาปีนี้จะมีประมาณ 5-10 แห่ง (โดยที่ 1 แห่งจะมีสองแบรนด์เปิดบริการควบคู่กันไปด้วยเป็นส่วนใหญ่) ซึ่งก่อนหน้านี้โดยเฉลี่ยแล้วบริษัทฯจะขยายสาขาประมาณปีละ 15 แห่งเป็นอย่างต่ำ ซึ่งก็เท่ากับว่าเปิดประมาณ 30 สาขารวมกันทั้งสองแบรนด์ และปีที่แล้วมียอดขายเติบโต 13%
ปัจจุบันบริษัทมีสาขาเปิดบริการรวมกันประมาณ 80แห่ง แบ่งเป็น ร้านบาร์บีคิวพลาซ่าประมาณ 80 สาขา และร้านจุ่มแซบฮัทประมาณ 70 สาขา และแยกเป็นร้านที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯประมาณ 80% และตั้งอยู่ในต่างจังหวัด 20% โดยที่ปีที่แล้วเปิดสาขาใหม่ประมาณ 12 ทำเล หรือเท่ากับ 24 ร้าน ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่มากพอสมควรกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่เป็นอยู่เช่น ในกรุงเทพฯคือ เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ส่วนต่างจังหวัดเช่นที่แฟรี่พลาซ่าขอนแก่น, บิ๊กซีรังสิตคลอง 6, ฮาเบอร์มอลล์แหลมฉบัง, เทสโก้โลตัสศาลายา เป็นต้น
สำหรับสาขาใหม่ปีนี้ที่เพิ่งเปิดไปแล้วคือ ที่เซ็นทรัลพัทยาเมื่อวันที่ 23 มกราคมปีนี้ และต่อไปเตรียมเปิดที่ เซ็นทรัลชลบุรี, เซ็นทรัลขอนแก่น และที่นวมินทร์ซิตี้กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้มีการสรุปการเจรจากันไปแล้ว ส่วนครึ่งปีหลังจะต้องศึกษาหาทำเลใหม่เพิ่มเติมเพื่อสามารถเปิดให้ได้ตามแผนงานที่วางไว้
ขณะเดียวกันในปีนี้จะเน้นการทำซีอาร์เอ็มและกิจกรรมมากขึ้นเพื่อเป็นการกระตุ้นลูกค้าเข้ามาบริโภค โดยเฉพาะการทำบัตรสมาชิกแบบใหม่ “วิทเลิฟ สมาร์ทการ์ด” (With Love Smart Card) โดยใช้ระบบชิป เป็นการพัฒนาจากระบบบัตรเดิมที่เป็นเพียงแค่ บัตรวิทเลิฟเท่านั้น มีแค่การรับส่วนลด แต่บัตรใหม่จะมีทั้งรับส่วนลดและการสะสมแต้มเพื่อนำไปใช้แลกสิ่งของได้อีกด้วย โดยคาดว่าปีนี้จะมีฐานสมาชิกเพิ่มขึ้นอีก 25% จากปีที่แล้วมีประมาณ 90,000 ราย และจะช่วยเพิ่มยอดขายจากในส่วนของสมาชิกได้อีก 30% ซึ่งปัจจุบัน ลูกค้าที่เข้ามาทานในร้านบาร์บีคิวพลาซ่าจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 200 บาทต่อคน ส่วนร้านจุ่มแซ่บฮัทอยู่ที่ 180 บาทต่อคน ขณะที่ยอดขายจะมาจากบาร์บีคิวพลาซ่าในสัดส่วนมากกว่า 70% และอีก 30% มาจากร้านจุ่มแซบฮัท
นอกนั้นยังมีร้านอาหารอีก 2 แบรนด์คือ ร้านไฟร์เพลซ เป็นร้านอาหารย่างสไตล์ญี่ปุ่นแบบพรีเมียม ตั้งอยู่ที่ดิเอ็มโพเรียม ชั้น 4 เปิดมาแล้ว 2 ปี แต่คาดว่าคงไม่ได้เน้นขยายสาขาเท่าใดนัก 2.ร้านจัสท์แซบ บายจุ่มแซบฮัท เป็นร้านอาหารอีสานแบบส้มตำ ไก่ย่าง ชนิดฟาสต์ฟู้ด รูปแบบคีออส เปิดที่เมืองทองธานี 2 ปีแล้ว คาดว่าตัวนี้มีโอกาสที่จะขยายสาขาได้ดีในอนาคต
ส่วนในต่างประเทศนั้นที่ผ่านมาได้นำร้านบาร์บีคิวพลาซ่าไปลงทุนเปิดที่มาเลเซียมาแล้ว 3 ปีแล้ว ร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่นที่ทำธุรกิจร้านอาหาร เปิดแล้ว 5 สาขา ในปีนี้จะเปิดอีก 1 สาขา ในอนาคตมีความเป็นไปได้ที่จะนำแบรนด์ร้านจุ่มแซบฮัทไปเปิดอีกด้วย
|
|
|
|
|