Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน29 สิงหาคม 2546
บาทแข็งสุดใน13เดือน " ทักษิณ" แนะส่งออกรับดอลลาร์             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารแห่งประเทศไทย

   
search resources

ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)
ทักษิณ ชินวัตร
เสถียร ตันธนะสฤษดิ์
พงศธร คุณานุสรณ์
จักรมณฑ์ ผาสุกวนิช
ทัศนา รัชตโพธิ




ทักษิณยันเงินไทยที่แข็งค่าถึง 41.15 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐวานนี้ แข็งสุดในรอบ 13 เดือน แนวโน้มแข็งค่าต่อหากแบงก์ชาติไม่แทรกอีก เป็นไปตามทิศทางแท้จริงของเศรษฐกิจไทย ที่คาดปีนี้จะขยายถึง 6% แต่มั่นใจยังปกติ แนะผู้ส่งออกไทยรับค่าสินค้าเป็นดอลลาร์สหรัฐ เพื่อไม่ให้เสียเปรียบคู่ค้า ด้านแบงก์ชาติยอมรับเงินบาทระยะยาวแนวโน้มแข็งค่ามากขึ้น เหตุดอลลาร์จะอ่อนลงเรื่อยๆ แต่เฝ้าจับตา ใกล้ชิด เริ่มแทรกแซงแล้ว ขณะที่สภาพัฒน์เตรียมปรับประมาณการขยายตัวเศรษฐกิจ ไทยปีนี้เพิ่มเป็น 6% ตามคลัง ขณะที่นายแบงก์ยันเงินฝรั่งไหลเข้าต่อเนื่องลงทุนอุตสาหกรรม-ธุรกิจ-หุ้น คาดดอกเบี้ยไทยค่อยๆ ขึ้นไตรมาส 2 ปี 2547

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นวานนี้ (28 ส.ค.) ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ใช้นโยบายการจัดการกึ่งลอยตัวเงินบาท (Managed float policy) เพื่อให้เครื่องมือนี้มีประสิทธิภาพ แต่ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจไทยแข็งมาก และตัวเลขเศรษฐกิจมหภาคค่อนข้างสมดุลดีมาก

"ทำให้ความเชื่อเงินบาทแข็งขึ้นมีสูง เพราะมันทานไม่ค่อยอยู่ ก็ต้องเป็นไปตามทิศทางที่แท้จริงของภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งทาง ธปท.ได้ดูแลให้เหมาะสม โดยให้มีเสถียรภาพมากที่สุด แต่เป็นเสถียรภาพที่เป็นไปในทิศทางเดียวกับเศรษฐกิจ"

แนะส่งออกรับเป็นดอลลาร์

"ค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น ความจริงแล้วไม่ไว เพียงแต่เศรษฐกิจเราโตไว และทุกคนยอมรับว่า เศรษฐกิจจะโตถึง 6% ตามที่ตั้งเป้าไว้ จากเดิมที่เคยทำนายไว้แค่ 3.3% ซึ่งโตมากกว่าที่ทำนายไว้เกือบ 100% เพราะฉะนั้น ก็ทำให้ทุกคนมองว่าทิศทางของประเทศไทยแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ" พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว

นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า เงินบาทเคยอยู่ที่ 25 บาทต่อดอลลาร์ และอ่อนถึง 50 บาท "ดังนั้นจะกลับไปอยู่ที่ 40 บาทต้นๆ ก็ไม่เห็นเป็นไร" เขายืนยัน อย่างไรก็ตาม ส่วนผู้ส่งออก ต้องปรับตัวเอง โดยควรจะต่อรองการค้าเป็นค่าดอลลาร์ อย่าเป็นค่าเงินบาท เพราะมิฉะนั้นจะทำให้ผู้ส่งออกเสียเปรียบได้

