พิษเศรษฐกิจโลก กดอุตสาหกรรมกระดาษไทยทรุด “ดั๊บเบิ้ล เอ” ยอดส่งออกสะดุด ลดลง 25% ตั้งแต่ต.ค.ปีก่อน วางหมากชี้ชะตาปีวัวดุ โฟกัสแอฟริกา ยุโรปตะวันออกดันยอด ส่วนในประเทศ ชู “ฉลากเขียว” ใบเบิกทางจับตลาดภาครัฐเพิ่ม มั่นใจส่งยอดขายรวมโต7% จาก 21,000 ล้านบาทในปีก่อน
นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอ็ดวานซ์ อะโกร จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายกระดาษแบรนด์ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมกระดาษรวมของประเทศไทย ตั้งแต่ช่วงไตรมาสสามของปีก่อน เริ่มได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจโลก โดยในส่วนของบริษัท การส่งออกไปยังต่างประเทศ ปีนี้เฉลี่ยมียอดสั่งซื้อลดลง 25% จากที่เคยสั่งในช่วงเวลาปกติ ดังนั้นในส่วนของการส่งออก บริษัทฯจะมุ่งหาประเทศใหม่ๆที่มองเห็นโอกาสในการทำการขายได้มากขึ้น เช่น กลุ่มประเทศแอฟริกา ซึ่งน่าจะมีแนวโน้มการบริโภคกระดาษมากขึ้น จากการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลโลกที่จะมาถึง และกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก
สำหรับการทำตลาดในประเทศนั้น จากสภาพเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง กลุ่มลูกค้าบริษัทฯต่างๆที่คาดว่าจะมีทั้งปิดตัวลง หรือเน้นควบคุมการจัดการภายใน ประหยัดงบประมาณ ส่งผลถึงการใช้กระดาษสำนักงานที่คาดว่าจะใช้ลดลงด้วยนั้น ปีนี้ทางบริษัทฯจึงได้ให้ความสำคัญกับลูกค้าภาครัฐมากยิ่งขึ้น
โดยล่าสุดได้ผลิตกระดาษตามมาตรฐาน “ฉลากเขียว” ซึ่งเป็นกลุ่มกระดาษที่ภาครัฐนิยมใช้ มาทำตลาดในปีนี้มากขึ้น จากเดิมที่ในปลายปีก่อน กลุ่มลูกค้าภาครัฐมีเพียงเล็กน้อย สิ้นปีนี้คาดว่าต่อเดือนจะมียอดการสั่งซื้อจากกลุ่มลูกค้าภาครัฐประมาณ 800 ตันต่อเดือน จากปัจจุบันยอดสั่งซื้อกระดาษอยู่ที่ 6,000-7,000 ตันต่อเดือน เป็นภาครัฐประมาณ 250-300 ตันต่อเดือน ซึ่งการสั่งซื้อนี้จะมีทั้งการเข้าไปประมูล และการแนะนำสินค้าผ่านเจ้าหน้าที่การขายของบริษัทฯ นอกจากนี้บริษัทฯจะมุ่งขยายดั๊บเบิ้ล เอ ก๊อปปี้ คอร์นเนอร์ ให้ครบ 200 สาขา จากเดิมมีอยู่แล้ว 50 สาขาด้วย
อย่างไรก็ตาม จากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ปีนี้บริษัทฯได้ปรับงบการตลาดลงเหลือเพียง 75 ล้านบาท จากปีก่อนที่ใช้กว่า 100 ล้านบาท สาเหตุที่ใช้น้อยลง เพราะต้องการใช้งบประมาณอย่างระมัดระวังมากขึ้น เพื่อให้เกิดสภาพคล่องในการใช้กระแสเงินสดให้มากที่สุด โดยงบการตลาดครั้งนี้กว่า 25 ล้านบาท จะถูกใช้ไปกับโฆษณากับ 2 โครงการที่ทำขึ้นในปีนี้ คือ โครงการ 101 ต้นบนคันนา และบิ๊ก แตงค์ โปรโมชั่น ส่วนอีก 50 ล้านบาท จะเน้นการจัดโรดโชว์ไปตามโรงเรียน สำนักงาน รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ ให้รับรู้ถึงดั๊บเบิ้ล เอ กับผลิตภัณฑ์กระดาษในกลุ่มฉลากเขียว
นายชาญวิทย์ กล่าวต่อว่า การทำงานในปีนี้พนักงานขายและการตลาดจะต้องทำงานหนักมากขึ้นเพื่อช่วยดันยอดขายภายใต้สภาพเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศที่ชะลอตัวลง ซึ่งการทำงานหนักในปีนี้ จะช่วยให้บริษัทฯไม่ต้องมีการปลดพนักงานลงจากทั้งหมด 1,000 อัตราที่ทำงานอยู่ อีกทั้งเพื่อช่วยการบริหารจัดการ กระตุ้นการขายให้ยังคงไปได้อยู่ โดยเฉพาะกระดาษพิมพ์เขียนไซส์เล็ก เพราะในกลุ่มขนาดใหญ่ จากภาพรวมตลาดหนังสือที่มีแนวโน้มลดลง ยอดขายกลุ่มกระดาษดังกล่าวน่าจะลดลงเช่นกัน จึงต้องหันมากระตุ้นในส่วนของไซส์เล็กมากขึ้น
ทั้งปี 2552 บริษัทฯคาดว่าจะมียอดขายรวมเติบโตขึ้น 6-7% จาก 2,100 ล้านบาทในปีก่อน ซึ่งเติบโต7% โดยการเติบโตดังกล่าว 50%มาจากการส่งออกกว่า 100 ประเทศทั่วโลก และอีก 50% เป็นรายได้จากในประเทศ ซึ่งสามารถแบ่งรายได้จากกลุ่มกระดาษภายใต้แบรนด์ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้อีกว่า ปีนี้น่าจะจำหน่ายได้กว่า 25 ล้านรีม คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10%
ขณะที่ปีก่อนยอมรับว่าปัญหาเศรษฐกิจตั้งแต่ไตรมาสสาม ได้ส่งผลกระทบต่อรายได้ภายในประเทศให้เติบโตลดลงเหลือ 15% จากที่ตั้งไว้ที่ 20%
|