|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ทรี.ดี. เฮ้าซิ่งแตกไลน์บริษัทใหม่ จับตลาดนิชมาร์เก็ตรับสร้างโฮมออฟฟิศ เปิดตัวแบบบ้านใหม่เจาะธุรกิจสปา เล็งอนาคตขยายแบบบ้านหลากหลายลงลึกเจาะรายธุรกิจ ชูจุดเด่นวันสต็อปเซอร์วิสพ่วงบริการหาแหล่งเงินกู้-หาที่ดินอำนวยความสะดวกลูกค้า SMEs
โฮมออฟฟิศเป็นนิชมาร์เก็ต ซึ่งมีผู้เล่นในตลาดเพียงไม่กี่ราย ทั้งในกลุ่มธุรกิจบ้านจัดสรรและรับสร้างบ้าน และยังไม่สามารถประเมินมูลค่าตลาดได้อย่างชัดเจน แต่ที่ผ่านมาก็เป็นตลาดหนึ่งที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องตามจำนวนของ SMEs ที่เกิดขึ้นใหม่หรือมีการขยายธุรกิจ และต้องการมีออฟฟิศเป็นของตนเองในทำเลที่อยู่ไม่ห่างจากใจกลางเมืองมากนัก สำหรับในกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านถือได้ว่ายังไม่มีบริษัทใดที่เจาะตลาดรับสร้างโฮมออฟฟิศอย่างชัดเจน เป็นโอกาสให้ “โฮม ออฟฟิศ บิวเดอร์ เซ็นเตอร์ (HOBC)” บริษัทลูกที่แตกตัวออกมาจากบริษัทรับสร้างบ้าน ทรี.ดี. เฮ้าซิ่งเมื่อปีที่แล้ว เพื่อเจาะตลาดรับสร้างโฮมออฟฟิศโดยเฉพาะ ซึ่ง 1 ปีที่ผ่านมาที่ HOBC ลงไปสัมผัสกับกลุ่มลูกค้า SMEs อย่างใกล้ชิด จึงเห็นโอกาสและช่องว่างทางการตลาด จึงได้พัฒนาแบบโฮมออฟฟิศของตัวเองขึ้น โดยเป็นแบบที่ลงลึกถึงความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกันไปเป็นรายธุรกิจ
แบบโฮมออฟฟิศแรกที่ HOBC ออกแบบขึ้นเพื่อเจาะ SMEs เป็นรายธุรกิจ คือ สปา ที่หทัยรัตน โมไนยพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม ออฟฟิศ บิวเดอร์ เซ็นเตอร์ จำกัด กล่าวว่า เป็นธุรกิจที่มีการเติบโตสูง มีผู้สนใจมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้ในช่วงนี้เศรษฐกิจจะชะลอตัว จนอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของกลุ่ม SMEs แต่ก็ยังมี SMEs อีกกลุ่มหนึ่งที่ยังมีการขยายธุรกิจ ทั้งกลุ่มที่ทำสปาอยู่แล้ว กลุ่มคนที่มีเงินออม ต้องการทำธุรกิจเสริมนอกเหนือจากทำงานประจำ ในช่วงที่ผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ในระดับต่ำ กลุ่มคนที่เกษียณอายุก่อนกำหนดและต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจใหม่ รวมถึงเป็นธุรกิจที่เน้นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูง ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ จึงทำให้ยังมีดีมานด์สำหรับการก่อสร้างโฮมออฟฟิศสปาอยู่
HOBC ได้ออกแบบโฮมออฟฟิศสำหรับสปาไว้ 2 แบบ ในสไตล์โมเดิร์น สามารถประกอบธุรกิจสปาและพักอาศัยได้ โดยวางระบบประปา โครงสร้างและฟังก์ชั่นสำหรับธุรกิจสปาโดยเฉพาะ ได้แก่ Series 8 MS-369 บนที่ดินขนาด 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 369 ตร.ม. สำหรับผู้ประกอบการสปาขนาดเล็กหรือในรูปแบบแฟรนไชส์ ราคาเริ่มต้น 5.5 ล้านบาท และแบบ Series13 MS-585 บนที่ดินขนาด 70-80 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 585 ตร.ม. สำหรับผู้ประกอบการสปาขนาดใหญ่ครบวงจร หรือสถาบันความงาม (Medical Spa) สามารถแบ่งมุมทำร้านกาแฟหรือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพได้ ราคาเริ่มต้น 8.7 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 6-8 เดือน ซึ่งหทัยรัตนกล่าวว่า การทำสปาต้องวางระบบประปาและมีโครงสร้างที่ซับซ้อนมากกว่า ซึ่งอาคารทั่วไป เช่น อาคารพาณิชย์ไม่ได้ออกแบบเพื่อรองรับไว้ตั้งแต่ต้น ทำให้เจ้าของธุรกิจต้องเสียเงินในการปรับปรุงอาคารมากมาย
นอกจากนี้ยังได้นำกลยุทธ์ให้บริการลูกค้าแบบ One Stop Service ของทรี.ดี. เฮ้าซิ่งมาให้บริการลูกค้า SMEs ด้วย โดยจับมือกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา ทำแพ็คเก็จทางการเงิน “HOBC+BAY สร้างได้จริงที่ HOBC ไม่มีเงินก็สร้างได้” ในการจัดหาแหล่งเงินทุนให้ลูกค้า SMEs ที่ก่อสร้างโฮมออฟฟิศกับบริษัท โดยคิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ยอดผ่อนชำระกรณีขอสินเชื่อก่อสร้างอาคารและค่าที่ดินอยู่ที่ 50,000-60,000 บาทต่อเดือน แต่หากลูกค้ามีที่ดินของตัวเองอยู่แล้ว บริษัทจะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา วิเคราะห์ศักยภาพของที่ดินว่าเหมาะสมในการทำธุรกิจสปาหรือไม่ให้แก่ลูกค้า หากอยู่ในทำเลไม่เหมาะสมหรือลูกค้าไม่มียังไม่มีที่ดินของตัวเอง บริษัทฯ จะเป็นผู้จัดหาที่ดินแปลงใหม่ที่เหมาะสมมานำเสนอให้ลูกค้า
โดยมีแผนจะร่วมมือกับบริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ คือ บริษัท ฟอร์เบสท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด และธนาคารพาณิชย์ ในการจัดหาที่ดินเปล่า หรือ NPA มานำเสนอให้แก่ลูกค้า นอกจากนี้ยังเจาะตรงถึงกลุ่มเป้าหมายที่ทำธุรกิจสปา ด้วยการร่วมมือกับสมาคมสปาไทยที่มีฐานสมาชิกกว่า 300 ราย รวมถึงเป็นที่ปรึกษาด้านข้อมูลของธุรกิจสปาด้วย
ในปีแรกบริษัทฯ ตั้งเป้าก่อสร้างโฮมออฟฟิศให้ลูกค้าจากกลุ่มสปา 5-6 หลัง จากเป้ารวม 10 หลัง หรือ 50 ล้านบาท จากปีที่แล้วที่มีรายได้รวม 20 ล้านบาท โดยในช่วงกลางปีจะเปิดตัวแบบโฮมออฟฟิศสำหรับธุรกิจคลินิกทันตกรรม นอกจากนี้จะพัฒนาแบบโฮมออฟฟิศใหม่ๆ เพื่อเจาะธุรกิจเฉพาะประเภทเพิ่ม เช่น ธุรกิจความงาม ที่ยังมีแนวโน้มเติบโตสูง
|
|
|
|
|