|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ไทยแอร์เอเชีย ลุยเปิดบริการเสริม เรียกลูกค้ากลุ่มนักธุรกิจเพิ่มเป็น 3-5% ยอมรับวิกฤตเศรษฐกิจโลกส่งผลทุกธุรกิจแข่งขันสูง อัดงบการตลาดและประชาสัมพันธ์เพิ่มจากปีก่อน 50% เป็น 180 ล้าน ยอมรับพิษเก็งซื้อน้ำมันล่วงหน้าทำประกอบการปีก่อนขาดทุน แต่ปีนี้ยังฝันโต 10-15%
นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบิน ไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า กำลังซื้อที่ลดลงจากผลกระทบของวิกฤตเศรษฐกิจโลกทำให้ทุกธุรกิจเกิดการแข่งขันสูงเพื่อรักษาฐานลูกค้าเก่าและช่วงชิงลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่จะเป็นลำดับต้นๆที่จะได้รับผลกระทบ เพราะเป็นค่าใช้จ่ายลำดับต้นๆที่คนจะตัดทิ้ง ภาคธุรกิจจึงต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด
ในส่วนของ ไทยแอร์เอเชีย ปีนี้ เตรียมใช้งบตลาดและประชาสัมพันธ์เพิ่ม 50% เป็น 150-180 ล้านบาท จากปีก่อนที่ใช้ 120 ล้านบาท เพื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์ และจัดแคมเปญส่งเสริมการขายตลอดปี ด้วยวิธีปรับเปลี่ยนการใช้สื่อให้เจาะตรงถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น รวมถึงการศึกษาความต้องการของลูกค้าเพื่อเพิ่มบริการได้ตรงใจ
ขยายฐานลูกค้านักธุรกิจ
ล่าสุดเปิดตัวบริการเสริมใหม่ “เลือกที่นั่งให้ถูกใจ”(Pick A Seat) ลูกค้าใช้บริการดังกล่าวจะสามารถเลือกที่นั่งได้ โดยแบ่งเป็นสองประเภท คือ แถวที่นั่งพิเศษ(Hot Seat) และที่นั่งแบบมาตรฐาน(Standard Seat) โดยผู้โดยสารสามารถเลือกซื้อที่นั่งแถวพิเศษ ได้แก่ ที่นั่งใน 5 แถวแรก และที่นั่ง 2 แถวที่ติดประตูทางออกฉุกเฉินของเครื่อง ในอัตราค่าบริการ 250 บาท ต่อที่นั่งต่อเที่ยว ผู้โดยสารที่เลือกบริการนี้จะได้สิทธิพิเศษในบริการขึ้นเครื่องก่อนใคร (Xpress boarding) ด้วย สำหรับที่นั่งแบบมาตรฐาน คือที่นั่งทั้งหมดที่เหลืออยู่นอกเหนือจากตำแหน่ง 5 แถวแรก และ 2 แถวที่ประตูฉุกเฉิน ที่กล่าวมา โดยจะเสียค่าบริการที่นั่งละ 50 บาท ต่อเที่ยว
“นับจากวันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้ไปแอร์เอเชียในทุกประเทศจะเริ่มบริการให้เลขที่นั่งแก่ผู้โดยสารทุกคน ส่วนคนที่ไม่ได้ใช้บริการเสริมทางสายการบินจะเป็นผู้เลือกที่นั่งให้เองโดยจะระบุเลขที่นั่งลงไปในตั๋วโดยสาร โดยได้ออกหนังโฆษณาทีวี 1 เรื่องใช้งบรวมเกือบ 40 ล้านบาท”
บริการเสริมใหม่นี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มนักธุรกิจ คาดว่าจะเพิ่มสัดส่วนลูกค้ากลุ่มนักธุรกิจได้เป็น 3-5% ต่อเที่ยวบิน จากปัจจุบันสัดส่วนลูกค้ากลุ่มนี้อยู่ที่ 1-2% นอกจากนั้นยังรองรับกับผู้โดยสารที่เดินทางเป็นครอบครัว หรือเป็นหมู่คณะได้ดี
“เมื่อรวมบริการใหม่นี้แล้วทำให้ปัจจุบันเรามีบริการเสริมรวมทั้งสิ้น 4 รายการ สร้างรายได้ให้บริษัท 7-8% จากรายได้รวม ตั้งเป้าอีก 5 ปี รายได้จากบริการเสริมจะเพิ่มสัดส่วนเป็น 15% ของรายได้รวม และเพิ่มเป็น 25% ในอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นสัดส่วนเท่ากับสายการบินใหญ่ๆในโลก และ บริการเสริมนี้จะทำให้เราสามารถปรับลดค่าตั๋วโดยสารได้ถูกลง เรียกลูกค้ามาใช้บริการได้เพิ่มขึ้น”
ปี51’ขาดทุนจากซื้อน้ำมันล่วงหน้า
ด้านผลประกอบการ ในปี 2551 ขนส่งผู้โดยสารทั้งปีได้รวม 4.2 ล้านคน ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะได้ 4.5 ล้านคน เพราะปัญหาการเมืองและการปิดสนามบิน แต่ปีนี้จากนโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยวของ ททท.และรัฐบาลรวมถึงภาคเอกชน ไทยแอร์เอเชียจึงตั้งเป้าว่าปีนี้จะขนส่งผู้โดยสารได้รวมทั้งปีที่ 5.1 ล้านคน เพิ่มขึ้นเกือบ 1 ล้านคนจากปีก่อน และมีรายได้รวมปีนี้อยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท เติบโตจากปีก่อนราว 10-15% ขณะที่ปีก่อน ยอมรับว่า ผลประกอบการขาดทุนซึ่งส่วนหนึ่งเป็นการขาดทุนจากการทำสัญญาซื้อน้ำมันล่วงหน้า(เฮดจิ้ง)
“ช่วงต้นปี 2551 ราคาน้ำมันปรับตัวสูงมาก เราจึงทำสัญญาซื้อล่วงหน้าเพื่อประกันความเสี่ยง แต่พอช่วงครึ่งปีหลัง ราคาน้ำมันลดลงเร็วมาก ทำให้เราขาดทุนตรงนี้เยอะ แต่ปีนี้เรายังไม่ทำสัญญาซื้อล่วงหน้า ต้องรอดูภาวะตลาด ซึ่งขณะนี้ต้นทุนค่าเชื้อเพลิงของธุรกิจอยู่ที่สัดส่วน 25-30%ของต้นทุนทั้งหมด ลดลงจากช่วงที่ราคาน้ำมันแพงทำให้ต้นทุนค่าเชื้อเพลิงพุ่งขึ้นไปแตะที่เกือบ 60%”
แผนธุรกิจปีนี้จะขยายเส้นทางบินตามแผนเดิม โดยปีนี้จะส่งมอบเครื่องบินใหม่อีก 4 ลำ โดยลำแรกส่งมอบไปแล้วเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ส่วนอีก 3 ลำจะทยอยส่งมอบช่วงกลางปี และปลายปี ทำให้สิ้นปีนี้ ไทยแอร์เอเชียจะมีฝูงบินรวม 19 ลำ จากปัจจุบันมี 16 ลำ และเมื่อได้เครื่องใหม่มา ไทยแอร์เอเชียก็จะขยายเส้นทางบินไปประเทศ อินเดีย และ จีน ประเทศละ 2-3 เส้นทาง ซึ่งการเพิ่มเส้นทางบินใหม่จะช่วยสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้น
|
|
|
|
|