แบงก์ชาติจับตา-แทรกแซงใกล้ชิด

ทางด้านนายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) กล่าวหลังการประชุมคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ว่าที่ประชุมคณะกรรมการธปท. เป็น ห่วงแนวโน้มค่าเงินบาทระยะยาวที่อาจแข็งขึ้นอีกตามปัจจัยหลักของโลก คือดอลลาร์สหรัฐปรับ ตัวอ่อนค่าต่อเนื่องเพราะขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ขณะนี้เพิ่มขึ้นสูงมาก เฉลี่ย 1,500 ล้านดอลลาร์ต่อวัน ซึ่งถือว่าเป็นอัตราสูงมาก

ธปท.ดูแลเรื่องนี้อยู่ใกล้ชิดตราบใดสหรัฐฯ ยังไม่สามารถกดดันจีนปรับค่าเงินหยวนแข็งขึ้นตามการอ่อนค่าดอลลาร์ ค่าเงินบาทและค่าเงินภูมิภาคนี้ จะแข็งขึ้นไม่ได้เช่นกัน เพราะหากปล่อยให้บาทแข็งขึ้นมาก จะทำให้ความสามารถการแข่งขันการค้าไทยเสียเปรียบจีน และประเทศภูมิภาคอื่นๆ ได้ ค่าเงินบาท แม้จะแข็งขึ้นขณะนี้ แต่แข็งขึ้นไม่มากนัก แต่หากปล่อยตามความเป็นจริง ค่าบาทควรจะแข็งขึ้นมากกว่าปัจจุบัน

ด้านนางทัศนา รัชตโพธิ ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท.สายตลาดเงิน กล่าวว่าธปท.จับตาการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทใกล้ชิด มองว่า แม้เงินบาทแข็งขึ้น แต่ยังไม่มีปัญหากระทบการส่ง ออกและความสามารถการแข่งขันของไทย เพราะค่าเงินประเทศภูมิภาคนี้อื่นๆ แข็งค่าขึ้นด้วย

สภาพัฒน์เล็งปรับเพิ่มจีดีพี 6% ปีนี้

นายจักรมณฑ์กล่าวเพิ่มเติมว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่ธปท.รายงานก.ค. ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง ภาคส่งออกยังคงดีต่อเนื่อง การส่งออกก.ค. ยังเป็นเลข 2 หลัก ซึ่งถือว่ายังขยายตัวอัตราที่ดี

การประกาศตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของสภาพัฒน์กลางก.ย.นี้จะปรับประมาณการการขยายตัวเศรษฐกิจไทยปีนี้ขึ้น ตามสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวง การคลัง

โดยสภาพัฒน์คาดเป็นไปได้สูงที่เศรษฐกิจ ไทยจะขยายตัวทั้งปีนี้ 6% หรือใกล้ 6% ตามที่รัฐบาลตั้งเป้า เนื่องจากไตรมาส 2 การขยายตัวเศรษฐกิจประเทศประมาณ 5% กว่า เมื่อรวมกับการขยายตัวเศรษฐกิจไทยไตรมาส 1 ที่ 6.7% ทำให้ครึ่งปีแรก เศรษฐกิจ ประเทศขยายตัว 6%

เขากล่าวว่าภาคส่งออกของไทยขยายตัวสูง มากช่วงครึ่งปีแรก แนวโน้มยังดีครึ่งหลัง เป็น สาเหตุทำให้สภาพัฒน์เตรียมปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยทั้งปีนี้ขึ้น เพราะประมาณการเดิม คาดว่าการส่งออกจะขยายตัว 10%

เงินฝรั่งไหลเข้าต่อเนื่อง

นายเสถียร ตันธนะสฤษดิ์ ผู้ช่วยกรรม การผู้จัดการ กลุ่มสายงานตลาดทุน ธนาคาร ดีบีเอส ไทยทนุ กล่าวว่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเกิด จากเศรษฐกิจไทยดีขึ้นต่อเนื่อง บวกนักลงทุนต่างชาติก็มองว่าเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มขยายตัวดี จึงทำให้เงินทุนไหลเข้า

วานนี้เงินไทยเปิด 41.20 บาทต่อดอลลาร์ เคลื่อนไหวเพิ่มระหว่าง 5-10 สตางค์ ค่าเงินบาท ค่อยๆ ทยอยปรับตัวขึ้นตั้งแต่ต้นส.ค.เป็นการ เข้ามาลงทุนหลากหลายไม่ใช่ตลาดหุ้นอย่างเดียว

บาทแข็งสุดรอบ 13 เดือน

"บาททยอยแข็งค่าขึ้น ถือว่ารับได้ ไม่ผันผวน ซึ่งแบงก์ชาติมีหน้าที่ดูอย่างเดียว ไม่ให้ผันผวน โดยการส่งออกยังมีการขยายตัวได้ในเป้าหมาย ตราบที่เงินบาทไม่แข็งเกินประเทศคู่แข่ง คาดว่าภายในสิ้นปีนี้ อยู่ในระดับ 41 บาท"

ความเคลื่อนไหวเงินบาทวานนี้ แข็งค่าสุดที่ 41.15 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแข็งค่าสุดในรอบ 13 เดือน ต่อมาเคลื่อนไหวอ่อนค่าเล็กน้อยที่ 41.16-41.18 บาท จากปัจจัยสนับสนุนหลายเรื่อง

ยันยังไม่กระทบส่งออกไทย

ทั้งกรณีนายอดิศัย โพธารามิก รัฐมนตรีพาณิชย์ ที่ระบุว่าเงินบาท 41 บาทไม่เป็นอุปสรรค การส่งออกของไทย รวมทั้งข่าวดีที่กระทรวงการ คลังปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้ ขยาย ตัวเพิ่มขึ้นจากเดิม 5.1% เป็น 6.1% และบริษัท ฟิทช์ เรตติ้ง บริษัทจัดอันดับเครดิตจากอังกฤษ จะปรับอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรสกุลเงินตราต่างประเทศระยะยาวของไทยเพิ่มจาก BBB- ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของพันธบัตรที่น่าลงทุน

ล้วนเป็นข่าวดีสนับสนุนเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม นักค้าเงินเตือนว่า ถ้าเงินบาทแข็งค่าถึง 41 บาท อาจมีการเข้าแทรกแซงจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพราะเกรงกระทบการส่งสินค้าออกต่างประเทศ

คาดระยะกลาง 41.05-41.25 ต่อดอลลาร์

กรอบความเคลื่อนไหวเงินบาทระยะกลาง ระหว่าง 41.05-41.25 บาท ต่อดอลลาร์ ด้านเงิน เยน ญี่ปุ่นแข็งค่าขึ้นวานนี้เช่นกัน ซื้อขายที่ 117.52 เยนต่อดอลลาร์ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจยุ่นระบุว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นดีขึ้น และเงินทุนไหลเข้าตลาดหุ้นญี่ปุ่น

ทำให้ดัชนีนิเคอิสูงขึ้น แต่นักลงทุนยังไม่แน่ใจว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะแทรกแซง เงินเยนที่ 117 เยนต่อดอลลาร์หรือไม่ ส่วนดอลลาร์ ยังเคลื่อนไหวช่วงแคบๆ เนื่องจากนักลงทุน ยังรอความชัดเจนตัวเลขเศรษฐกิจมะกันสำคัญอีกอย่างน้อย 2 ตัว

ฟันธงดอกเบี้ยขยับขึ้นไตรมาส 2 ปี 47

นายพงศธร คุณานุสรณ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.) เชื่อว่าแนวโน้มดอกเบี้ยไทย จะสูงขึ้นประมาณไตรมาส 2 ปี 2547 สาเหตุหลักจากดอก เบี้ยปัจจุบัน เชื่อว่าต่ำสุดแล้ว ประกอบกับปีหน้า กองทุนวายุภักษ์ที่รัฐบาลตั้ง จะเปิดจำหน่ายหน่วย ลงทุน ซึ่งจะช่วยดูดซับสภาพคล่องได้จำนวนหนึ่ง

เม.ย. 2547 จะหมดช่วงประชาชนชำระภาษี เงินได้บุคคลธรรมดา สภาพคล่องระบบการเงินจะลดลง ทำให้ธนาคารพาณิชย์มีโอกาสปรับดอกเบี้ยขึ้น แต่คาดว่าเป็นลักษณะค่อยๆ ทยอยปรับขึ้น

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us